กกต.ฟันธนาธร-แจ้งข้อหา-ไต่สวนคดีถือหุ้นสื่อ-ซัด"ปิยบุตร"ปั้นหลักฐานเท็จ

ผู้จัดการรายวัน360 - ปมถือหุ้นสื่อพ่นพิษ! กกต. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา "ธนาธร" เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้โอกาสชี้แจงภายใน 7 วัน โต้ "ปิยบุตร" มีอำนาจฟันเรื่องคุณสมบัติ ทั้งก่อนและหลังการประกาศผล ด้าน "ธนาธร" ผูก‘ผ้ากันเปื้อน’สู้ อ้างนศ.บอกช่วงนี้โดนสาดโคลนบ่อย "ปิยบุตร" งัดข้อกฎหมาย อ้างกกต.ไร้อำนาจแจกใบส้ม "ศรีสุวรรณ" ยื่นหลักฐานกกต.รอบ 3 มัด "ธนาธร" ชี้คำแถลง "ปิยบุตร" เข้าข่ายสร้างหลักฐานเท็จ ขณะที่โลกโซเชียลฯ ข้องใจ "ธนาธร" รู้วันสมัครส.ส.ตั้งแต่ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งยังไม่ออกได้ไง

วานนี้ (23 เม.ย.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. แถลงหลังการประชุมกกต.ว่า กกต.มีมติให้แจ้งข้องกล่าวหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ร้องว่า นายธนาธร ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 1 เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) และพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 42(3) อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง

คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีหลักฐานเบื้องต้นฟังได้ว่า นายธนาธรเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ จำนวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้นตั้งแต่ 1350001-2025000 กกต.จึงได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธนาธร โดยมอบหมายให้เลขาธิการกกต. เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหา และรับฟังพยานหลักฐานแทน ตามพ.ร.ป.กกต. พ.ศ.2561 ข้อ 64 และให้ดำเนินการไต่สวนให้สิ้นกระแสความ

ทั้งนี้ ตามข้อกล่าวหาข้างต้น นายธนาธร มีสิทธิที่จะไม่ให้ถ้อยคำ หรือมีหนังสือชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจ เข้าร่วมฟังการชี้แจงแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาได้ ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา

สำหรับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา จะส่งถึงนายธนาธร ในวันเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ถือเป็นขั้นตอนการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าข้อกล่าวหามีมูลเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่ถึงขั้นตัดสินว่าทำผิดไปแล้ว หลังจากนี้ต้องรอฟังการชี้แจงของนายธนาธร ซึ่งอาจจะแก้ข้อกล่าวหาได้ และที่นายธนาธร ส่งทนายมายื่นคำชี้แจงก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานกกต. ก็จะมอบให้กับคณะกรรมการไต่สวนนำไปพิจารณารวมกับคำชี้แจงของนายธนาธร ที่จะชี้แจง ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการไต่สวนได้รับฟังคำชี้แจงจากฝั่งของนายธนาธร ก็จะนำมาสรุปผลการไต่สวน ก่อนเสนอให้ที่ประชุมกกต. พิจารณาอีกครั้ง

นายแสวง ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นที่ว่า หากผลการไต่สวนพบว่า นายธนาธร กระทำผิดจริง กกต.จะพิจารณาให้ "ใบส้ม" หรือไม่ เพราะขั้นตอนดังกล่าวเป็นดุลยพินิจของ กกต.ไม่ขอสมมุติ ไม่ขอให้คำตอบแทนกกต. เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน รวมทั้งจะดำเนินคดีอาญา ในฐานะที่รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติในการลงสมัคร แต่ยังมาลงสมัครหรือไม่ โดยเห็นว่าต้องไปดูข้อเท็จจริงตอนนั้น แต่ถ้าตามกฎหมายฟังได้ว่า รู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิสมัคร แต่ยังมาสมัคร หากเข้าช่องนั้น ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย

ส่วนเรื่องการใช้ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่งตัวเองและผู้สมัครของพรรคลงสมัคร จะเข้าข่ายกรรมการบริหารพรรครู้เห็น แล้วเป็นเหตุให้ยุบพรรคหรือไม่ ก็ขอให้รอฟังข้อเท็จจริงก่อน เพราะยังมีประเด็นเรื่องเงื่อนเวลาก่อนหรือหลัง ซึ่งจะดำเนินการแตกต่างกัน แต่ยอมรับว่า ถ้าก่อนการประกาศรับรองผล กกต.พบว่ามีการทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เป็นอำนาจของหน้าที่กกต. ที่จะดำเนินการ

