xs
xsm
sm
md
lg

ปมหุ้นสื่อฯลามหลายพรรค ซัด"ธนาธร"อย่าจับคนอื่นป็นตัวประกัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วานนี้ (2พ.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครส.ส. 4 ราย ว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร ส.ส.หรือไม่ เนื่องจากถือหุ้นในธุรกิจสื่อ ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หน.พรรคภูมิใจไทย ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค ถือหุ้นใน บริษัท ซิโนไทย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด 37,500 หุ้น , นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ถือหุ้นในบริษัท ศรีธาราแลนด์ จำกัด 750,000 หุ้น และถือหุ้น บริษัทพิมลทรัพย์ จำกัด 80,000 หุ้น ถือหุ้นในบริษัทแฟซิฟิกเอ็กซ์คลูซีฟ ซิตี้ คลับ จำกัด อีก 35,000 หุ้น ซึ่งในบริษัทดังกล่าวนี้ ยังพบมีชื่อ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 27 กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นอยู่ 35,000 หุ้น รวมถึง นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ถือ 10,000 หุ้นด้วย จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบ และถ้าหากบุคคลดังกล่าวขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร จะถือว่ามีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม หรือไม่ รวมถึงต้องยุบพรรคการเมืองตามมา หรือไม่
ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค พปชร. โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หลังจากเผยแพร่ข้อมูลการถือหุ้นสื่อของว่าที่ ส.ส.พรรคต่างๆ ว่า จากที่ นายธนาธร ได้โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงตน ในเรื่องถือหุ้นบริษัททำสื่อฯนั้น ขออธิบายหลักการกม. แบบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า หากตนถือหุ้นสื่อฯ หรือจะผิดพลาดที่ไม่ได้ขาย หรือโอน ในกฎเกณฑ์ของกกต. ตามกรอบกม.ตนก็หลุดจากการเป็นส.ส. ง่ายๆ ตรงๆ ไม่มีอ้อมไปมา และจะพร้อมรับคำตัดสินแบบลูกผู้ชาย
" ส่วนตัวผมชัดเจนอยู่แล้ว มีบริษัทที่ทำโรงเรียน อีกบริษัททำอสังหาฯ สื่อมวลชนไปตรวจสอบก่อนได้เลย แต่ของดการมาสอบถามกันช่วงนี้ เพราะช่วงสัปดาห์นี้ ถือเป็นช่วงเวลามหามงคลของประเทศชาติ เป็นเวลาพิเศษสำหรับคนไทยทุกคน ผมอยากให้สื่อมวลชนช่วยนำพื้นที่ข่าวให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องราชพิธีมากกว่าประเด็นการเมือง และที่นายธนาธร ได้เขียนว่า จะสงวนสิทธิ์ในการฟ้อง ก็ฟ้องเองเลยนะ อย่าให้ตัวแทนมาฟ้อง สังคมเราเจอแต่ตัวแทนปลอมๆมาพอแล้ว" นายณัฏฐพล ระบุ
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณี นายธนาธร ระบุพาดพิงว่า ตนมีการถือครองหุ้นสื่อ ว่า กรณีของนายธนาธร และกรณีของตน ถือว่าเป็นคนละประเด็นกัน โดยกรณีนายธนาธร เกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อ ที่มีกิจการทำสื่อหนังสือในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด มีประเด็น คือ มีการโอนหุ้นก่อนวันรับสมัครเลือกตั้งแล้วหรือไม่ ดังนั้นต้องไปหาข้อเท็จจริงตรงนี้ ว่าโอน หรือไม่โอน ส่วนประเด็นของตน ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะเท่าที่จำได้ ตนไม่ได้ทำกิจการอะไรเกี่ยวข้องกับสื่อ และข้อมูลที่ส่งมาเป็นเรื่องวัตถุประสงค์ของการจดแจ้ง เพราะกฎหมายกำหนดว่า ห้ามเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้น หรือเจ้าของ ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังนั้น ตนยินดีให้ตรวจสอบ ซึ่งตามรธน. ห้ามไม่ให้ผู้สมัครที่ลงรับเลือกตั้งถือหุ้น หรือทำกิจการเกี่ยวกับสื่อ ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุและ โทรทัศน์ เพราะถือเป็นแต้มต่อของนักการเมือง จึงห้ามไม่ให้เป็นเจ้าของ หรือทำกิจการนั้นๆ และตนก็ไม่ได้ทำกิจการ จึงถือว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ ฉะนั้น ต้องแยกแยะประเด็นให้ถูกและอธิบายต่อสังคมให้ครบ
"ผมอยากเชิญนายธนาธร ถ้าหากมีแนวคิดที่ตรงกับก็ให้มาร่วมต่อสู้กันว่า ตามรัฐธรรมนูญมันไม่ควรเป็นความผิดตามคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และอย่าพยายามไปจับ หรือเอาใครมาเป็นตัวประกันในลักษณะมีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน ต้องแยกแยะจับให้ตรงประเด็น" นายสาธิต กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น