xs
xsm
sm
md
lg

พปชร.ลั่นตั้งรัฐบาลหลัง9พ.ค.-ลุงตู่อยู่ต่อจบปัญหา-กกต.ยันเลือกตั้งไม่โมฆะ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน360- รองโฆษก พปชร. เชื่อมั่นหลัง 9 พ.ค. ทุกอย่างจบ ตั้งรัฐบาลได้ พร้อมหนุน"บิ๊กตู่" เป็นนายกฯต่อ "ภูมิธรรม" ค้าน"รัฐบาลแห่งชาติ" จี้ กกต.เร่งประกาศผลเลือกตั้ง "เพื่อชาติ" ระบุ รัฐบาลแห่งชาติ- นายกฯคนนอก ผิดหลัก ปชต. ด้าน กกต.โต้“ธีระชัย”การเลือกตั้งเป็นไปตามบทเฉพาะกาล

วานนี้ (16 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ว่าที่ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ และนายกฯคนกลาง ว่า หลังจากที่เสนอแนวคิดนี้ไป ก็มีทั้งเสียงสนับสนุน และคัดค้าน ขณะนี้ทั้ง 2 ขั้ว ยังไม่สามารถ จัดตั้งรัฐบาลได้ ขั้วพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ ตนก็จะเฝ้าดูว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ ส่วนขั้วพรรคเพื่อไทย ที่เชื่อมั่นว่าจะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากเกิน 250 เสียง นั้น ต้องใช้เสียงอย่างน้อย 375 เสียงขึ้นไป ถึงจะได้นายกฯ ที่มีเสียงสนับสนุนเกินครึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา จึงจะอยู่บริหารได้ เมื่อสถานการณ์การเมืองที่เป็นเดดล็อก จะไม่มีพรรคการเมืองใดที่จัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้

ตนก็จะรอดูจนถึงวันที่ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการที่ 95% ของยอด ส.ส. แต่ถ้าขั้วใดขั้วหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ตนขอร้องว่าอย่าดันทุรังเพื่อยื้อสถานการณ์นี้ต่อไป เพราะการไม่มีรัฐบาล จะเป็นผลเสียต่อประเทศชาติโดยรวม

** พปชร.มั่นใจหลัง 9 พ.ค.ตั้งรัฐบาลได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ต้องรอกกต.รับรองผลการเลือกตั้งหลังวันที่ 9 พ.ค.62 เชื่อว่า ทุกอย่างจะจบ และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

“ส่วนแนวคิดการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น เป็นไปไม่ได้ ผมมั่นใจว่าทุกอย่างยังไม่ถึงทางตัน และเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พร้อมทั้งสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป" นายธนกร กล่าว

นายธนกร กล่าวด้วยว่า ตนเดินทางไปทำบุญที่ จ.นครศรีธรรมราช พบปะพี่น้องประชาชน ผู้นำท้องถิ่น ส่วนใหญ่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป นอกจากนี้ในช่วงสงกรานต์มีข่าวลือข่าวปล่อยเยอะไปหมด ทำให้พี่น้องประชาชนสับสน อยากจะฝากพี่น้องประชาชนได้ไตร่ตรอง อย่าไปเชื่อข่าวลือ เพราะบางเรื่องนำไปสู่ความแตกแยกและความวุ่นวายของบ้านเมือง และไม่ใช่เรื่องจริง เป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองของผู้ไม่หวังดีเท่านั้น

***"ภูมิธรรม"จวกกติกาทำให้เกิดทางตัน

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ "วาทกรรม เรื่อง…รัฐบาลแห่งชาติ" ส่วนหนึ่งของข้อความระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่มาราธอนมากครั้งหนึ่ง จนถึงวันนี้ลุล่วงมากว่า 3 สัปดาห์ กกต. ยังไม่สามารถสรุปวิธีคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ ทั้งๆ ที่ กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 91และ พ.ร.ป.เลือกตั้ง มาตรา128 ได้ตราไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ถึงวิธีการคำนวณจำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ

ประเด็นสำคัญประการหนึ่ง ที่นักกฎหมาย ฝ่ายผู้มีอำนาจและองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องหลายองค์กรทำเป็นไม่เข้าใจ หรือละเลยที่จะพิจารณาก็คือ "ประเทศไทย เป็นประเทศที่ใช้ระบบกฎหมาย ลายลักษณ์อักษร" ดังนั้นเมื่อรธน. และกฎหมายลูก ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่า การได้มาซึ่งระบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะได้มาอย่างไร พร้อมทั้งมีการกำหนดวิธีการได้มา ด้วยการคำนวณเป็นขั้นตอนในวรรคต่างๆ ทั้งมาตรา 9 ของรธน. และวรรคต่างๆ ของมาตรา 128 ของพ.ร.ป.เลือกตั้ง หากกกต. ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา และตีความตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กระบวนการและกลไกต่างๆ ก็จะเดินไปตามครรลอง ไม่มีปัญหาใดๆ มาให้เราครุ่นคิด เรื่อง“ทางตัน”แต่อย่างใด

ทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นตั้งแต่ กติกาของรธน. และกระบวนการเลือกตั้งทั้งปวง ล้วนจงใจออกแบบมาให้เกิดความยุ่งยาก และมีปัญหามาตั้งแต่ต้นทาง อันนำมาสู่ปัญหาทั้งปวงที่ไม่รู้จบ ความจงใจในการเบียดขับพรรคการเมือง ที่ไม่ใช่พวกพ้องตน การแสดงออกด้วยความละเลยเมินเฉยในการรับฟังเสียงและเหตุผลของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งพรรคการเมือง นักวิชาการ สถาบันการศึกษา องค์กรเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยต่าง ๆ กำลังส่งสัญญาณที่ชวนให้เกิดความคล

