“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“คนเราหากไม่ยึดถือสัจจะแล้ว จะสามารถสร้างอนาคตได้อย่างไร?”
นั่นเป็น “อมตะวาจา” ที่ปราชญ์โบราณจีน “ขงจื๊อ” กล่าวเตือนไว้นานกว่าพันปี โดยเฉพาะเตือนคนเป็น “ผู้ปกครอง” ด้วย “ขงจื๊อ”เชื่อเรื่อง “มนุษย์” กับ “สัจจะ” เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง..
พูดแล้วทำ-ความน่าเชื่อถือศรัทธาต่อ “ผู้ปกครอง” จะก่อเกิดในหมู่ผู้คนทั่วไป!
พูดแล้วไม่ทำ-ความน่าเชื่อถือต่อ “ผู้ปกครอง” ในหมู่ผู้คนทั่วไป จะเสื่อมสลายจนหมดสิ้น!
เทศกาลสาดน้ำสงกรานต์สิ้นสุดลงแล้ว “ตัวเลขคนตาย” ในเทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ “สามร้อยกว่าคน” แต่สูตรคำนวณการได้ สส.บัญชีรายชื่อแต่ละพรรคของ “กกต.” ยัง “ไม่ตายสนิท” จึงชี้ชัดไม่ได้จนวันนี้
เรียกว่า..วุ่นวายกันทั่ว ทั้งนักคณิตศาสตร์และนักการเมือง ต้องตั้งวงใช้เครื่องคิดเลข ลงมือคิดเองเออเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีหน้าที่จะ “ฟันธง” หรือชี้นิ้วให้ “กกต.” ใช้หรือต้องใช้ “สูตรคำนวณตัวเลขแบบไหน” จึงถูกต้องทั้งหลักคณิตศาสตร์และต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
แน่นอน..ทุกเรื่องต้องมีคนรับผิดชอบโดยตรง ดังนั้น การจะใช้ “สูตรคำนวณตัวเลขได้ ส.ส.ฯ” แบบใดนั้น คนที่ “ต้องตัดสินใจ ”และ “รับผิดชอบเต็มร้อย ”คือ “กกต.”
เมื่อ “กกต.” สรุปว่า “ต้องใช้สูตรนี้” ก็ต้องเดินหน้า แต่ “กกต.” มีปัญหาสุขภาพ “ปอดแหก” ไม่กล้าทุบโต๊ะเอา“สูตรคำนวณตัวเลข” ตามต้องการ จึงใช้สูตร “ปลอดภัยไว้ก่อน” ด้วยการโยน “เผือกร้อน”ไปให้ “ศาลรธน.” ตัดสินใจแทนเฉยเลย!..
ทั้งนี้เพราะ เมื่อตัวเลข ส.ส.พรรคใดลดหรือเพิ่ม ย่อมส่งผลไม่มากก็น้อยในการตั้งรัฐบาล ดังนั้น ถ้าพรรคไหน ส.ส.ลดลง “กกต.” ต้องโดนด่า แต่ถ้าพรรคไหนได้ ส.ส.เพิ่ม “กกต.”ก็แค่ “เจ๊า” เรียกว่า..ทั้งขึ้นทั้งล่อง “กกต.” มี “เจ๊า” กับ “เจ๊ง”(ว่ะ)!
ยิ่ง “กกต.” ชุดนี้เป็น “มือใหม่หัดขับ”ทางการเมือง ประธานมาจากข้าราชการ ก.ต่างประเทศ ดังนั้น นับแต่การเลือกตั้งจบลงแค่เบื้องต้น “กกต.” ก็ตกอยู่ในสภาพรับเละทางการเมือง ทั้งๆ ที่กระบวนการเลือกตั้งยังไม่จบครบถ้วนทั้งกระบวนการ
การเลือกตั้งครั้งนี้ มีเรื่องร้องเรียนไปยัง “กกต.” มากมาย อีกทั้ง “กกต.” ยังไม่ได้แจกใบเหลือง-ใบส้ม-ใบแดง-ใบดำสักใบ แต่นักการเมืองทั้งหลายก็ร้อนรนจน “เหาะเลยกรุงลงกา” ด้วยการนั่งหน้าสลอนประกาศ “ตั้งรัฐบาล”กั นหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ตัวเลข ส.ส.ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อยังดิ้นไปดิ้นมา..
ทว่า “นักการเมือง” ทุกพรรคก็ล้วนรู้ว่า จำนวนเสียง สส.ทั้งฝ่ายหนุนและต้าน “บิ๊กตู่” นั้น มีตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน จนสามารถ “ฟันธงเปรี้ยง” ได้เลยว่า..
