xs
xsm
sm
md
lg

สนธยาและรุ่งอรุณของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ๒๕๖๒ ( ๔) พรรคอนาคตใหม่ ผีพุ่งไต้ หรือดาวประกายพฤกษ์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ปัญญาพลวัตร"
"พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต"

ในบรรดาพรรคการเมืองที่เพิ่งจัดตั้งโดยไม่เชื่อมโยงกับอำนาจรัฐ พรรคอนาคตใหม่ มีความร้อนแรงและประสบความสำเร็จมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่คำถามที่สำคัญคือ พรรคนี้จะสามารถดำรงรักษาความสำเร็จไว้ได้ยาวนานเพียงใด และสามารถพัฒนาเป็นสถาบันการเมืองได้หรือไม่ ภายใต้เงื่อนไขใดบ้าง หรือเป็นเพียงกระแสความเบื่อหน่ายการเมืองและการต่อต้านอำนาจการปกครองที่นำโดยทหารเพียงชั่วคราวเท่านั้น

อันที่จริงรูปแบบการก่อตั้งของพรรคอนาคตใหม่ไม่แตกต่างจากพรรคการเมืองรุ่นเดิมที่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งมากนัก นั่นคือกลุ่มผู้ก่อตั้งมีทรัพยากรหรือเงินทุนเป็นจำนวนมหาศาล ขณะเดียวกันก็มีทีมนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่คอยผลิตแนวความคิด นโยบาย และกลยุทธ์ของพรรค สำหรับนายทุนสำคัญของพรรคนี้คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองประธานบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และนักวิชาการที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญคือ รศ. ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค และมีนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่เป็นอดีตฝ่ายซ้ายอีกจำนวนหนึ่งเป็นทีมที่ปรึกษา

แกนนำพรรคทั้งสองถือว่าเป็นคนหน้าใหม่ของการเมืองในสนามการเลือกตั้ง ทว่า หาใช่หน้าใหม่ทางการเมืองนอกสภาแต่อย่างใด หากแต่มีประวัติยาวนานพอสมควรในการนำเสนอความคิด สนับสนุน และเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา และมีเครือข่ายสายสัมพันธ์กับนักเคลื่อนไหวมวลชนจำนวนไม่น้อยทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ สำหรับหลักคิดและอุดมการณ์ของกลุ่มแกนนำในการจัดตั้งพรรคที่ปิดเผยออกมาต่อสาธารณะเป็นการผสมผสานระหว่างอุดมการณ์เสรีนิยมทางการเมืองแบบเข้มข้น รัฐสวัสดิการ และพหุวัฒนธรรมนิยม

การมีนายทุนผู้ร่ำรวยเป็นผู้ก่อตั้งพรรค และเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนหลักของพรรคทำให้ไม่สามารถกล่าวได้ว่าพรรคนี้เป็นมีรากฐานจากประชาชน รูปแบบการบริหารพรรคมิได้แตกต่างจากพรรคการเมืองใหญ่อื่นๆ มากนัก นั่นคือเป็นพรรคชนชั้นนำ และบทบาทการนำของพรรคขึ้นอยู่กับตัวผู้บริหารพรรคเป็นหลัก แต่สิ่งที่แตกต่างอยู่บ้างคือ การพยายามเปิดพื้นที่ให้แก่กลุ่มคนหลากหลายทางสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมได้เข้ามาร่วมแสดงบทบาททางการเมืองในฐานะที่เป็นผู้สมัครเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและผู้สมัครระดับเขตของพรรค

ปัจจัยหลักที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ประสบชัยชนะในการเลือกตั้งเกินความคาดหมายของผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองประกอบด้วย ทัศนคติและความต้องการทางการเมืองของกลุ่มผู้เลือกตั้งหน้าใหม่ การถูกยุบพรรคของพรรคไทยรักษาชาติ การมีเงินทุนเพียงพอในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง การสร้างภาพลักษณ์ที่มีประสิทธิผลของผู้นำ การใช้ยุทธศาสตร์การหาเสียงเชิงนวัตกรรมและท้าทายอำนาจดั้งเดิม และการมีเครือข่ายนักเคลื่อนไหวในระดับพื้นที่ทำงานมวลชน