เมื่อหลายฝ่ายส่งสารเกี่ยวกับ วาทกรรม “รัฐบาลแห่งชาติ”เพื่อหวังว่าจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาของ “ทางตัน”นี้ ผมเชื่อว่า ประชาธิปไตยโดยตัวของมันเอง มีทางออกและให้ทางเลือกที่ชวนให้เราใช้ความคิด ปัญญาร่วมตัดสินใจเสมอ …

ถ้าการกระทำทั้งปวงมุ่งสร้างความชัดเจน ให้เป็นที่ยอมรับของสังคม มิใช่พยายามตะแบงหรือพยายามหาทางออกที่นอกกฎเกณฑ์และความถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ การเบี่ยงเบนประเด็นโดยไม่รับฟังความคิดเห็นยิ่งจะเป็นช่องทางที่นำไปสู่ทางตัน กลับไปเดินถอยหลังในสถานการณ์เช่นในอดีต ประเทศขาดประชาธิปไตยที่แท้จริง เกิดวงจรที่ทุกกลไกย่ำอยู่กับที่ เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว โอกาสใหม่และความก้าวหน้าของประชาชนติดตันอยู่กับหนทางที่ปิดล็อก

ผมจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่มีความพยายามจะทำให้เกิด “ทางตัน”ทั้งปวง และพยายามจะเสนอทางออกเรื่อง “รัฐบาลแห่งชาติ”

กกต. และผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งปวง ต้องทำงานอย่างโปร่งใส ยึดถือความถูกต้องและผลประโยชน์ของสังคมส่วนรวมเป็นที่ตั้ง แล้วประเทศจะมีทางออก

รีบประกาศผลการเลือกตั้ง อย่างตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม โดยเร็ว ประเทศไทยยังมีทางออก และระบอบประชาธิปไตย ยังเป็นความหวังที่สร้างทางออกร่วมกันอย่างเป็นจริง

** "เสธ.แมว"เชื่อไม่มีรัฐบาลแห่งชาติ

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร หรือ"เสธ.แมว" ที่ปรึกษา และคณะทำงานติดตามตรวจสอบการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กระแสการตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า เชื่อว่าไม่เป็นเช่นนั้น จะมีก็แต่รัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเท่านั้น เพราะภายหลังวันสงกรานต์ไปแล้ว จะเป็นช่วงงานพระราชพิธีอันเป็นมงคลของประเทศ พลังของความถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จะเปล่งรัศมีเจิดจ้า และพลังศรัทธาประชาธิปไตยของพี่น้องประชาชน จะส่งผลให้ กกต. ตาสว่างขึ้น

**รบ.แห่งชาติ-นายกฯคนนอก ผิดหลักปชต.

นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ นายกฯคนนอก เนื่องจากผิดหลักการประชาธิปไตย ท่านใช้หลักคิด หรือตรรกะอะไร เพราะนายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง คงจะไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาชนทั้งในและต่างประเทศ แล้วใครจะเป็นเจ้าภาพ จะมีหลักเกณฑ์สรรหานายกฯอย่างไร เพราะไม่มีกฎหมายรองรับเรื่องนี้ ส่วนรายชื่อนายกฯที่มีบางฝ่ายเสนอมา เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว

ตนขอเสนอให้พรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงส.ส.ได้เกินกึ่งหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ควรจะเป็นพรรคอันดับ 1 ก่อน ตนเชื่อว่าส.ว. ทั้ง 250 คน จะไม่ใช่ปัญหาในการโหวตเลือกนายกฯ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องถูกกดดันอย่างหนักจากสังคม

** กกต.โต้"ธีระชัย"เลือกตั้งไม่โมฆะ

วานนี้ สำนักงานกกต. เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีที่มีข่าวทางสื่อออนไลน์ว่า การที่ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง มีจดหมายเปิดผนึกถึง กกต. และเผยแพร่ข้อความของจดหมาย ลงใน Facebook ส่วนตัว สรุปใจความ ว่า "วันเลือกตั้ง เป็นวันที่ หกสิบเอ็ด นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ. ศ. 2562 ใช้บังคับ" นั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอชี้แจงว่า ตามมาตรา 102 และ มาตรา 103 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นกรณีที่ใช้ในภาวะปกติ แต่ในการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้นั้น จะต้องเป็นไปตามบทเฉพาะกาล ซึ่งเขียนไว้โดยเฉพาะแล้ว ตามมาตรา 268 ซึ่งบัญญัติให้ดาเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 267 (1) (2) (3) และ (4) มีผลใช้บังคับแล้ว ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ดังกล่าวมี ผลใช้บังคับอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 11 ธันวาคม 2561

ดังนั้นกกต. ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้ว เสร็จภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ซึ่งสอดคล้องกับ บทเฉพาะกาล แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 171 ดังนั้น การกาหนดวันเลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 จึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ทุกประการ

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้ทยอยส่งเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งเข้ามายังสำนักงานกกต.แล้ว หากเรื่องใดที่มีพยานหลักฐานเพียงพอก็พิจารณาได้เลย แต่หากเรื่องใดยังมีหลักฐานไม่เพียงพอ ก็อาจให้ทางคณะอนุกรรมการวินิจฉัยไปดำเนินการตรวจสอบและหาข้อมูลเพิ่มเติม

ส่วนประเด็นที่กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น เราได้ส่งคำร้องไปแล้ว เบื้องต้นก็ต้องรอดูว่าทางศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น