xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นป.ป.ช.ถอดถอน7กกต. - “บิ๊กตู่” เบรกสูตรตั้งรบ.แห่งชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360- "บิ๊กตู่" ซัดคนโยนข้อเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ให้ไปดู กม. ไม่ใช่นึกกำหนดเองได้ แนะสังคมจับวัตถุประสงค์คนพูดต้องการอะไร "ศรีสุวรรณ"นำรายชื่อประชาชนยื่น ป.ป.ช.ถอดถอน 7 กกต.ฐานจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย "เรืองไกร" ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย 24 มีนาคมเลือกตั้งโมฆะ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีมีผู้เสนอแนวทางการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยต้องไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ว่า การออกมาพูดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ มันใช่หรือไม่ จะไปได้อย่างไร ยังไม่รู้เลย กฎหมาย รัฐธรรมนูญ เขาเขียนว่าอย่างไร กฎหมายเลือกตั้งว่าอย่างไร รัฐบาลจะมาจากไหน อะไรต่างๆ ขั้นตอนยังไม่จบ ฉะนั้นต้องไปดูว่า วัตถุประสงค์ของการออกมาพูดนั้น เพื่อต้องการอะไร ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ใครที่จะนึกอยากกำหนดกติกาขึ้นมาใหม่ อะไรก็ได้ มันคงไม่ได้ทั้งหมด ต้องดูกฎหมาย ทำความเข้าใจกับกฎหมายให้ดี

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การมีรัฐบาล ก็ต้องเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ขอให้รอวันประกาศผลรองรับ ไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.นี้ เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดอยู่ หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เปิดสภา อะไรก็ว่ากันไป ตามกำหนดเวลาที่มีอยู่แล้ว ขอให้ดูตรงนั้น

"ถามกันทุกวันๆ จะได้อะไร มีแต่จะยิ่งขัดแย้งกันมากยิ่งขึ้น ใครจะพูดอะไรต่างๆ ก็ตาม ขอให้คิดดูว่า เขาพูดเพื่ออะไร หวังผลอะไรหรือเปล่า ผมยึดมั่นในหลักการของประชาธิปไตย ยึดมั่นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผมก็เดินไปตามนั้นมาโดยตลอด และวันนี้อย่าไปขัดแย้งกับต่างประเทศเขาอีกเลย มันอยู่ที่คนของเราไปทำอะไรกันมาล่ะ แก้ปัญหาของเราภายในประเทศให้ได้ก็แล้วกัน หากเป็นอย่างนี้อีกหน่อย ต้องให้ต่างประเทศมาแก้ให้เราทุกเรื่องเลยหรืออย่างไร กฎหมายของเรา กระบวนการยุติธรรมของเรา เราต้องภูมิใจในความเป็นชาติของเรา"

"ศรีสุวรรณ" ยื่นป.ป.ช.ถอดถอน 7 กกต.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและคณะ ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมนำรายชื่อประชาชนหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ร่วมกันเข้าชื่อในแบบแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการกล่าวหาว่า คณะกรรมการ กกต.กระทำการตามมาตรา 234(1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 จำนวน 399 ราย คือ จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันสืบเนื่องมาจากการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง 2561 สส. กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการ กกต.2560

โดยข้อกล่าวหาที่ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.มีหลายกรณี เช่น กรณีการวินิจฉัยให้บัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ไม่เป็นไปตามกฎหมาย, กรณีไม่สั่งให้พรรคการเมืองต่างๆที่กำหนดนโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงิน ในการประกาศโฆษณานโยบายหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่แจ้งแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ดำเนินนโยบายตาม ม. 57 วรรคแรก และอีกหลายข้อ

สมาคมฯและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงได้เข้าชื่อกันมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวนและเผาผิดตามมาตรา 28(1) ประกอบมาตรา 48 มาตรา 76 ถึงมาตรา 81 และมาตรา 87 และมาตราอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแห่งพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 และหรือตามอำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ในการเสนอต่ออัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อระงับการปฏิบัติหน้าที่และเพิกถอนออกจากตำแหน่งต่อไป

" เรืองไกร" ยื่นตีความเลือกตั้งโมฆะ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและเสนอความเห็นไปยังศาลปกครอง หรือ ศาลรัฐธรรมนูญ ว่า การเลือกตั้งส.ส. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมหรือไม่ และการกระทำของกกต. ขัดหรือแย้งต่อรธน. หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และจะทำให้ผลการเลือกตั้งทั่วไปเป็นโมฆะหรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ามีหลายประเด็น ที่ยังสับสน หาข้อยุติไม่ได้ ทั้งเรื่องการนับคะแนน 100% ที่ กกต. ประกาศในแต่ละครั้งไม่ตรงกัน การแถลงเกี่ยวกับการนับคะแนน ร้อยละ 90 โดยยังไม่นำคะแนนล่วงหน้ามานับรวม หรือ การไม่นำบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ มานับรวม จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและใช้อำนาจตามกฎหมาย ส่งศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่

ข้องใจกกต.แจกปาร์ตี้ลิสต์11พรรคเล็ก

น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือ ขอพบกกต. ทั้ง 7 คน เพื่อสอนสูตรคณิตศาสตร์ เกี่ยวกับการคำนวนส.ส. บัญชีรายชื่อ เนื่องจากเห็นว่า การคำนวนของ กกต. ที่ระบุว่า มีไม่น้อยกว่า 25 พรรคการเมือง ที่จะได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น เป็นการคำนวนที่ไม่เป็นไปตามรธน. กฎหมายเลือกตั้งส.ส. และหลักคณิตศาสตร์ เพราะจากที่ตนคำนวน จะมีเพียง 14 พรรคเท่านั้นที่ได้รับการจัดสรร จึงสงสัยว่ากกต. ใช้สูตรใดในการคำนวน ทำให้มีพรรคเล็กงอกออกมา 11 พรรค ทั้งๆ ที่ 11 พรรคดังกล่าว มีจำนวนคะแนนต่ำกว่าส.ส. พึงมี


กำลังโหลดความคิดเห็น