วานนี้ (14เม.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ สามารถรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าว มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่คงต้องรอ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง หลังวันที่ 9 พ.ค.ก่อน จึงจะสามารถดำเนินการได้
ส่วนการเจรจาพูดคุยนั้น เป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค จะมีการพูดคุยกันบ้าง ซึ่งกับพรรคเล็กๆ นั้น ส่วนตัวก็ได้เจอกันบ้าง เพราะส่วนใหญ่ก็รู้จักมักคุ้นกัน มีการแลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมืองกันบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำงานต่อ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำ
สำหรับกระแสข่าวที่ว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ อยู่ระหว่างเจรจากับพรรคพลังประชารัฐ นั้น นายมิ่งขวัญ ได้ออกแถลงการณ์แล้วว่า ไม่เคยเจรจากับพรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นเรื่องแปลกว่า คนที่กระสับกระส่ายมากกว่านายมิ่งขวัญ กลับเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาพูดแทน ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคของตัวเอง และไม่เข้าใจว่าทำไม คุณหญิงสุดารัตน์ จึงยังใช้วาทกรรมสืบทอดอำนาจเผด็จการอยู่ พร้อมระบุอีกว่า อย่าพยายามสร้างความขัดแย้ง หรือแบ่งข้างประชาชนอีกเลย เมื่อเลือกตั้งจบแล้ว ก็รอจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างก็จบ
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มี นายมิ่งขวัญ เป็นหัวหน้าพรรค จะจับมือร่วมรัฐบาลกับ พปชร. หรือไม่ว่า ได้ทราบเรื่องนี้จากข่าว แต่ทุกอย่างต้องรอการประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของกกต. ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ตอนนี้หลายฝ่ายต่างก็คาดการณ์กันไป ขอให้ใจเย็นๆ เนื่องจากตัวเลขเก้าอี้ ส.ส.บางพรรคอาจเพิ่มขึ้น หรือลดลง 1-2 ที่นั่ง จึงต้องรอให้ทุกอย่างนิ่ง และชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะคุยกันยาก
"แนวร่วมของพลังประชารัฐ พอมีบ้าง เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อรวบรวมเสียงส.ส.ให้ได้ เกิน 251 เสียง ให้สามารถทำงานในสภาได้ เรามั่นใจว่าจะมีเสียงเกินนั้น แต่จะมีใครร่วมงานบ้าง ขอรอความชัดเจนหลัง 9 พ.ค.นี้ ก่อน" นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ส่วนที่นายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมนำว่าที่ ส.ส.ของพรรคกว่า 30 คน มาร่วมรัฐบาลกับพปชร.นั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนที่มีความชัดเจน แต่เราต้องเคารพ และให้เกียรติ พรรคปชป. ที่มีกระบวนการพิจารณา และตัดสินใจเรื่องดังกล่าว ว่าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคปชป. จะมีมติอย่างไร
** "เจ๊หน่อย"เชื่อ"ลุงมิ่ง"ไม่ตระบัดสัตย์
วานนี้ เพจเฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความ ระบุว่า เลือกตั้งครั้งนี้อาจยังมีนักการเมืองรุ่นเก่า ที่ยังใช้มุกเดิม ตระบัดสัตย์เพื่อชาติมาอ้าง เพื่อตนจะได้ผิดคำพูดที่ให้ไว้ต่อพี่น้องประชาชน ก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง แต่หน่อยเชื่อว่าไม่ใช่หัวหน้าพรรคการเมืองที่ชื่อ มิ่งขวัญ แน่นอนค่ะ นักการเมืองที่ดี จะเป็นฝ่ายค้าน หรือเป็นฝ่ายรัฐบาล ก็สามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ แต่ นักการเมืองที่ดี จะเสียสัจจะ ที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน..ไม่ได้ !!
