xs
xsm
sm
md
lg

"แม้ว"ทางตันรัฐบาลแห่งชาติ(หน้า) นิรโทษกรรมสุดซอยจบกัน !!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**ต้องบอกว่านาทีนี้อีกคนที่กำลัง "เสียศูนย์" กุมเกมการเมืองในไทยไม่ได้เป็นครั้งแรก ขณะเดียวกันหากจะบอกว่าฝ่ายตรงข้าม "แก้เกม" มาแบบรู้ทัน "ย้อนศร" เข้ากลางอกได้ทุกดอกเหมือนกัน เริ่มจากผลการเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่ ที่ทำให้พรรคการเมืองในเครือข่ายของพวกเขา "ไม่ชนะขาด" หรืออาจจะเรียกว่า"แพ้" เป็นครั้งแรกก็อาจพูดแบบนั้นได้
เพราะอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใด นับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ตั้งแต่ที่ ทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยเป็นต้นมา ถูกยุบ แล้วไป "เซ้ง"พรรคใหม่ในชื่อใดก็ตาม พวกเขาก็ชนะการเลือกตั้งถล่มทลายทุกครั้ง จนถูกค่อนแคะว่า "หากส่งเสาไฟฟ้า" ลงไปก็ชนะเหมือนกัน รวมไปถึงการกำหนดเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ตำแหน่งรัฐมนตรี ก็รับรู้กันว่าต้องได้รับไฟเขียวมาจากเขา
แต่หลังจากเกิดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ ปี 2557 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ถือว่าได้ได้ทำให้ "ระบอบทักษิณ" ถดถอยลงไม่น้อย แม้ว่าจะยังไม่อาจทำให้เสื่อมสลายลงไปได้อย่างสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยก็ทำให้การเมืองไทยมีความ "สูสี" มากขึ้นกว่าเดิม และ ทักษิณ ชินวัตร ไม่อาจ"บงการ" หรือคุมเกมได้ทุกอย่างเหมือนอย่างเช่นในอดีตได้อีกต่อไป
**แน่นอนว่า การยุบพรรคไทยรักษาชาติ และการถือกำเนิดขึ้นมาของ พรรคอนาคตใหม่ จนมีแนวโน้มว่ากำลังจะเกิด "ไอดอลใหม่" ขึ้นมาแทนเขา อย่างน้อยเวลานี้สังคมและที่เรียกว่า "คนรุ่นใหม่" กำลังเห่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จนแทบจะลืมชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ไปชั่วขณะมาพักหนึ่งแล้ว
ขณะเดียวกัน แม้ว่าความพยายามรวบรัดรวบรวมเสียงพันธมิตรในพรรคเครือข่ายเพื่อชิงจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่ปิดหีบเลือกตั้งเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ถึงอย่างไร ทุกอย่างมันก็ไม่เป็นใจ เริ่มจากผลการเลือกตั้งที่ไม่ชนะขาดเป็นครั้งแรก และภายใต้กติกาใหม่ ที่ต้องรวบรวมเสียงให้ได้ถึง 376 เสียงขึ้นไป ถึงจะโหวตในรัฐสภาเพื่อชนะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเสียงที่รวบรวมกันได้แบบคร่าวๆ โดยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ทุกอย่างจึงยังไม่นิ่ง ไม่ว่าจะเป็นจำนวน ส.ส. รวมไปถึงความมั่นคงของ "พรรคพันธมิตร" ที่แม้จะมีการรวบรัดลงสัตยาบันกันไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าทั้ง 6 พรรหรือที่อ้างว่า 7 พรรค ที่อ้างว่ามีพรรคเศรษฐกิจใหม่รวมอยู่ด้วย นาทีนี้ก็ต้องรับความจริงว่ามัน "ไม่ชัวร์" นอกจากเรื่องจำนวนส.ส.ที่ไม่นิ่ง เพราะยังมีการผันแปรจากเรื่องใบเหลือง ใบส้ม รวมไปถึงใบแดง ก็ย่อมมีผลต่อการนับจำนวนส.ส.ปาตี้ลิสต์แน่นอน
