xs
xsm
sm
md
lg

คุก3ปี”แม้ว”ไม่รอลงอาญา-เอี่ยวเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลฎีกานักการเมือง พิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา “ทักษิณ ชินวัตร” พร้อมให้ออกหมายจับ คดีเอี่ยวเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่าดอกเบี้ยต่ำเพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียม ที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์จาก บริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ บริษัทในเครือชินคอร์ป ของตระกูลชินวัตร หลัง ป.ป.ช. ร้องรื้อพิจารณาคดีตาม ก.ม.ใหม่ แบบไม่มีตัวจำเลย

วานนี้( 23 เม.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง องค์คณะผู้พิพากษาคดีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)” เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “นายทักษิณ ชินวัตร” อายุ 70 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในฐานความผิดฐาน เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมาอาญา มาตรา 157 ที่เห็นชอบให้เอ็กซิมแบงก์ อนุมัติปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำอัตรา 3% ต่อปี ให้กับรัฐบาลพม่าวงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่า (เมียนมาร์) ซึ่งดอกเบี้ยนั้นต่ำกว่าราคาต้นทุนของเอ็กซิมแบงก์ และเพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียม ที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์จาก บริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ ที่เป็นบริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร

คดีนี้เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2551 องค์คณะฯ มีคำสั่งประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ อม.3/2551 แล้วนัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อจะสอบคำให้การ “นายทักษิณ” ในวันที่ 16 ก.ย.2551 แต่ปรากฏว่าขณะนั้น “นายทักษิณ” ไม่มาศาลเนื่องจากหลบหนีไปต่างประเทศในคดีอื่นแล้ว องค์คณะฯ จึงออกมายจับให้ตามตัวมาดำเนินคดีนับตั้งแต่นั้น

กระทั่งปี 2561 ป.ป.ช.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ให้นำคดีดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยไม่มีตัวจำเลย หลังจาก พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 ออกมาบังคับใช้ ซึ่งในมาตรา 28 บัญญัติสาระสำคัญว่า “ในกรณีที่ศาลประทับรับฟ้องไว้ตาม มาตรา 27 และศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยทราบโดยชอบแล้วแต่จำเลยไม่มาศาล และมีการออกหมายจับจำเลยแล้ว ยังไม่สามารถจับจำเลยได้ภายใน 3 เดือนนับแต่ออกหมายจับ ให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะตั้งทนายความมาดำเนินการแทนตนได้ และไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะมาต่อสู้คดีเมื่อใดก็ได้ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา

ซึ่งวันที่ 4 ก.ค.2561 องค์คณะได้พิจารณาคดีครั้งแรกนี้ใหม่ โดย “นายทักษิณ” ไม่แต่งตั้งผู้ใดรับมอบอำนาจมาศาลแทน ศาลถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ตาม วิ อม. มาตรา 33

ซึ่งองค์คณะฯพิพากษาว่า “นายทักษิณ” จำเลย มีความผิดตามฟ้อง มาตรา 152 ให้จำคุกเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ออกหมายจับจำเลยมาบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ “อดีตนายกฯ ทักษิณ” นั้นปัจจุบัน คงเหลือคดีที่กำลังคดีพิจารณา ไต่สวนโดยไม่มีตัวจำเลยตามกฎหมายใหม่ รวมประกอบด้วย 1.คดีการออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นฯ ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท

2.คดีผู้บริหารธนาคาร-เอกชนทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยฯ ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร กว่า 9.9 พันล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 คดีอัยการสูงสุดยื่นฟ้องเมื่อปี 2551 และ 2555

และ 3. คดีที่ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องตั้งแต่ 2551 กล่าวหาร่วมกลุ่มรัฐมนตรีในรัฐบาลออกนโยบายออกสลากเลขท้าย 3 และ 2 ตัว (หวยบนดิน) โดยมิชอบ.


กำลังโหลดความคิดเห็น