**อย่าได้แปลกใจ ที่นาทีนี้สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ต้องโผล่ออกมาแบบถี่ยิบ ล่าสุดก็เพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อของฝรั่งเศส และก็แน่นอนตามสูตร ก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์มองเห็นความผิดคนอื่นทั่วไปหมด ยกเว้นตัวเอง พรรคพวกตัวเอง และคราวนี้เป้าหมายก็เช่นเดิม มุ่งไปการทุจริตการเลือกตั้ง โจมตีการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่าสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร เวลานี้เหมือนกับว่าเขากำลังถูก"หยาม" ถูกทำให้ลดความสำคัญลงมาเรื่อยๆ จนแทบทนไม่ได้ หากเปรียบเทียบอารมณ์แบบบ้านๆ ก็ต้องบอกว่า "อารมณ์มันขึ้น" ต้องเอาคืนอะไรประมาณนั้น
ก่อนหน้านี้เขามักใช้สื่อโชเชียล ปลุกระดมมวลชนที่สนับสนุนเขาและพรรคในเครือข่ายของเขาให้ "อย่ายอมแพ้" ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณแบบนี้ถี่ยิบ หลังจากที่รู้ผลว่าพรรคเพื่อไทย รวมทั้งพรรคพันธมิตรทั้งหมดได้รับการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามเป้าหมาย นั่นคือไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากเพียงพอสำหรับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในรัฐสภาได้ หรืออย่าว่าแต่เสียงข้างมากตั้งนายกฯ เลย แค่จัดตั้งรัฐบาลก็ยังได้เสียงไม่ถึงครึ่งเลย
นอกเหนือจากนี้ ที่น่าผิดหวังก็คือบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยของเขาไม่ได้เป็นส.ส.สักคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคคือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค รวมไปถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้เป็น ส.ส. และระดับแกนนำคนอื่นๆ ที่ถูกวางไว้ในอันดับส.ส.บัญชีรายชื่อสักคนเดียว
**ขณะที่ตัวเขา ล่าสุดก็เพิ่งโดนเพิกถอนรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น รางวัลจักรดาวจากโรงเรียนเตรียมทหาร และถูก "ริบเครื่องราชย์ฯ" จาก"พฤติกรรมไม่เหมาะสม"
ทุกอย่างมันประดังเข้ามาในทางลบพร้อมๆ กันทุกทิศทาง และที่สำคัญที่สุดก็คือ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ที่เขา "ไม่ชนะการเลือกตั้ง" หรือไม่ได้เปรียบ ทุกอย่างผิดคาดหมายไปไกลมาก เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างงานเลี้ยงฉลองแต่งงานลูกสาว แพทองธาร ชินวัตร ที่ฮ่องกง เขายังประกาศอย่างมั่นใจว่า "เขาต้องชนะถล่มทลายอีก" แต่เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็น ก็คือ พรรคเพื่อไทย ยังรวบรวมเสียงไม่พอสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ให้เป็นนายกฯ และไม่พอสนับสนุนเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ทุกอย่างปั่นป่วนไปหมด
ส่วนอีกด้านหนึ่งขณะที่ทั้งสองฝ่ายมีเสียงก้ำกึ่งกัน ยังไม่อาจชี้ขาดได้ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในเร็ววันนี้ แต่สำหรับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังมีอำนาจเต็มสำหรับนายกรัฐมนตรีไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่รักษาการ ยังมีอำนาจใช้ มาตรา 44 อยู่ในมือเต็มที่ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา หรือหาก "เดดล็อก" ยันกันอยู่แบบนี้ จนอาจต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกรอบ ก็ใช่ว่าฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร จะได้เปรียบ เพราะไม่อาจควบคุมกลไกต่างๆ เหมือนในอดีต เรียกว่าทุกได้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว
เมื่อพิจารณาจากสภาพการณ์ทุกอย่างแล้ว ถือว่า ทักษิณ ชินวัตร กำลังอยู่ในสถานะลำบาก ไม่อาจ "คุมเกม"ได้เหมือนเดิมแล้ว และมีแนวโน้มว่าพรรคการเมืองในเครือข่ายของเขา คงไม่อาจรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ค่อนข้างแน่ ซึ่งนั่นเท่ากับหายนะสำหรับเขา เพราะตราบใดที่ไม่อาจกลับมา "ควบคุมอำนาจรัฐ" ได้ หลัง จากเว้นช่วงมาแล้วถึง 5 ปีนับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาควบคุมอำนาจ ตั้งแต่ 2557 เรื่อยมา