ส่วนกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า กกต.ไม่สามารถวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติได้ เพราะเลยกำหนดเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติไปแล้วนั้น นายแสวง กล่าวว่าไม่สามารถกล่าวแบบนั้นได้ เนื่องจากไม่ว่าก่อนเลือกตั้ง หรือหลังเลือกตั้ง กกต.ก็สามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้ เป็นอำนาจของกกต.

เมื่อถามถึงกระแสข่าว กรณีประธานอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนไม่พอใจ ขอลาออกจากหน้าที่ นายแสวง กล่าวว่า เป็นแค่ข่าว ยังไม่มีการลาออก สำหรับการตรวจสอบกรณีดังกล่าวมีคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรก คือคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน และคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน ซึ่งจะทำหน้าที่กลั่นกรองสำนวนจากชุดไต่สวน

"ธนาธร"รีบกลับจากท่องยุโรป

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการ์ทัวร์ทวีปยุโรป ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Thanathorn Juangroongruangkit-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ระบุว่า เพิ่งได้รับแจ้งจากเมืองไทยว่า ให้รีบกลับไปเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อันไม่คาดคิด ... เจอกันที่ไทยครับ

แต่หลังจากที่ได้รับทราบมติของกกต. แล้ว นายธนาธร ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ Thanathorn Juangroongruangkit @Thanathorn_FWP ระบุว่า “ของที่ระลึกจากการไปเลคเชอร์ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟ์ เนเธอร์แลนด์ น้องๆนักศึกษาให้ “ผ้ากันเปื้อน” กับผม พร้อมอธิบายว่า “เห็นช่วงนี้โดนสาดโคลนบ่อย” ได้มาปุ๊บก็ได้ใช้ทันทีเลยครับ”

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายธนาธร จะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 25 เมษายน 2562 นี้ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลง กรณี กกต.อาจมีมติแจก"ใบส้ม" ให้นายธนาธร ว่า กระบวนการตรวจสอบกรณีนี้ ตอนนี้แบ่งเป็น 3 ช่องคือ 1. การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งจะทำตั้งแต่วันสมัคร ถึง วันที่ 23 มี.ค. หากพบปัญหา กกต.จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณา 2. กรณีเลือกตั้งไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. จนถึงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ที่มีกำหนดว่าจะเป็นวันที่ 9 พ.ค.ก็จะมีการตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง ที่จะนำไปสู่การแจก ใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม เป็นอำนาจ กกต.วินิจฉัย ส่วนการขัดคุณสมบัติและลักษณะต้องตามพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 53 ก็ระบุว่า ใช้สำหรับ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น และ 3. หากประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ถ้าพบ ส.ส.ที่รับรองไปแล้วขัดคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้ามอีก ก็ต้องไปร้องให้ศาลรธน.วินิจฉัย

นายปิยบุตร กล่าวว่า กระบวนการที่ตรวจสอบกันอยู่นี้ ถือว่าหมดเวลาไปแล้ว นายธนาธร เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 การตรวจสอบ และการจะร้องเรียนจะทำตามข้อ 2 ไม่ได้ เพราะใช้สำหรับ ส.ส.เขต หากจะไปรอส่งศาลรธน. ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับรองส.ส. จึงพยายามจะใช้ช่องแจกใบส้ม คือ ช่องการทำให้การเลือกตั้งสุจริต และเที่ยงธรรมหรือไม่ ซึ่ง กกต.มีอำนาจแจกใบเหลือง ที่จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ใบแดง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และใบส้ม ตาม ม.132 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งกำหนดว่า ถ้ากกต.ไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งไม่สุจริต หรือเที่ยงธรรม ให้กกต. สั่งระงับสิทธิชั่วคราวไม่เกิน 1 ปี