โดยพื้นฐานแล้ว สังคมไทยถูกครอบงำด้วยความคิดแบบอนุรักษ์นิยมเชิงจารีตประเพณี ระบบเครือญาติและพวกพ้องเพื่อนฝูงเป็นระบบที่ได้รับการยึดถือจากผู้คนจำนวนมาก แม้ว่าโครงสร้างทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีขอบเขตกว้างขวาง แต่โครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรมกลับมีการเปลี่ยนแปลงในอัตราเชื่องช้าและแคบกว่า อย่างไรก็ตามจากการที่สังคมไทยมีการต่อสู้ทางความคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นเป็นระยะ ส่งผลให้ระดับอิทธิพลของความคิดแบบอนุรักษ์นิยมแบบจารีตประเพณีเริ่มเสื่อมคลายลงไปบ้าง

คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันเติบโตท่ามกลางปฏิบทระหว่างการขยายตัวของเทคโนโลยีการสื่อสารที่เปิดโอกาสให้พวกเขาเป็นทั้งผู้เสพและผู้ผลิตข้อมูลข่าวสารอย่างเสรี พวกเขามีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสื่อสารเพื่อแสวงหาและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างไม่จำกัด และยังสามารถผลิตและแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารได้อย่างกว้างขวาง แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ตกอยู่ภายใต้บรรยากาศทางการเมืองปกครองประเทศที่ค่อนข้างจำกัดเสรีภาพในการแสวงหาและการผลิตข้อมูลข่าวสาร บรรยากาศแบบนี้ย่อมสร้างความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจแก่คนรุ่นใหม่ไม่น้อยทีเดียว

การรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางการเมืองจากหลายแหล่งส่งผลให้คนรุ่นใหม่มีทัศนคติเชิงลบต่อผู้มีอำนาจทางการเมือง รู้สึกเบื่อหน่ายกับสภาพการเมืองแบบเก่า รู้สึกอึดอัดกับจารีตประเพณีทางสังคมแบบเดิมในบางมิติ และมองหาทางเลือกใหม่ๆ ที่คิดว่าเป็นตัวแทนทางความคิดและความเชื่อของพวกเขาได้ ทางเลือกที่มีความโดดเด่นเห็นได้ชัดในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คือ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งนำเสนอภาพลักษณ์และนโยบายใหม่ทางการเมืองหลายประการที่สอดคล้องกับความรู้สึกและความต้องการของคนรุ่นใหม่ เช่น การนำเสนอภาพลักษณ์ของผู้นำพรรคให้เป็นคนรุ่นใหม่ที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และมีความคิดท้าทายจารีตแบบดั้งเดิมของสังคม รวมทั้งมีข้อเสนอเชิงนโยบายมุ่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจที่ครอบงำการเมืองไทยอยู่ในปัจจุบันด้วย

สำหรับปัจจัยที่ช่วยเพิ่มคะแนนให้พรรคอนาคตอย่างไม่คาดฝันคือกรณีพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติหันมาลงคะแนนเสียงให้แก่พรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะยิ่งในเขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่จะได้คะแนนเสียงมากขึ้นอย่างชัดเจน ยิ่งหากอดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติให้การสนับสนุนด้วยแล้ว โอกาสที่จะได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นก็ยิ่งมีมากขึ้น หรือแม้กระทั่งเขตเลือกตั้งที่อดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติไม่สนับสนุนผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ผู้เลือกตั้งก็ยังเทคะแนนเสียงให้พรรคอนาคตใหม่เช่นเดียวกัน

การที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรคจึงเท่ากับเป็นการขยายโอกาสทางการเมืองให้แก่พรรคอนาคตใหม่อย่างไม่คาดฝันแบบ “ส้มหล่น” และทำให้ผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ในระดับเขตเลือกตั้งได้รับชัยชนะมาหลายเขตด้วยกัน

ปัจจัยทางด้านเงินทุนในการหาเสียงจำนวนมหาศาลก็นับว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญอีกอย่างหนึ่งต่อชัยชนะของพรรคอนาคตใหม่ อันที่จริงในการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคมีอุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองคล้ายคลึงกับพรรคอนาคตใหม่ แต่เนื่องจากผู้ก่อตั้งและแกนนำพรรคเหล่านั้นไม่ได้ร่ำรวยมหาศาลเหมือนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงทำให้ไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ครบทุกเขต และไม่มีเงินเพียงพอในการปั่นสร้างกระแสทางการเมืองได้เหมือนกับพรรคอนาคตใหม่

