xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว --25 มี.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ข่าวปนคน คนปนข่าว --25 มี.ค.

** “ธนาธร” ขี่พายุทะลุฟ้า จัดว่าสมราคาขวัญใจชาวเน็ตและวัยรุ่น “ม้ามืด” ตัวจริง คะแนนมากว่า 5 ล้านกว่าเสียงแรงจัดส่งจำนวนสส.พุ่ง “พ่อของฟ้า” ได้ทีไม่ได้มาเล่นๆ มีที่ยืนแล้ว จับตาเงื่อนไขอนาคตใหม่ ไม่ใช่ “สงครามครั้งสุดท้าย” ทหาร-คสช.ต้องประเมินใหม่ ทำงานไม่ง่ายเหมือนเดิม **

ผลการเลือกตั้ง'62อย่างไม่เป็นทางการมีพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ล้มช้าง ล้มยักษ์ ในหลายพื้นที่ แม้พรรคที่ได้รับเลือกมากที่สุดตามลำดับค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นสองพรรคใหญ่ “เพื่อไทย” และ “พลังประชารัฐ” แต่ “อนาคตใหม่” ของ “พ่อของฟ้า” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีโอกาสที่จะพาลูกพรรคเข้าสภาโดยคาดว่า จะได้ปาร์ตี้ลิสต์มากกว่าใคร และ เบียดพรรคเก่าแก่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ตกเวทีในสนามกทม.ได้

ธนาธร สร้างปรากฎการณ์ก่อนเลือกตั้งจากที่เป็นที่กล่าวถึงของเครือข่ายสังคมออนไลน์ และ คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนที่เพิ่งมีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก หรือ Frist Voter ธนาธร เรียกคะแนนนิยมกับคนกลุ่มนี้ได้ดีกว่าพรรคอื่นๆ และ จากกระแสการตื่นตัวในการเลือกตั้งครั้งนี้และดูผลการนับคะแนนตามมา อนาคตใหม่กลายเป็น “ม้ามืด” ตัวจริง

พรรคส้มหวาน มาแรงในภาพรวมหลายๆพื้นที่ อันดับสลับไปมาเบียดกับพรรคใหญ่อย่างสนุก จำนวนสส.ของอนาคตใหม่อาจจะได้มาจากปาร์ตี้ลิสต์มากกว่าก็จริงแต่ สส.เขต อนาคตใหม่ก็มีสิทธิ์ที่จะปักธงชนิดหักปากกาเซียน โดยเฉพาะสนามกทม.ที่เคยเป็นพื้นที่ยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์ และ เพื่อไทย

ธนาธร เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า “ ทุกคะแนนเสียงที่เทให้พรรคอนาคตใหม่คือพลังแห่งความเปลี่ยนแปลง”
กกต.เปิดผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 21.28น.ปรากฎว่า พรรคส้มหวาน มาเป็นอันดับสาม ด้วยคะแนนกว่า 5ล้านคะแนนเหนือกว่าพรรคใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อคะแนนของอนาคตใหม่ออกมามากกว่าที่โพลหลายสำนัก หักปากกาเซียนด้วยการจะพาพวกเข้ามาเพียบแบบนี้ การเปลี่ยนแปลงที่ธนาธรว่าไว้หลังเลือกตั้ง ย่อมจะมีความหมาย ต่อการเดินไปข้างหน้าของสมการการเมือง
การเมืองหลังเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างไร ใครจะจับกับใคร พรรคอนาคตใหม่จะเอายังไง “พ่อของฟ้า” มีราคาขึ้นมาทันที

อนาคตใหม่ในนาทีนี้ถูกมองว่าเป็นตัวแปรสำคัญพรรคหนี่งไปแล้ว แต่จากการประกาศของ ธนาธร ที่พูดหลายครั้งในการหาเสียงว่า เขามีเงื่อนไข เงื่อนตายพอสมควร จะไม่ร่วมกับ พรรคพลังประชารัฐแน่นอน และ ไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะจับมือกับเพื่อไทย

พ่อของฟ่า ธนาธร ไม่มีเหนียมอายที่จะบอกว่าสังคมว่า เขาเป็นคนมีความทะเยอทะยานสูง จุดยืนของเขาคือเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี หากจะให้เขาสนับสนุนใครเป็นนายกฯ ธนาธรก็เคยบอกว่า แคนดิเดตนายกฯต้องเป็นสส. นี่เป็นเงื่อนตายที่ผูกไว้

เงื่อนไขของพ่อของฟ้าจึงไม่เอา ลุงตู่ ก็ไม่เอา สุดารัตน์ แล้วจะยังไงต่อ?