"ถามว่า คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ มันคงละเรื่องเลย ถ้าจะตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามในฐานผู้สมัครส.ส. ก็เลยเวลามาแล้ว ถ้าจะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ ก็ต้องรอรับรองผลให้เป็นส.ส.ก่อน แล้วจึงส่งเรื่องให้ศาลรธน. พิจารณา จึงพยายามใช้ช่องใบส้ม หากมีการใช้ช่องทางการแจกใบส้ม ขอยืนยันว่า เป็นการใช้กฎหมายคนละช่อง คนละประตู จึงไม่มีที่ให้ใช้แจกใบส้ม ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นเรื่องการเลือกตั้งไม่สุจริต ไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามส.ส. ผมยืนยันว่า เป็นคนละเรื่อง ผิดฝาผิดตัว และหากจะใช้เรื่องนี้ ต้องให้นายธนาธร ชี้แจง ดังนั้นจึงพิจารณาว่า กกต.ไม่อาจแจกใบส้มได้วันนี้ เต็มที่คือ แจ้งข้อกล่าวหาก่อน แล้วต้องให้นายธนาธร ชี้แจงข้อกล่าวหา เพราะกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพต่อคนอื่น ซึ่งอนาคตใหม่พร้อมชี้แจงทั้งกฎหมาย และข้อเท็จจริง" ปิยบุตร กล่าว

"ศรีสุวรรณ"ยื่นหลักฐานมัด"ธนาธร"

วานนี้ (23 เม.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 3 กรณีร้องเรียนให้ไต่สวน ตรวจสอบ และวินิจฉัย เพื่อส่งให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ นายธนาธร จากการถือครองหุ้นสื่อฯ โดยพบหลักฐานใหม่ จากการแถลงข่าวของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่แก้ต่างแทนนายธนาธร ว่าในวันที่ 8 ม.ค. นายธนาธร เสร็จภารกิจหาเสียงที่จ.บุรีรัมย์ ในช่วงบ่าย และขึ้นรถตู้กลับจากบุรีรัมย์ เพื่อมาเซ็นโอนหุ้น ที่กทม. พร้อมนำหลักฐานใบเสร็จ อีซี่พาส เวลา 14.57 น. มาเป็นหลักฐานยืนยัน ซึ่งการเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ มายังกรุงเทพฯ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ชม. หลักฐานที่นายปิยบุตร นำมากล่าวอ้างจึงไม่สมเหตุสมผล ไม่มีตรรกะรองรับ อาจเข้าข่ายการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหา

คำแถลงข่าวของนายปิยบุตร ที่กล่าวถึงการโอนหุ้นไปมา ระหว่างภรรยาของนายธนาธร ไปให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร และโอนต่อไปให้หลาน 2 คน โดยอ้างว่า เพื่อให้หลานได้เรียนรู้เรื่องการทวงหนี้ แล้วมีการโอนหุ้นกลับมาให้แม่ของนายธนาธร อีกครั้ง โดยไม่มีการนำเช็ค หรือหลักฐานการจ่ายเงินค่าหุ้นมาเปิดเผย ต่อมาก็อ้างว่า มารดาของนายธนาธร มีอายุมาก จึงต้องการประชุมปิดบริษัท แต่บริษัทดังกล่าวมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ 10 ล้านบาท ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร การจะแทงหนี้ให้เป็นสูญ ต้องฟ้องคดีต่อศาลและให้ผู้ตรวจสอบบัญชีรับรอง จึงจะสามารถหักกลบลบหนี้ได้ หากไม่ดำเนินการตามขั้นตอน อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินได้ ตนจึงนำหลักฐาน ข้อพิรุธทั้ง 2 ประเด็น มาเสนอให้กกต. พิจารณาก่อนลงมติแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลฯ ได้ตั้งคำถามกรณี นายธนาธร รีบบึ่งรถจาก จ.บุรีรัมย์ มากรุงเทพฯ เพื่อโอนหุ้นบริษัท วีลัค-มิเดีย ในวันที่ 8 ม.ค. ให้ทันวันสมัคร ส.ส. ทั้งๆที่ "ไทม์ไลน์เลือกตั้ง" ในวันดังกล่าว ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเลือกตั้งวันไหน จะสมัคร ส.ส.วันที่เท่าไร เพราะพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ประกาศวันที่ 23 ม.ค. ให้สมัคร ส.ส.วันที่ 4-8 ก.พ.62