พรรคอนาคตใหม่มีเงินทุนในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ทุกเขตเลือกตั้ง มีเงินจัดทำป้ายรณรงค์หาเสียงให้แก่ผู้สมัครในทุกพื้นที่ มีเงินจ้างคนจำนวนมากเพื่อสร้างกระแสและโฆษณาทางสื่อสังคมออนไลน์ และมีเงินสำหรับการรณรงค์หาเสียงระดับลึกสำหรับนักเคลื่อนไหวมวลชนในบางพื้นที่ ภาพที่เห็นและจากการประเมินผมคิดว่าพรรคอนาคตใหม่ใช้เงินจำนวนมหาศาลสำหรับการณรงค์หาเสียงในด้านกว้างผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สื่อกระแสหลัก และป้ายโฆษณา อาจใช้เงินจำนวนหนึ่งสำหรับทำงานขับเคลื่อนด้านลึกระดับพื้นที่เลือกตั้งบางเขต แต่ไม่มีข่าวลือใดๆ เกี่ยวกับใช้เงินผ่านระบบหัวคะแนนและซื้อเสียงเลือกตั้งเลย ซึ่งข้อนี้ทำให้พรรคอนาคตใหม่มีความแตกต่างจากพรรคการเมืองขนาดใหญ่และกลางบางพรรคที่มีข่าวลือหนาหูว่าทุ่มเงินจำนวนมหาศาลผ่านระบบหัวคะแนน

พรรคอนาคตใหม่ประสบความสำเร็จมากในการสร้างภาพลักษณ์ที่มีประสิทธิผลแก่แกนนำอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งกลายเป็นผู้นำที่โดดเด่นคนเดียวของพรรค ภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างคือความเป็นคนรุ่นใหม่ที่ก้าวหน้าและความกล้าท้าทายอำนาจและจารีตประเพณีแบบดั้งเดิม แต่เรื่องที่ตลกร้ายคือ พรรคมุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์และความโดดเด่นแก่นายธนาธร แต่กลับละเลยผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค กล่าวได้ว่านอกจากแกนนำพรรคบางคนแล้ว สังคมแทบไม่รู้จักผู้สมัครหรือว่าที่ ส.ส.ของพรรคคนอื่นๆ มากนัก อันที่จริงการเชิดชูผู้นำเป็นแบบแผนที่พรรคการเมืองเก่าๆ ใช้กันมาเสมอในการหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นนายสมัคร สุนทรเวช นายทักษิณ ชินวัตร นายชวน หลีกภัย ฯลฯ ก็ตาม แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ พรรคอนาคตใหม่ซึ่งอ้างว่ามีความคิดก้าวหน้า ก็ใช้แบบแผนเก่าๆ สร้างภาพลักษณ์เหมือนกับพรรคการเมืองที่ตนเองวิจารณ์

ในแง่นี้จึงกลายเป็นว่า พรรคอนาคตใหม่ที่ดูเหมือนมีความคิดก้าวหน้าและมีนโยบายท้าทายจารีตประเพณีดั้งเดิมของสังคม กลับตอกย้ำและผลิตซ้ำแบบแผนจารีตทางความคิดแบบเดิมๆ ของสังคมไทยเสียเอง ตัวอย่างที่เห็นอย่างชัดเจนคือ ป้ายรณรงค์หาเสียงของพรรคอนาคตใหม่มีเพียงรูปของนายธนาธร เป็นหลัก ส่วนรูปของผู้สมัครแทบไม่มีให้เห็น วิธีการแบบนี้สะท้อนลัทธิเชิดชูผู้นำแบบไทยๆ ซึ่งขัดแย้งหลักการความเท่าเทียมและประชาธิปไตยที่พรรคอ้างอยู่เสมอนั่นเอง แต่การทำแบบนี้มีประสิทธิผล โดยพรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนเสียงจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้านในเขตเลือกตั้งแทบไม่รู้จักหรือได้ยินชื่อเสียงของผู้สมัครในนามพรรคแต่อย่างใด

พรรคอนาคตใหม่ใช้ยุทธศาสตร์การหาเสียงเชิงนวตกรรมและท้าทายอำนาจดั้งเดิม โดยสร้างและวางกรอบคิดทางการเมืองที่สำคัญหลายประการ เช่น การสร้างขั้วแบ่งฝ่ายทางการเมืองระหว่าง “ฝ่ายประชาธิปไตย” (ตนเองและพรรคพันธมิตร) กับ ฝ่ายเผด็จการสืบทอดอำนาจ (พรรคคู่แข่ง และพันธมิตร) หรือ ระหว่าง “ฝ่ายก้าวหน้า” กับ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” ยุทธศาสตร์หาเสียงคือ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักอันได้แก่คนรุ่นใหม่โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างเข้มข้นและครอบคลุม ใช้ป้ายโฆษณาหาเสียงนำเสนอแนวคิดและทิศทางนโยบายกระจายอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ การร่วมเวทีดีเบตทางสื่อมวลชนแทบทุกเวที การเสนอนโยบายบายกระจายอำนาจ ลดความเหลื่อมล้ำ ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ลบล้างอำนาจคณะรัฐประหาร ตัดงบประมาณทหาร และเลิกการเกณฑ์ทหาร และเสนอการใช้ภาษาวาทกรรมแบบใหม่เพื่อสร้างความจริงทางสังคมใหม่ขึ้นมา เป็นต้น หลายอย่างเป็นนวัตกรรมทางการเมืองและท้าทายอำนาจดั้งเดิม สิ่งเหล่านี้ดูเป็นเรื่องน่าเร้าใจสำหรับคนรุ่นใหม่ และกระตุ้นความสนใจของคนรุ่นเก่าบางกลุ่มที่เคยพยายามผลักดันความคิดเหล่านี้ในอดีตมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