ลูกผู้ชายชื่อ มิ่งขวัญ เป็นนักการเมืองน้ำดี พูดคำไหนคำนั้น สุดารัตน์การันตีค่ะ เผด็จการฯ ที่พยายามสืบทอดอำนาจ ถือว่าแย่สำหรับประเทศชาติแล้ว หน่อยว่า...คนที่ใจฝักใฝ่เผด็จการฯ แต่ใช้วาทกรรมหลอกให้คนรักประชาธิปไตย ไปลงคะแนนให้ ถือว่าแย่กว่าเยอะค่ะ เราต้องช่วยกันจดจำใบหน้านักการเมือง และทบทวนคำพูดที่พวกเขาให้ไว้ก่อนเลือกตั้งให้ดี ก่อนเลือกตั้งพูดอย่าง ลงคะแนนเสร็จ พูดอีกอย่าง อ้างนู่นนี่สารพัดเหตุผล จนบางคนทำท่าจะหลบลี้หนีความจริง ยอมที่จะเสียภาวะผู้นำ เพื่อปัดความรับผิดชอบไปเลย แบบนี้ไม่ดีนะคะ
เลือกตั้งยังมีอีกหลายครั้ง จะช้าจะเร็ว ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหน้าว่าจะทำให้ประชาชนยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน เราต้องจำไว้ให้แม่น ใครที่คิดจะทิ้งทวน "โกหกในครั้งนี้ แล้วไปแก้ตัวในครั้งหน้า" คิดว่าคนไทยลืมง่าย ก็ลองดู
ประวัติศาสตร์ไทยไม่เคยยอมรับนักการเมืองที่ตระบัดสัตย์เพื่อชาติ และหน่อยเชื่อว่าประชาชนจะบอยคอตนักการเมืองขี้โกหก
นักการเมืองเก่า ถ้าไม่รู้จักปรับตัว และยังตระบัดสัตย์ ผิดคำพูดต่อพี่น้องประชาชนอยู่อีก เลือกตั้งครั้งหน้าอาจสูญพันธุ์ ยิ่งกว่าครั้งนี้ค่ะ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทวีต ข้อความทางทวิตเตอร์ @phumtham ว่า "วันนี้…เราควรจะปล่อยให้พวกนักการเมืองที่ไร้จรรยาบรรณ สร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่เอาแต่ประโยชน์ตน พยายามโยนหินถาม เพื่อหว่านล้อมให้ยอมรับการแย่งชิงอำนาจเพื่อยึดครองอำนาจและสืบต่ออำนาจ หรือครับ…ใครตระบัดสัตย์ ครั้งหน้าอย่าเลือก"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย ประกาศทำสัตยาบันร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับ 6 พรรคการเมือง เพื่อแข่งกับพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่มีพรรคเศรษฐกิจใหม่ ของนายมิ่งขวัญ ไปร่วมด้วยแต่อย่างใด ขณะที่มีข่าว 5 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ หันไปสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐแล้ว แต่ล่าสุด นายมิ่งขวัญ ออกแถลงการณ์ ไม่เคยเข้าร่วมเจรจาทางการเมืองกับ พรรคพลังประชารัฐ
** หลังสงกรานต์การเมืองยังอึมครึม
นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า หลังเทศกาลสงกรานต์ ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะมีฝ่ายที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ส่วนอีกฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย ก็จะหาความชอบธรรม และต่อสู้กับฝ่ายผู้มีอำนาจ ซึ่งการดำเนินการของทั้ง 2 ฝ่าย จะทำให้สถานการณ์ของประเทศอยู่ในความอึมครึม ไม่ชัดเจน และไม่เป็นที่น่าไว้วางใจของทุกส่วน ทั้งนานาชาติ นักลงทุน จะมีแต่ความถดถอยของทุกภาคส่วน ดังนั้น ต้องให้ทุกฝ่ายตั้งสติ และมองเส้นทางเดินของประเทศว่า แนวทางที่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้จะต้องทำอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝ่ายผู้มีอำนาจ หากผู้มีอำนาจคิดเพียงสืบทอดอำนาจ ก็จะเป็นปัญหาในระยะยาว ส่วนฝ่ายประชาธิปไตย ที่พูดเพียงสะใจ มุ่งดิสเครดิต แต่ไม่เสนอทางออกอย่างสร้างสรรค์ หวังเอาชนะ ก็จะพาประเทศไปสู่หายนะได้เช่นกัน
เมื่อถามว่า หากฝ่ายผู้มีอำนาจ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะเกิดความขัดแย้งอะไร หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ถ้าจัดตั้งรัฐบาลได้โดยชอบธรรม ก็น่าจะเดินหน้าได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนเสียงที่รวบรวมได้ ว่าเพียงพอต่อการบริหารประเทศหรือไม่ แต่ถ้าผู้มีอำนาจจัดตั้งรัฐบาลโดยวิธีการใช้อำนาจในการทำทุกอย่าง โดยไม่สนใจความถูกต้อง ก็จะทำให้เกิดการเผชิญหน้า เกิดความขัดแย้งได้ ดังนั้นทางที่ดีควรตั้งหลัก และคิดถึงผลประโยชน์ประเทศ