งาน “ยึดอำนาจรัฐ” ของทั้งสองฝ่าย จะยากยิ่งกว่าการ “เข็นครกขึ้นภูเขา” โดยเฉพาะพรรคเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม”นั้น โอกาสน้อยมากที่จะตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ถึงแม้จะใจป้ำยกตำแหน่ง “นายกฯ”ให้กับ “ปชป.” หรือให้ “หนูอนุทิน” นอนฝันหวาน แถมตำแหน่ง รมต.ตามต้องการอีกต่างหาก
ทว่า..เชื่อขนมกินก่อนได้เลยว่า “ปชป.” คงไม่เล่นด้วย ส่วน “หนูอนุทิน” มีนักการเมืองเก๋ากึ๊กอย่าง “เนวิน” ประกบข้าง ก็คงไม่หลงไปยึดผลประโยชน์อายุสั้นที่มีอันตรายทุกฝีก้าว ในการร่วมทางไปกับพรรคที่รู้อยู่แก่ใจว่าบงการโดย “บิ๊กเหลี่ยม” ในยามการเมืองชาติยังไม่แน่นอนว่า..
ประชาธิปไตยเลือกตั้งทุนสามานย์ที่สกปรกเช่นนี้ อาจเกิดอาการสะดุดหยุดกึกลงอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะนักการเมืองทุนสามานย์ทั้งหลาย ยังเล่นการเมืองกันอย่างไร้คุณภาพ ไร้คุณธรรม ไร้ความรักชาติ ไร้ความรักประชาชนอย่างแท้จริง ฯลฯ
เรียกว่า..นักการเมืองเลวส่วนใหญ่ในยุคนี้ กำลังทำให้ชาติและประชาชน เดินหน้าไปสู่เส้นทางอันไร้อนาคตที่ดีเสียแล้ว
งานนี้..คนที่ได้เปรียบหนีไม่พ้น “บิ๊กตู่” ผู้มีสิทธิ์ตั้ง “ส.ว.250 คน” ดังนั้น ถ้าไม่มี “ฟ้าผ่าบิ๊กตู่” นอกฤดูกาลแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย โอกาสที่ “บิ๊กตู่-นายกฯ คนที่ 29 ”จะได้เป็น “นายกฯ คนที่ 30” นั้น..ค่อนข้างจะแน่นอน 99.99% เลยนะจ๊ะ..จะบอกให้..
แต่ “บิ๊กตู่” ก็จะเป็นได้แค่ “นายกฯ เป็ดง่อย” เพราะคะแนนเสียง สส.ในสภาฯล่าง ชนะกันแบบ “ปริ่มน้ำ” ยิ่งถ้า “ปชป. ”เกิดผันตัวไปเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ” แม้จะมี “งูเห่าหลายตัว” เลื้อยเข้ารู “พปชร.” แต่รัฐบาล “บิ๊กตู่” ก็ยังคงไม่มั่นคงยั่งยืนอยู่ดีนั่นแหละ
เฮ้อ..วิปในสภาของรัฐบาล“บิ๊กตู่” ต้องเหนื่อยจนอาเจียนออกมาเป็นโลหิต กับการ “วิ่งไล่จับปูใส่กระด้ง” เวลามีการประชุมสภา และจะยิ่งเครียดจัดห้วงต้องลงคะแนนเสียง เพื่อผ่านกฎหมายสำคัญๆ ที่ถ้าพ่ายแพ้ รัฐบาล “บิ๊กตู่” ก็ต้องพังทันที เช่น การผ่านกฎหมายงบประมาณแผ่นดิน ฯลฯ
เพราะถ้าเรื่องไหน “ปชป.”โอเคกับรัฐบาล “บิ๊กตู่” ก็ยกมือให้! เรื่องไหน “ปชป.” ไม่โอเคก็ยกมือร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน! เฮ้อ..ถ้าเป็นแบบนั้น รัฐบาล “บิ๊กตู่” จะอ่อนปวกเปียก พร้อมจะล้มครืนได้ทุกเมื่อน่ะสิ..จริงไหม?
หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้น ใครที่หวังว่า “นายกฯ บิ๊กตู่” จะแก้ต้นเหตุปัญหาชาติได้ โดยเฉพาะจะปฏิรูปตำรวจและปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนได้นั้น บอกไว้ ณ ตรงนี้เลยนะว่า นั่นเป็นแค่ “ความฝันโลกสวยกลางทุ่งลาเวนเดอร์” ที่ตื่นลืมตาขึ้นมา “ทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงสุดลูกหูลูกตา” ก็หายวับไปทันที
เพราะ “นายกฯ-รัฐบาล-เป็ดง่อย” จะทำได้ก็แค่ บริหารงานแบบตามมีตามเกิด แก้ปัญหาทั่วไปให้กับชาติได้บ้างเท่านั้น แถมรัฐบาลผสมร้อยพ่อพันแม่ จะมีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ใต้โต๊ะกันอุตลุด และจะเกิดการคอร์รัปชั่นผุดโผล่ราวดอกเห็ดอีกด้วย ฯลฯ
สุดท้าย..รัฐบาล “บิ๊กตู่” จะไร้ความมั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ แถม “บิ๊กตู่” นั่นแหละจะต้องเสียผู้เสียคน เพราะรัฐบาล “บิ๊กตู่” จะกลายเป็นรัฐบาล ที่มีเรื่องฉาวโฉ่ คอร์รัปชั่นโกงชาติเยอะแยะไปหมด..
