ผู้จัดการรายวัน 360 - ม.รังสิต เปิดตัว "สถาบันวิจัยกัญชาทางการแพทย์" แห่งแรกของประเทศไทย ดร.อาทิตย์ เผยได้รับอนุญาตปลูกกัญชาแล้ว เร่งปรับปรุงสายพันธุ์ให้ได้สารสำคัญ พร้อมเดินหน้าวิจัยครบวงจร "อนุทิน" ประชุมร่วมทีมแพทย์รามาฯ ดัน “กัญชาเสรี” ปลื้มพรรคเป็นความหวังของคนป่วย ระบุ“คนกัญชาพาเราเข้าสภา”ต้องทำนโยบายให้สำเร็จ
วานนี้ (23 เม.ย.) ที่วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ม.รังสิต เป็นประธานพิธี เปิดสถาบันวิจัยกัญชาเพื่อการแพทย์ แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเดินหน้าวิจัยสารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดห้องวิจัยกัญชาให้เห็นถึงขั้นตอนการสกัดกัญชา นอกจากนี้ ม.รังสิต เพิ่งได้รับอนุญาตในการปลูกกัญชา เพื่อวิจัยหาสายพันธุ์ที่ดีที่สุด ให้ได้สารสำคัญที่บริสุทธิ์ที่สุด เช่น สารทีเอชซี ซีบีดี ซีบีเอ็น เป็นต้น ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์แต่ละอย่าง เพราะการมีสารน้อย จะทำให้การสกัดแพงและใช้เวลานาน แต่การหาพันธุ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ราคาถูก ได้ผลผลิตมากที่สุดทั้งนี้ การปลูกจะอยู่ในรูปแบบของโรงเรือนระบบปิด มีการควบคุมคุณภาพ อุณหภูมิ กล้องวงจรปิด ที่วิทยาลัยนวัตกรรมเกษตร เทคโนโยชีวภาพ และอาหาร ม.รังสิต ตึก 5 ชั้นดาดฟ้า ในพื้นที่ 4x8 ตารางเมตร หรือ 32 ตารางเมตร ซึ่งปลูกได้ราว 50 ต้น โดยจะมีสถาบันวิจัยกัญชาทางการแพทย์ช่วยวิจัยควบคู่กันไปในการช่วยปรับปรุงพันธุ์กัญชา
ด้านทีมประชาสัมพันธ์พรรคภูมิใจไทย เผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวขณะประชุม เรื่องกัญชา การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ความตอนหนึ่งว่า ที่ตนและพรรคภูมิใจไทยผลักดันนโยบายกัญชาเสรี เพราะเราศึกษากฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ และฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรคเล็งเห็นว่า ประชาชนได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ เราจึงต้องเข้าไปแก้ไข เพราะภารกิจของภูมิใจไทย คือ ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน การลดอำนาจรัฐ คือ ลดอุปสรรคทางกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการหารายได้อย่างสุจริต
"เรื่องที่เรากลัวมาก คือเมื่อปล่อยปละเรื่องกัญชาให้เป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อย ในอนาคต จะมีกลุ่มคนหัวหมอ ที่จ้องเอากัญชาของคนไทยไปจดสิทธิบัตร เอาของไทยไปแปรรูป แล้วกลับมาขายคนไทยในราคาแพง ดังนั้น เมื่อวันนี้เรารู้แล้วว่า กัญชามีโทษ แต่ก็มีประโยชน์ เราก็ต้องหาทางใช้ประโยชน์ และควบคุมไม่ให้เกิดโทษ"
อย่างไรก็ตาม ตนมีข้อสงสัยจากกฎหมายปัจจุบัน ทำไมต้องเอาเงินเป็นสิบล้าน เพื่อไปขอใบอนุญาตปลูก ทำไมเราไม่ให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ให้คนไทยได้ประโยชน์ร่วมกัน เราต้องยอมรับว่า โลกเปลี่ยนไปมาก กัญชาขายได้ นำไปผสมเครื่องสำอาง ขายแพงมาก ภาครัฐควรสนับสนุนให้ประชาชนได้รับประโยชน์ด้วยกัน เช่น ที่ จ.บุรีรัมย์ มีการจัดอบรมเรื่องกัญชา คนที่มาร่วมงานมากที่สุดคือ ผู้ป่วย เขามองว่ากัญชาเป็นความหวัง ทำให้ตนรู้สึกปลื้มใจว่า ตนเป็นคนให้ความหวังแก่ผู้ป่วย