**"รังสิมา"หนุนปชป.ร่วม พปชร.ตั้งรัฐบาล
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ว่าที่ ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทิศทางของปชป. ต้องรอคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ว่าจะเป็นฝ่านค้านอิสระ หรือไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สำหรับความเห็นส่วนตัว อยากเห็น ปชป.ร่วมรัฐบาลกับ พปชร. เพราะจะได้ขับเคลื่อนนโยบายให้ประชาชนได้ แต่ทั้งหมดต้องรอมติพรรคเท่านั้น โดยจะมีการประชุม กก.บห. รักษาการอีกครั้ง ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ ถ้ามติพรรคออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า ขณะนี้สังคมมองว่า ปชป. พรรคแตก มีทั้งงูเห่า และแบ่งขั้วเป็น 2 ฝ่าย น.ส.รังสิมา กล่าวว่า เรื่องนี้จริงๆแล้ว ปชป.ตกลงกันไม่ยาก และอยากบอกว่าคน ปชป.ทะเลาะกัน เป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะเราเป็นประชาธิปไตย ถ้าสังเกตจะเห็นว่าพรรคเราไม่ว่าจะทำอะไร จะมีเรื่องเสียงแตก เสียงไม่ตรงกันทุกครั้ง แต่เมื่อมติพรรคออกมาแล้ว ทุกคนต้องปฏิบัติตาม แม้แต่หัวหน้าพรรค จะมาชี้นำให้ไปทางไหน ก็ไม่ได้
"ตอนนี้ทำได้แค่รอคอย เพราะจะมีเลือกตั้งซ่อมอีก 6 เขต และเชื่อว่าอาจจะต้องมีการแจกใบแดง ใบส้ม อะไรกันอีก เชื่อว่าทุกอย่างจะชัดเจน หลังวันที่ 9 พ.ค. ส่วนเรื่องพรรค เราเถียงกันมาตลอด เช่น ตอนที่เรามีมติไม่ส่ง ส.ส.ลงเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 ร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ตอนนั้นเราประชุมถกเถียงกันนาน 3 วัน 3 คืน ก็ยังไม่จบ แต่พอทุกอย่างลงตัวแล้วว่า เราจะไม่ส่ง ส.ส.ลงเลือกตั้ง ทุกอย่างก็จบ และทุกคนก็ต้องเคารพมตินี้" ว่าที่ ส.ส. สมุทรสงคราม กล่าว
ส่วนการเจรจาพูดคุยนั้น เป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค จะมีการพูดคุยกันบ้าง ซึ่งกับพรรคเล็กๆ นั้น ส่วนตัวก็ได้เจอกันบ้าง เพราะส่วนใหญ่ก็รู้จักมักคุ้นกัน มีการแลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมืองกันบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำงานต่อ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำ
สำหรับกระแสข่าวที่ว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ อยู่ระหว่างเจรจากับพรรคพลังประชารัฐ นั้น นายมิ่งขวัญ ได้ออกแถลงการณ์แล้วว่า ไม่เคยเจรจากับพรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นเรื่องแปลกว่า คนที่กระสับกระส่ายมากกว่านายมิ่งขวัญ กลับเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาพูดแทน ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคของตัวเอง และไม่เข้าใจว่าทำไม คุณหญิงสุดารัตน์ จึงยังใช้วาทกรรมสืบทอดอำนาจเผด็จการอยู่ พร้อมระบุอีกว่า อย่าพยายามสร้างความขัดแย้ง หรือแบ่งข้างประชาชนอีกเลย เมื่อเลือกตั้งจบแล้ว ก็รอจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างก็จบ
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มี นายมิ่งขวัญ เป็นหัวหน้าพรรค จะจับมือร่วมรัฐบาลกับ พปชร. หรือไม่ว่า ได้ทราบเรื่องนี้จากข่าว แต่ทุกอย่างต้องรอการประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของกกต. ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ตอนนี้หลายฝ่ายต่างก็คาดการณ์กันไป ขอให้ใจเย็นๆ เนื่องจากตัวเลขเก้าอี้ ส.ส.บางพรรคอาจเพิ่มขึ้น หรือลดลง 1-2 ที่นั่ง จึงต้องรอให้ทุกอย่างนิ่ง และชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะคุยกันยาก
