xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนหนุนพรรคลุงตู่เป็นแกนนำ มั่นใจดันศก.โต-ต่างชาติเชื่อมั่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-ส.อ.ท.หนุน พปชร. เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังมีคะแนนนำ มั่นใจช่วยดันเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ และได้รับการยอมรับจากต่างชาติ ห่วงการยอมรับผลการเลือกตั้ง หากวุ่นวาย ประเทศจะติดล็อก ด้านหอการค้าไทยขอรัฐบาลอย่าเกียร์ว่างช่วงก่อนมี ครม.ใหม่ เหตุเป็นรอยต่อที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ นักวิชาการมั่นใจนโยบายเศรษฐกิจใหม่ทำได้เร็ว เพราะที่แต่ละพรรคหาเสียงไว้ ไม่ต่างกันมากนัก

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งปี 2562 มีแนวโน้มว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะนอกจากคะแนนเสียงที่ได้มามากแล้ว ยังมีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่สนับสนุน จึงเชื่อว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้นกว่าเดิมและที่สำคัญไทยจะได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ส่งผลให้การเจรจาการค้ากับต่างประเทศก็จะง่ายขึ้นตามไปด้วย และนโยบายต่างๆ ก็จะได้รับการสานต่อตามที่เคยวางไว้ทั้งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ไทยแลนด์ 4.0

"หากพรรคใดสามารถรวบรวมเสียงและจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็ควรจะให้โอกาสได้ทำงาน ส่วนผู้ที่มีเสียงข้างน้อย ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ดีที่สุด เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบให้กับประชาชน โดยสิ่งที่เอกชนเป็นห่วงในขณะนี้ ก็คือ การยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าไม่เกิดปัญหาการไม่ยอมรับเกิดขึ้น จนถึงขึ้นมีการออกมาทำลายทรัพย์สิน หรือออกมาประท้วง ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง"นายสุพันธุ์กล่าว

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า สิ่งที่เอกชนกังวลในการจัดตั้งรัฐบาล คือ อย่าให้นำไปสู่การเป็นโมฆะ เพราะจะทำให้ไทยเสียเวลาไปอีกหลายเดือน โดยหากเกิดปัญหาติดล็อก ก็ควรหาทางออกร่วมกัน

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนคาดหวังให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีเกียร์ว่าง เพราะแม้จะเลือกตั้งไปแล้ว ก็ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งถึงจะเห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ดังนั้น จากวันนี้ไปจนถึงวันที่มีรัฐบาลใหม่ เอกชนขอให้ประเทศมีความสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ จากการที่ต่างชาติอยากเข้ามาลงทุนในไทย และเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ส่วนนโยบายที่อยากให้สานต่อ เช่น อีอีซี การพัฒนาการศึกษา การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้านค่าแรง เห็นว่า ควรเร่งเพิ่มทักษะแรงงาน เพราะอนาคตเป็นยุคที่เครื่องจักรและหุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนที่

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากประเมินจากผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ จะเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐมีโอกาสสูงที่จะรวบรวมเสียงสนับสนุนได้เกิน 250 เสียง เมื่อรวมกับเสียงของสมาชิกวุฒิสภาอีก 250 เสียง ก็จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ส่วนนโยบายด้านเศรษฐกิจ เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะกำหนดนโยบายออกมาได้เร็ว ไม่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพราะพื้นฐานนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมืองที่หาเสียงไว้ ไม่แตกต่างกันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นความพยายามทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี การเพิ่มรายได้ การเพิ่มสวัสดิการสังคม หรือลดต้นทุนในการดำรงชีวิตด้านต่างๆ ทำให้น่าจะหลอมรวมมาสู่การปฏิบัติจริงได้ไม่ยาก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติก็จะเห็นภาพของแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง เช่น โครงการ EEC โครงการThailand 4.0 การสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ S-curve และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น