**หาก ทักษิณ ชินวัตร ต้องเว้นช่วงออกไปอีก ทุกอย่างที่ลงทุนลงแรงมา จากการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถ้าต้องผิดหวัง ทั้งที่ทุ่มเดิมพันแบบหมดหน้าตัก มันก็อาจทำให้ต้อง"สติแตก"ได้เหมือนกัน และอย่าแปลกใจที่เวลานี้จะมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ พร้อมๆ กัน เหมือนกับมีเจตนา"ป่วน" ก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง"พิธีสำคัญ" อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากกลุ่มบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวล้วนเป็นคนกลุ่มเดิม หน้าเดิม ชาวบ้านรู้แบ็กกราวด์อยู่แล้ว
แม้ว่าในเบื้องต้นคนกลุ่มนี้จะยกเอาความล้มเหลวของ กกต. ในการจัดการเลือกตั้งมาเป็นสาเหตุ และใช้สื่อโชเชียลโหมกระพือ แต่หากสังเกตให้ดี จะพบว่าในระยะหลังทาง กกต. เริ่มตั้งหลักได้ และมีการตอบโต้ชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทุกเรื่อง พร้อมๆ กับการแจ้งความดำเนินคดีอย่างเข้มข้นมากขึ้น ก็ทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงไป
หากพิจารณาสถานการณ์อย่างเข้าใจ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ทักษิณ ชินวัตร จะไม่พอใจกับผลการเลือกตั้งที่ออกมา เพราะโอกาสที่จะชักใยรัฐบาล "หุ่นเชิด" เหมือนในอดีตแทบมองไม่เห็นเลย อีกทั้งทำให้เวลาต้องทอดยาวออกไปอีกจนแทบจะหมดลุ้นที่จะได้กลับมา ซึ่งทางเดียวเท่านั้นก็ต้องต้องยุให้ป่วน ด้วยการอ้างเผด็จการ การโกงเลือกตั้ง แต่ปัญหาก็คือ ชาวบ้านเริ่มรู้ทัน เพราะคนเคลื่อนไหวล้วนเป็นกลุ่มเดิมที่มาจากต้นตอเดียวกัน ขณะเดียวกันหากสังเกตจะเห็นว่า กกต.เริ่มตั้งตัวติด มีการชี้แจงตอบโต้เร็วได้ เคลียร์แทบทุกประเด็น ทำให้ความร้อนแรงเริ่มลดลงกว่าเดิม
**ดังนั้น สิ่งที่ ทักษิณ ชินวัตร ทำได้ก็คือ ยุให้ป่วน แต่โอกาสสำเร็จนั้นเป็นไปได้น้อยมาก เพราะชาวบ้านเริ่มเบื่อกับความวุ่นวายแบบนั้นไปแล้ว อีกทั้งสถานการณ์ยังไม่ไปไกล ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคุมทุกอย่างได้อยู่หมัด !!
แน่นอนว่าสำหรับ ทักษิณ ชินวัตร เวลานี้เหมือนกับว่าเขากำลังถูก"หยาม" ถูกทำให้ลดความสำคัญลงมาเรื่อยๆ จนแทบทนไม่ได้ หากเปรียบเทียบอารมณ์แบบบ้านๆ ก็ต้องบอกว่า "อารมณ์มันขึ้น" ต้องเอาคืนอะไรประมาณนั้น
ก่อนหน้านี้เขามักใช้สื่อโชเชียล ปลุกระดมมวลชนที่สนับสนุนเขาและพรรคในเครือข่ายของเขาให้ "อย่ายอมแพ้" ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณแบบนี้ถี่ยิบ หลังจากที่รู้ผลว่าพรรคเพื่อไทย รวมทั้งพรรคพันธมิตรทั้งหมดได้รับการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามเป้าหมาย นั่นคือไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากเพียงพอสำหรับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในรัฐสภาได้ หรืออย่าว่าแต่เสียงข้างมากตั้งนายกฯ เลย แค่จัดตั้งรัฐบาลก็ยังได้เสียงไม่ถึงครึ่งเลย
นอกเหนือจากนี้ ที่น่าผิดหวังก็คือบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยของเขาไม่ได้เป็นส.ส.สักคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคคือ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค รวมไปถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้เป็น ส.ส. และระดับแกนนำคนอื่นๆ ที่ถูกวางไว้ในอันดับส.ส.บัญชีรายชื่อสักคนเดียว