นี่ยังไม่นับกรณีข่าวคราวเรื่องของ "งูเห่า" ที่กำลังอ้างว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในเวลานี้ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน เพราะทุกอย่างยังไม่นิ่ง ยังไม่เป็นทางการ แต่รับรองและแน่นอนก็คือ คนพวกนี้เกือบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน มีแต่การวิ่งเต้นต้องการเป็นฝ่ายรัฐบาลทั้งนั้น ดังนั้น เมื่อได้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนมันก็ย่อมมีความเป็นไปได้อยู่แล้ว
**แม้ว่าทุกอย่างยังต้องรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อสังเกตอาการเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายไม่มีความคึกคัก เหมือนที่เคยเป็น แต่มักออกมาในแนว "โวยวาย" ด่าทอฝ่ายตรงข้าม เน้นย้ำแต่วาทกรรมเรื่อง "ประชาธิปไตย" และเผด็จการสืบทอดอำนาจ รวมไปถึงข่าวคราวการเปลี่ยนตัวแคนดิเดต นายกฯของพรรคเพื่อไทย จาก "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาเป็น ชัยเกษม นิติสิริ เพื่อปรับแนวรุกกันใหม่อีกรอบ แต่นั่นก็ย่อมมีความหมายได้ไม่ยากว่าข้างในเกิดอาการรวนจนปิดกันไม่มิดได้อีกต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อหนทางข้างหน้าเริ่มมีแนวโน้มมี "ทางตัน" มันก็เริ่มได้ยินเสียง "รัฐบาลแห่งชาติ" เกิดขึ้นมาให้รำคาญหูกันอีกรอบ ข้ออ้างก็เดิมๆ ก็คือต้องการ "ผ่าทางตัน" ทางการเมือง อ้างว่าเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมืองที่ต่างฝ่ายไม่มีเสียงมากพอจัดตั้งรัฐบาลหรือเกิดรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และที่น่าจับตาก็คือ คนที่ออกมาขานรับแนวทางดังกล่าวก็คือ ยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อชาติ ที่เคยหาเสียงอาสาขอพา ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านอีกรอบ
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากที่มาที่ไปของแนวทางการสนับสนุนรัฐบาลแห่งชาติ ที่ขอแยกโฟกัสเฉพาะในกลุ่มเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร อย่าง ยงยุทธ ติยะไพรัช เพราะมันน่าสนใจตรงที่ว่า ที่ผ่านมาคนกล่มนี้ไม่เคยแยแส ไม่เคยสนับสนุนแนวทางแบบนี้โดยอ้างว่าฝ่าฝืนประชาธิปไตย แต่คราวนี้กลับเป็นตรงข้าม นั่นก็ย่อมมองเห็นแล้วว่า เส้นทางเดิมตีบตัน อย่างที่รับรู้กันว่าแผนการเดิมตามยุทธศาสตร์ "แตกแบงก์พัน" กับพรรคไทยรักษาชาติ นั้นผิดพลาด แม้ว่าต่อมาได้เทเสียงไปทางพรรคอนาคตใหม่ก็ตาม แต่ก็ไม่เพียงพอกับการจัดตั้งรัฐบาล และภารกิจที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งก็คือ ให้รื้อฟื้นคดีของ ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมาใหม่ โดยอ้างว่าเกิดขึ้นในยุคเผด็จการ
ดังนั้น หากหาคำตอบที่ละขั้นตอนมันก็พอมองเห็นภาพได้ชัด ว่า "เกิดทางตัน" นั่นเริ่มจากเรื่องใหญ่ก่อน คือฝ่ายขั้วของ ทักษิณ ชินวัตร ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ไม่อาจรวบรวมเสียงได้มากพอจัดตั้งรัฐบาล หลังจากก่อนหน้านั้นพังกับการเสนอชื่อนายกฯ ของพรรคไทยรักษาชาติ และนั่นก็เท่ากับว่าเส้นทางในการนิรโทษกรรมสุดซอยถูกปิดตายลงไปอีก จนนำมาสู่การโหนกระแส "รัฐบาลแห่งชาติ" ที่หวังลุ้นให้ล้างไพ่ใหม่ มีการเลือกตั้งใหม่ มี "คนกลาง" เข้ามา แต่นาทีนี้โอกาสเป็นเพียงแค่ฝันกลางวันและ"รัฐบาลแห่งชาติ(หน้า)" เท่านั้น
**เพราะสถานการณ์การเมืองในเวลานี้ ฝ่ายขั้วของ"บิ๊กตู่"คุมเกมได้หมดแล้ว ยังมีอำนาจอยู่ในมือเต็มร้อย และอยู่ยาวเสียด้วย !!
กำลังโหลดความคิดเห็น