"แนวร่วมของพลังประชารัฐ พอมีบ้าง เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อรวบรวมเสียงส.ส.ให้ได้ เกิน 251 เสียง ให้สามารถทำงานในสภาได้ เรามั่นใจว่าจะมีเสียงเกินนั้น แต่จะมีใครร่วมงานบ้าง ขอรอความชัดเจนหลัง 9 พ.ค.นี้ ก่อน" นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ส่วนที่นายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมนำว่าที่ ส.ส.ของพรรคกว่า 30 คน มาร่วมรัฐบาลกับพปชร.นั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนที่มีความชัดเจน แต่เราต้องเคารพ และให้เกียรติ พรรคปชป. ที่มีกระบวนการพิจารณา และตัดสินใจเรื่องดังกล่าว ว่าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคปชป. จะมีมติอย่างไร
** "เจ๊หน่อย"เชื่อ"ลุงมิ่ง"ไม่ตระบัดสัตย์
วานนี้ เพจเฟซบุ๊ก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความ ระบุว่า เลือกตั้งครั้งนี้อาจยังมีนักการเมืองรุ่นเก่า ที่ยังใช้มุกเดิม ตระบัดสัตย์เพื่อชาติมาอ้าง เพื่อตนจะได้ผิดคำพูดที่ให้ไว้ต่อพี่น้องประชาชน ก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง แต่หน่อยเชื่อว่าไม่ใช่หัวหน้าพรรคการเมืองที่ชื่อ มิ่งขวัญ แน่นอนค่ะ นักการเมืองที่ดี จะเป็นฝ่ายค้าน หรือเป็นฝ่ายรัฐบาล ก็สามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ แต่ นักการเมืองที่ดี จะเสียสัจจะ ที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน..ไม่ได้ !!
ลูกผู้ชายชื่อ มิ่งขวัญ เป็นนักการเมืองน้ำดี พูดคำไหนคำนั้น สุดารัตน์การันตีค่ะ เผด็จการฯ ที่พยายามสืบทอดอำนาจ ถือว่าแย่สำหรับประเทศชาติแล้ว หน่อยว่า...คนที่ใจฝักใฝ่เผด็จการฯ แต่ใช้วาทกรรมหลอกให้คนรักประชาธิปไตย ไปลงคะแนนให้ ถือว่าแย่กว่าเยอะค่ะ เราต้องช่วยกันจดจำใบหน้านักการเมือง และทบทวนคำพูดที่พวกเขาให้ไว้ก่อนเลือกตั้งให้ดี ก่อนเลือกตั้งพูดอย่าง ลงคะแนนเสร็จ พูดอีกอย่าง อ้างนู่นนี่สารพัดเหตุผล จนบางคนทำท่าจะหลบลี้หนีความจริง ยอมที่จะเสียภาวะผู้นำ เพื่อปัดความรับผิดชอบไปเลย แบบนี้ไม่ดีนะคะ
เลือกตั้งยังมีอีกหลายครั้ง จะช้าจะเร็ว ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหน้าว่าจะทำให้ประชาชนยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน เราต้องจำไว้ให้แม่น ใครที่คิดจะทิ้งทวน "โกหกในครั้งนี้ แล้วไปแก้ตัวในครั้งหน้า" คิดว่าคนไทยลืมง่าย ก็ลองดู
ประวัติศาสตร์ไทยไม่เคยยอมรับนักการเมืองที่ตระบัดสัตย์เพื่อชาติ และหน่อยเชื่อว่าประชาชนจะบอยคอตนักการเมืองขี้โกหก
นักการเมืองเก่า ถ้าไม่รู้จักปรับตัว และยังตระบัดสัตย์ ผิดคำพูดต่อพี่น้องประชาชนอยู่อีก เลือกตั้งครั้งหน้าอาจสูญพันธุ์ ยิ่งกว่าครั้งนี้ค่ะ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทวีต ข้อความทางทวิตเตอร์ @phumtham ว่า "วันนี้…เราควรจะปล่อยให้พวกนักการเมืองที่ไร้จรรยาบรรณ สร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่เอาแต่ประโยชน์ตน พยายามโยนหินถาม เพื่อหว่านล้อมให้ยอมรับการแย่งชิงอำนาจเพื่อยึดครองอำนาจและสืบต่ออำนาจ หรือครับ…ใครตระบัดสัตย์ ครั้งหน้าอย่าเลือก"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย ประกาศทำสัตยาบันร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับ 6 พรรคการเมือง เพื่อแข่งกับพรรคพลังประชารัฐ โดยไม่มีพรรคเศรษฐกิจใหม่ ของนายมิ่งขวัญ ไปร่วมด้วยแต่อย่างใด ขณะที่มีข่าว 5 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ หันไปสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐแล้ว แต่ล่าสุด นายมิ่งขวัญ ออกแถลงการณ์ ไม่เคยเข้าร่วมเจรจาทางการเมืองกับ พรรคพลังประชารัฐ