**ขณะที่ตัวเขา ล่าสุดก็เพิ่งโดนเพิกถอนรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น รางวัลจักรดาวจากโรงเรียนเตรียมทหาร และถูก "ริบเครื่องราชย์ฯ" จาก"พฤติกรรมไม่เหมาะสม"
ทุกอย่างมันประดังเข้ามาในทางลบพร้อมๆ กันทุกทิศทาง และที่สำคัญที่สุดก็คือ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ที่เขา "ไม่ชนะการเลือกตั้ง" หรือไม่ได้เปรียบ ทุกอย่างผิดคาดหมายไปไกลมาก เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างงานเลี้ยงฉลองแต่งงานลูกสาว แพทองธาร ชินวัตร ที่ฮ่องกง เขายังประกาศอย่างมั่นใจว่า "เขาต้องชนะถล่มทลายอีก" แต่เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็น ก็คือ พรรคเพื่อไทย ยังรวบรวมเสียงไม่พอสนับสนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ให้เป็นนายกฯ และไม่พอสนับสนุนเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ทุกอย่างปั่นป่วนไปหมด
ส่วนอีกด้านหนึ่งขณะที่ทั้งสองฝ่ายมีเสียงก้ำกึ่งกัน ยังไม่อาจชี้ขาดได้ว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในเร็ววันนี้ แต่สำหรับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังมีอำนาจเต็มสำหรับนายกรัฐมนตรีไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่รักษาการ ยังมีอำนาจใช้ มาตรา 44 อยู่ในมือเต็มที่ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามา หรือหาก "เดดล็อก" ยันกันอยู่แบบนี้ จนอาจต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกรอบ ก็ใช่ว่าฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร จะได้เปรียบ เพราะไม่อาจควบคุมกลไกต่างๆ เหมือนในอดีต เรียกว่าทุกได้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว
เมื่อพิจารณาจากสภาพการณ์ทุกอย่างแล้ว ถือว่า ทักษิณ ชินวัตร กำลังอยู่ในสถานะลำบาก ไม่อาจ "คุมเกม"ได้เหมือนเดิมแล้ว และมีแนวโน้มว่าพรรคการเมืองในเครือข่ายของเขา คงไม่อาจรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ค่อนข้างแน่ ซึ่งนั่นเท่ากับหายนะสำหรับเขา เพราะตราบใดที่ไม่อาจกลับมา "ควบคุมอำนาจรัฐ" ได้ หลัง จากเว้นช่วงมาแล้วถึง 5 ปีนับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาควบคุมอำนาจ ตั้งแต่ 2557 เรื่อยมา
**หาก ทักษิณ ชินวัตร ต้องเว้นช่วงออกไปอีก ทุกอย่างที่ลงทุนลงแรงมา จากการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถ้าต้องผิดหวัง ทั้งที่ทุ่มเดิมพันแบบหมดหน้าตัก มันก็อาจทำให้ต้อง"สติแตก"ได้เหมือนกัน และอย่าแปลกใจที่เวลานี้จะมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ พร้อมๆ กัน เหมือนกับมีเจตนา"ป่วน" ก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง"พิธีสำคัญ" อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากกลุ่มบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวล้วนเป็นคนกลุ่มเดิม หน้าเดิม ชาวบ้านรู้แบ็กกราวด์อยู่แล้ว
แม้ว่าในเบื้องต้นคนกลุ่มนี้จะยกเอาความล้มเหลวของ กกต. ในการจัดการเลือกตั้งมาเป็นสาเหตุ และใช้สื่อโชเชียลโหมกระพือ แต่หากสังเกตให้ดี จะพบว่าในระยะหลังทาง กกต. เริ่มตั้งหลักได้ และมีการตอบโต้ชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทุกเรื่อง พร้อมๆ กับการแจ้งความดำเนินคดีอย่างเข้มข้นมากขึ้น ก็ทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงไป
หากพิจารณาสถานการณ์อย่างเข้าใจ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ทักษิณ ชินวัตร จะไม่พอใจกับผลการเลือกตั้งที่ออกมา เพราะโอกาสที่จะชักใยรัฐบาล "หุ่นเชิด" เหมือนในอดีตแทบมองไม่เห็นเลย อีกทั้งทำให้เวลาต้องทอดยาวออกไปอีกจนแทบจะหมดลุ้นที่จะได้กลับมา ซึ่งทางเดียวเท่านั้นก็ต้องต้องยุให้ป่วน ด้วยการอ้างเผด็จการ การโกงเลือกตั้ง แต่ปัญหาก็คือ ชาวบ้านเริ่มรู้ทัน เพราะคนเคลื่อนไหวล้วนเป็นกลุ่มเดิมที่มาจากต้นตอเดียวกัน ขณะเดียวกันหากสังเกตจะเห็นว่า กกต.เริ่มตั้งตัวติด มีการชี้แจงตอบโต้เร็วได้ เคลียร์แทบทุกประเด็น ทำให้ความร้อนแรงเริ่มลดลงกว่าเดิม
**ดังนั้น สิ่งที่ ทักษิณ ชินวัตร ทำได้ก็คือ ยุให้ป่วน แต่โอกาสสำเร็จนั้นเป็นไปได้น้อยมาก เพราะชาวบ้านเริ่มเบื่อกับความวุ่นวายแบบนั้นไปแล้ว อีกทั้งสถานการณ์ยังไม่ไปไกล ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคุมทุกอย่างได้อยู่หมัด !!