พ่อของฟ้าเคลมว่า คะแนนที่ออกมาบ่งบอกว่า อนาคตใหม่ไม่ได้มาเล่นๆ มีที่ยืนแล้ว

เมื่อถามถึงจุดยืนของอนาคตใหม่ในการจัดตั้งรัฐบาลที่คนอยากจะรู้เมื่อตัวเองมีราคา พ่อของฟ้าก็ยังยืนยันใน 3 จุดยืน นั่นคือ ยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 ทั้งฉบับ และ ล้มล้างผลพวงที่เกิดจากรัฐประหาร

อนาคตใหม่ จะทำงานทั้งในและนอกสภาประสานกันไปมองไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า

เงื่อนไข และ ล็อกที่ ธนาธร วางไว้จะชัดขึ้นหลังจากการจับขั้วจับพรรคจัดตั้งรัฐบาลแต่ที่แน่ๆ ปรากฎการณ์ “อนาคตใหม่” และ ธนาธร ครั้งนี้ คสช. ทหาร และ การทำงานของพรรคพลังประชารัฐไม่ง่ายแน่นอน ต้องประเมินยุทธศาสตร์กันใหม่หรือไม่

นี่ไม่ใช่ “สงครามครั้งสุดท้าย” แต่มันเหมือนเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง!

** “มาร์ค” ลาออกรับผิดชอบพาประชาธิปัตย์ “แพ้ยับ” กทม.สูญพันธุ์ ภาคใต้ก็ไม่เข้าเป้า หล่นไปเป็น “พรรคอันดับ 5” ได้ ส.ส.ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแทบจะทุบสถิติของพรรค พลังต่อรองร่วมรัฐบาลเหี่ยวลงทันที**

ผลการตัดสินใจของประชาชนคนไทยในวันที่ 24 มีนาคม 62 อย่างไม่เป็นทางการ แม้จะยังไม่สะเด็ดน้ำตามคะแนนอยางเป็นทางการ แต่ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า “พรรคที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย” คือ “พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)” ภายใต้การนำของ “พ่อรูปหล่อ” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นั้น “แพ้ไม่เป็นท่า” จากที่เคยเป็นพรรคที่ถูกจับตามองว่ามีสิทธิเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล กลับร่วงหล่นกราวรูดไปเป็น “พรรคอันดับ 5” ในชั่วพริบตา ถือเป็นห้วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดครั้งหนึ่งของพรรคนับแต่ “นายควง อภัยวงศ์” ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2489 เลยก็ว่าได้

ยิ่งถ้าย้อนดูประวัติศาสตร์ ปชป. ในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา จะพบว่ามีเพียง “บัญญัติ บรรทัดฐาน” อดีตหัวหน้าพรรคคนที่ 6 ที่นำพรรคเข้าสู่การเลือกตั้งปี 2548 แล้วหิ้ว ส.ส. เข้าสภาผู้แทนราษฎรได้เพียง 96 คน นอกจากนั้น “เกินร้อย” ทั้งสิ้น กรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่เคยเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรค ไม่มี ส.ส.สักคนเดียว ภาคใต้ที่ครั้งเคยส่ง “เสาไฟฟ้า” ลงสมัครก็ได้

ทุกอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลพื้นที่ภาคใต้ และผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 พัทลุง โดน “พรรคเสี่ยหนู” กวาดตกไปจากเวที “ภูเก็ต-สตูล” ก็แพ้ให้กับพรรคพลังประชารัฐทั้ง 2 เขต “ระนอง” ก็เจอไป 1เขต ที่ “เพชรบุรี” ฐานที่มั่นของ “เสี่ยจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร ก็เจอ “พรรคลุงตู่” กวาดลงทะเลไปหมด

ความพ่ายแพ้ของ ปชป.ทำให้พรรคไม่เหลือพลังอะไรให้ไปต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาลกับ “ใคร” ใดๆ ทั้งสิ้น และแน่นอน คงไม่ต้องถามหาความรับผิดชอบจากคนอื่น เพราะเที่ยวนี้ “พี่มาร์ค” จะต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคในทันที ตามสัจวาจาที่เขาเคยประกาศไว้ “ถ้ามันต่ำร้อย ผมก็บอกว่าผมไม่ควรจะเป็นหัวหน้าองค์กรต่อ ก็ตอบกันง่าย ๆ อย่างนี้”

และแล้ว อภิสิทธิ์ ก็แถลงช่วงดึกของวันอาทิตย์ ขอบคุณแฟนๆแต่ก็ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังที่ไม่สามารถทำให้พรรคประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ พร้อมประกาศขอรับผิดชอบด้วยการลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคมีผลโดยทันที

ปรากฏการณ์ “แพ้ยับ” ของ ปชป.คือบทเรียนที่จำต้องมีการ “สังคายนาครั้งใหญ่” ส่วน “ใคร” จะมาเป็น “หัวหน้าพรรค” คนใหม่ ต้องจับตากันต่อไป.

รูป –ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ




กำลังโหลดความคิดเห็น