** หลังสงกรานต์การเมืองยังอึมครึม
นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า หลังเทศกาลสงกรานต์ ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะมีฝ่ายที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ส่วนอีกฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย ก็จะหาความชอบธรรม และต่อสู้กับฝ่ายผู้มีอำนาจ ซึ่งการดำเนินการของทั้ง 2 ฝ่าย จะทำให้สถานการณ์ของประเทศอยู่ในความอึมครึม ไม่ชัดเจน และไม่เป็นที่น่าไว้วางใจของทุกส่วน ทั้งนานาชาติ นักลงทุน จะมีแต่ความถดถอยของทุกภาคส่วน ดังนั้น ต้องให้ทุกฝ่ายตั้งสติ และมองเส้นทางเดินของประเทศว่า แนวทางที่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้จะต้องทำอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝ่ายผู้มีอำนาจ หากผู้มีอำนาจคิดเพียงสืบทอดอำนาจ ก็จะเป็นปัญหาในระยะยาว ส่วนฝ่ายประชาธิปไตย ที่พูดเพียงสะใจ มุ่งดิสเครดิต แต่ไม่เสนอทางออกอย่างสร้างสรรค์ หวังเอาชนะ ก็จะพาประเทศไปสู่หายนะได้เช่นกัน
เมื่อถามว่า หากฝ่ายผู้มีอำนาจ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะเกิดความขัดแย้งอะไร หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ถ้าจัดตั้งรัฐบาลได้โดยชอบธรรม ก็น่าจะเดินหน้าได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนเสียงที่รวบรวมได้ ว่าเพียงพอต่อการบริหารประเทศหรือไม่ แต่ถ้าผู้มีอำนาจจัดตั้งรัฐบาลโดยวิธีการใช้อำนาจในการทำทุกอย่าง โดยไม่สนใจความถูกต้อง ก็จะทำให้เกิดการเผชิญหน้า เกิดความขัดแย้งได้ ดังนั้นทางที่ดีควรตั้งหลัก และคิดถึงผลประโยชน์ประเทศ
**"รังสิมา"หนุนปชป.ร่วม พปชร.ตั้งรัฐบาล
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ว่าที่ ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทิศทางของปชป. ต้องรอคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ว่าจะเป็นฝ่านค้านอิสระ หรือไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สำหรับความเห็นส่วนตัว อยากเห็น ปชป.ร่วมรัฐบาลกับ พปชร. เพราะจะได้ขับเคลื่อนนโยบายให้ประชาชนได้ แต่ทั้งหมดต้องรอมติพรรคเท่านั้น โดยจะมีการประชุม กก.บห. รักษาการอีกครั้ง ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ ถ้ามติพรรคออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า ขณะนี้สังคมมองว่า ปชป. พรรคแตก มีทั้งงูเห่า และแบ่งขั้วเป็น 2 ฝ่าย น.ส.รังสิมา กล่าวว่า เรื่องนี้จริงๆแล้ว ปชป.ตกลงกันไม่ยาก และอยากบอกว่าคน ปชป.ทะเลาะกัน เป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะเราเป็นประชาธิปไตย ถ้าสังเกตจะเห็นว่าพรรคเราไม่ว่าจะทำอะไร จะมีเรื่องเสียงแตก เสียงไม่ตรงกันทุกครั้ง แต่เมื่อมติพรรคออกมาแล้ว ทุกคนต้องปฏิบัติตาม แม้แต่หัวหน้าพรรค จะมาชี้นำให้ไปทางไหน ก็ไม่ได้
"ตอนนี้ทำได้แค่รอคอย เพราะจะมีเลือกตั้งซ่อมอีก 6 เขต และเชื่อว่าอาจจะต้องมีการแจกใบแดง ใบส้ม อะไรกันอีก เชื่อว่าทุกอย่างจะชัดเจน หลังวันที่ 9 พ.ค. ส่วนเรื่องพรรค เราเถียงกันมาตลอด เช่น ตอนที่เรามีมติไม่ส่ง ส.ส.ลงเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 ร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน อย่างพรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ตอนนั้นเราประชุมถกเถียงกันนาน 3 วัน 3 คืน ก็ยังไม่จบ แต่พอทุกอย่างลงตัวแล้วว่า เราจะไม่ส่ง ส.ส.ลงเลือกตั้ง ทุกอย่างก็จบ และทุกคนก็ต้องเคารพมตินี้" ว่าที่ ส.ส. สมุทรสงคราม กล่าว