อ้าวเฮ้ย..นี่เรามโนไปเองหรือคิดร้ายเกินไปรึเปล่า? เพราะเรื่องอาจไม่เลวร้ายเช่นนั้นก็ได้นะเฟ้ย หรือเรื่องที่คิดว่าร้ายอาจกลายเป็นดีก็ได้นะว้อย..
อืม..งานนี้ก็ต้องบอกว่า..อาจคิดผิดคิดร้ายเกินไปก็ได้! แต่เรื่องร้ายที่เห็นล่วงหน้าจากสภาพจริงทางการเมือง ที่เป็นเสมือน “โรดแมป” บอกให้รู้ล่วงหน้า โดยไม่ผิดพลาดมาแล้วมากมาย เช่น “บิ๊กตู่” ไม่ปฏิรูปชาติแต่กลับเร่งให้มีการเลือกตั้ง ทำให้บรรดา “คอการเมือง” ฟันธงกันเปรี้ยงปร้าง เตือนให้ “บิ๊กตู่” รู้ล่วงหน้าแล้วว่า
เลือกตั้งก่อนปฏิรูปชาติ! จะทำให้ชาติเสียหายอย่างหนักนะ อีกทั้งยังประเมินสภาพการเมืองไว้ล่วงหน้าว่า แม้ “บิ๊กตู่” กับพวกพ้อง และบรรดาพรรคหนุน “บิ๊กตู่” จะได้เปรียบฝ่าย “บิ๊กเหลี่ยม” จากการใช้กฎหมายกับกฎกติกามากมาย รวมทั้งการใช้อำนาจรัฐและงบประมาณรัฐอีกด้วย
แต่สุดท้าย..ผลการเลือกตั้งก็ปรากฏว่า พรรคเครือข่ายหนุน “บิ๊กตู่” ก็โค่นพรรคเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” ไม่ได้อยู่ดี ที่สำคัญ..แม้พรรค ทษช.จะโดนยุบ เพราะบังอาจ “ดึงฟ้าลงต่ำ” แต่คะแนนเสียงของพรรคนี้ ก็มิได้ไหลไปยังพรรคหนุน “บิ๊กตู่” แต่กลับแห่ไปลงคะแนนให้พรรคอนาคอนด้าของ “ธนาธร” ที่เป็นหนึ่งในพรรคเครือข่ายหนุน “บิ๊กเหลี่ยม”
ดัง “ธนาธร”ประกาศจะเอา“บิ๊กเหลี่ยม” กลับไทย โดยกล่าวหา “ศาลฯ” ไม่ยุติธรรมต่อ “บิ๊กเหลี่ยม” ด้วยการจะฟื้นคดีที่ศาลได้ตัดสิน “บิ๊กเหลี่ยม” ไปแล้ว ให้กลับมาพิจารณาใหม่ โดยคณะกรรมการที่“ธนาธร” อ้างว่า “เป็นกลาง” เพื่อให้ความเป็นธรรมกับ “บิ๊กเหลี่ยม”(ว่ะ)..
เลือกตั้งก่อนปฏิรูปชาติ! การเมืองไทยจึงปั่นป่วนวุ่นวาย ก่อผลเสียมากมายต่อชาติและประชาชนเช่น สนามเลือกตั้งเต็มไปด้วยคนชั่วลงสมัครมากมาย! แม้ตัวเลขการได้ สส.ของแต่ละพรรคยังไม่แน่นอน แต่บอกล่วงหน้าได้เลยว่า ชะตากรรมของ “นายกฯ” กับ “รัฐบาลใหม่” ต้องเป็น “เป็ดง่อย” แน่นอน! ฯลฯ
สถานการณ์การเมืองจริงในปัจจุบัน บอกได้เลยว่า อนาคตชาติไม่สดใสแน่นอน!
แต่ก็ช่างเถอะ!..ไม่ว่าการเมืองจะเหลวแหลกแค่ไหน! ตอนนี้บรรดานักการเมืองทั้งหลาย ควรหยุดเรื่อง “ตั้งรัฐบาลในฝันเพ้อเจ้อ” รวมทั้ง “รัฐบาลแห่งชาตินี้-ชาติหน้า-ชาติโน้น” กันไว้ก่อน..
ภารกิจวันนี้ของชาติและชาวไทย คือ ร่วมใจทำให้พระราชพิธีบรมราชาภิเษก “ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐” ของปวงชนชาวไทย เป็นไปอย่างสมพระเกียรติสูงสุด..จริงไหม?