"วันนี้เราได้ฉันทามติจากประชาชน พูดไม่ต้องอายว่า คนกัญชาพาเราเข้าสภา เราต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ" นายอนุทิน กล่าว
วานนี้ (23 เม.ย.) ที่วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ม.รังสิต เป็นประธานพิธี เปิดสถาบันวิจัยกัญชาเพื่อการแพทย์ แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเดินหน้าวิจัยสารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดห้องวิจัยกัญชาให้เห็นถึงขั้นตอนการสกัดกัญชา นอกจากนี้ ม.รังสิต เพิ่งได้รับอนุญาตในการปลูกกัญชา เพื่อวิจัยหาสายพันธุ์ที่ดีที่สุด ให้ได้สารสำคัญที่บริสุทธิ์ที่สุด เช่น สารทีเอชซี ซีบีดี ซีบีเอ็น เป็นต้น ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์แต่ละอย่าง เพราะการมีสารน้อย จะทำให้การสกัดแพงและใช้เวลานาน แต่การหาพันธุ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ราคาถูก ได้ผลผลิตมากที่สุดทั้งนี้ การปลูกจะอยู่ในรูปแบบของโรงเรือนระบบปิด มีการควบคุมคุณภาพ อุณหภูมิ กล้องวงจรปิด ที่วิทยาลัยนวัตกรรมเกษตร เทคโนโยชีวภาพ และอาหาร ม.รังสิต ตึก 5 ชั้นดาดฟ้า ในพื้นที่ 4x8 ตารางเมตร หรือ 32 ตารางเมตร ซึ่งปลูกได้ราว 50 ต้น โดยจะมีสถาบันวิจัยกัญชาทางการแพทย์ช่วยวิจัยควบคู่กันไปในการช่วยปรับปรุงพันธุ์กัญชา
ด้านทีมประชาสัมพันธ์พรรคภูมิใจไทย เผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวขณะประชุม เรื่องกัญชา การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ความตอนหนึ่งว่า ที่ตนและพรรคภูมิใจไทยผลักดันนโยบายกัญชาเสรี เพราะเราศึกษากฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ และฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรคเล็งเห็นว่า ประชาชนได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ เราจึงต้องเข้าไปแก้ไข เพราะภารกิจของภูมิใจไทย คือ ลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน การลดอำนาจรัฐ คือ ลดอุปสรรคทางกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการหารายได้อย่างสุจริต
"เรื่องที่เรากลัวมาก คือเมื่อปล่อยปละเรื่องกัญชาให้เป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อย ในอนาคต จะมีกลุ่มคนหัวหมอ ที่จ้องเอากัญชาของคนไทยไปจดสิทธิบัตร เอาของไทยไปแปรรูป แล้วกลับมาขายคนไทยในราคาแพง ดังนั้น เมื่อวันนี้เรารู้แล้วว่า กัญชามีโทษ แต่ก็มีประโยชน์ เราก็ต้องหาทางใช้ประโยชน์ และควบคุมไม่ให้เกิดโทษ"
อย่างไรก็ตาม ตนมีข้อสงสัยจากกฎหมายปัจจุบัน ทำไมต้องเอาเงินเป็นสิบล้าน เพื่อไปขอใบอนุญาตปลูก ทำไมเราไม่ให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ให้คนไทยได้ประโยชน์ร่วมกัน เราต้องยอมรับว่า โลกเปลี่ยนไปมาก กัญชาขายได้ นำไปผสมเครื่องสำอาง ขายแพงมาก ภาครัฐควรสนับสนุนให้ประชาชนได้รับประโยชน์ด้วยกัน เช่น ที่ จ.บุรีรัมย์ มีการจัดอบรมเรื่องกัญชา คนที่มาร่วมงานมากที่สุดคือ ผู้ป่วย เขามองว่ากัญชาเป็นความหวัง ทำให้ตนรู้สึกปลื้มใจว่า ตนเป็นคนให้ความหวังแก่ผู้ป่วย
"วันนี้เราได้ฉันทามติจากประชาชน พูดไม่ต้องอายว่า คนกัญชาพาเราเข้าสภา เราต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ" นายอนุทิน กล่าว