สำหรับชัยชนะในระดับเขตเลือกตั้งบางเขต ซึ่งมักเป็นพื้นที่มีสถาบันอุดมศึกษาระดับใหญ่ตั้งอยู่ หรือพื้นที่ปริมณฑลกรุงเทพฯ เกิดจากการมีเครือข่ายองค์กรประชาชนในระดับพื้นที่ และการสนับสนุนของนักเคลื่อนไหวมวลชน นักพัฒนาเอกชน และแกนนำภาคประชาชนบางกลุ่มที่ทำงานมวลชนในการแก้ปัญหาเชิงนโยบายและการพัฒนา เครือข่ายเหล่านี้มองว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นทางเลือกทางการเมืองที่แตกต่างจากพรรคการเมืองเดิมๆ และมีจุดยืนและอุดมการณ์หลายประการคล้ายคลึงกันทั้งในแง่ทิศทางการพัฒนาประเทศที่เน้นความเท่าเทียม การสร้างรัฐสวัสดิการ การสนับสนุนในเรื่องเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และพหุวัฒนธรรม เครือข่ายเหล่านี้จึงทุ่มกำลังเข้าไปช่วยเหลือพรรคอนาคตใหม่ และในบางพื้นที่ประสบความสำเร็จได้ชัยชนะ ทั้งที่มีกลไกหัวคะแนนแบบเดิมๆ น้อยหรืออาจไม่มีเลย

อย่างไรก็ตามชัยชนะของพรรคอนาคตใหม่ในครั้งนี้เป็นชัยชนะที่ค่อนข้างเปราะบางและไม่มีรากฐานที่มั่นคง เพราะคะแนนจำนวนมากได้มาจากกระแสและความบังเอิญ ซึ่งมีความแปรผันเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ลักษณะแบบนี้ของพรรคอนาคตใหม่จึงแตกต่างจากพรรคเพื่อไทยในอดีตที่มีกลไกระบบการจัดตั้งหัวคะแนนในพื้นที่ค่อนข้างเข้มแข็ง อีกทั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคอนาคตใหม่มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นรัฐบาล ซึ่งทำให้ไม่สามารถแสดงฝีมือบริหารประเทศตามที่หาเสียงเอาไว้ โอกาสที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคและผู้นำพรรคฝังตรึงลงไปในจิตใจของผู้เลือกตั้ง ดังที่พรรคไทยรักไทยและนายทักษิณ เคยทำสำเร็จในอดีตนั้นจึงเกิดขึ้นได้ยาก เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ย่อมกระทบโอกาสในการสร้างความมั่นคงแก่พรรคในระยะต่อไป

สิ่งที่สำคัญอีกประการที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ต้องประสบกับความยากลำบากในการดำรงอยู่และพัฒนาต่อไปคือ การต่อต้านที่รุนแรงจากฝ่ายอำนาจรัฐบางกลุ่ม และจากกลุ่มคนที่รู้สึกว่าความคิดและอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่คุกคามค่านิยมและจารีตดั้งเดิมที่พวกเขายึดถืออยู่ รวมทั้งการที่ ผู้นำคนสำคัญของพรรคอย่างนายธนาธร และนายปิยบุตร แสงกนกกุลถูกดำเนินคดี และพรรคก็ถูกร้องเรียนว่าเป็นปรปักษ์ต่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และอาจถูกตัดสินให้ยุบพรรคได้

กล่าวได้ว่ามรสุมที่รออยู่ข้างหน้าของพรรคอนาคตใหม่นั้นมีอยู่หลายลูกทีเดียว และมีความเป็นได้สูงว่าพรรคนี้มีโอกาสเป็นเพียงแค่พรรคผีพุ่งไต้ ให้ผู้คนได้เห็นสีสันเพียงระยะสั้น แล้วดับหายไป มากกว่าพรรคดาวประกายพฤษ์ที่ส่องแสงอย่างยืนยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น