**เริ่มชัดเจนแบบอกสั่นขวัญผวาเข้ามาทุกที สำหรับคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ "จีทูจีล็อตสอง" เพราะรายงานจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ล่าสุด ว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนในคดีดังกล่าวได้แจ้งคำสั่งไต่สวนของคณะอนุกรรมการฯ โดยส่งเป็นหนังสือไปยังผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 71 ราย โดยในจำนวนนั้นมีชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ สามพี่น้องรวมอยู่ด้วย โดยเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบว่ากำลังจะถูกสอบในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการเริ่มต้นไต่สวนผู้ถูกพาดพิง และพยานเพิ่มเติม
ตามรายงานยังระบุว่า การส่งหนังสือแจ้งคำสั่งการไต่สวนครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายผลการสอบสวนการระบายข้าวบบจีทูจี ล็อตแรก ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเวลา 42 ปี รวมทั้งผู้กระทำความผิดรายอื่นอีกหลายคน ที่มีทั้งอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นักการเมือง และข้าราชการระดับสูง รวมไปถึงเอกชนที่เกี่ยวข้อง
แน่นอนว่า นี่คือข่าวร้ายสำหรับ "สามพี่น้อง" ครอบครัวนี้ ขณะเดียวกันยังบังเอิญว่า ออกมาในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งพอดี ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงพรรคในเครือข่ายทางใดทางหนึ่งหรือไม่ มันก็ทำให้ชวนคิดได้หลายมุมเหมือนกัน
ขณะเดียวกัน หากรายงานข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นจริง มันก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า จะสามารถสาวไปถึงใครได้บ้างในจำนวน 71 คน ตามรายงานที่ว่านี้ โดยเฉพาะ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และ เยาวภา จะมีความผิดหรือไม่ ที่น่าจับตาก็คือ การระบายข้าวแบบจีทูจี มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงไปถึงโครงการรับจำนำข้าว ที่อื้อฉาว และที่ผ่านมาก็รับรู้กันว่า "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" และเมื่อมีการระบุว่า โครงการดังกล่าวนี้ได้สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท เกิดการทุจริต รั่วไหล มากมายหลายคนก็ตั้งคำถามว่า จะสามารถเอาผิดคนที่เหลือได้มากกว่านี้หรือไม่ โดยเฉพาะ"ไอ้โม่ง" ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
ที่ผ่านมา แม้ว่า บุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวกที่เป็นทั้งนักการเมือง ข้าราชการและเอกชน จะถูกพิพากษารับโทษตามความผิดคนละหลายสิบปี ถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว แต่สังคมก็ยังเชื่อว่ายังมี "ผู้บงการ" ที่ยังลอยนวล ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังมีวลีลือลั่นที่ออกมาจากปากของ บุญทรง เองว่า "กูพูดไม่ได้" ก็ยิ่งทำให้สิ่งที่สังคมปักใจเชื่อว่า ผู้บงการหรือตัวการใหญ่ยังมีอยู่จริง
อย่างไรก็ดี หลังจากมีการเคลื่อนไหวย้ายพรรค ของ "ลูกชายบุญทรง" พร้อมกับการให้สัมภาษณ์เปิดใจในทำนองว่าเกิดความระแวงไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ โดยเฉพาะคำพูดที่ระบุให้เข้าใจว่า "มีการเหยียบย่ำซ้ำเติมจากทนายความของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมๆ กับข่าวการเปิดเผยข้อมูลในทางลับ กับฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีการสอบสวนในทางลับมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.ได้เคยให้ข้อมูลเมื่อกลางเดือนมกราคมว่า ป.ป.ช. กำลังไต่สวนคดีระบายข้าวและมันสำปะหลังแบบจีทูจี ซึ่งอาจนำไปสู่การส่งคำสั่งการไต่สวนให้กับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามก็เป็นได้
สำหรับข้อมูลตัวบุคคลนั้นทุกคนรับรู้กันว่า ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หลบหนีคดีไปต่างประเทศนานแล้ว แต่สำหรับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นมานานหลายเดือนเช่นกัน แม้กระทั่งในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการตั้งข้อสังเกตว่าเธอหายตัวไปตั้งแต่ช่วงที่มีข่าวว่า ปปช.กำลังมีการสอบสวนในคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตสอง และจนบัดนี้ก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ มีเพียง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีเท่านั้นที่เคยเคลื่อนไหวช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดหนองคายเมื่อราว วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเท่านั้น
นอกเหนือจากนี้ ยังต้องจับตากันอีกว่า จะได้เห็นการเคลื่อนไหวของ "สามพี่น้อง" อย่างไรบ้าง หลังจากก่อนหน้านี้มีบางพรรคการเมืองในเครือข่ายได้ใช้วิธีรณรงค์หาเสียงว่า "จะพาทักษิณกลับบ้าน" ในความหมายก็คือ จะรื้อคดีของทักษิณขึ้นมาพิจารณาใหม่อย่างยุติธรรม อย่างไรก็ดี เมื่อมีคำสั่งไต่สวนล่าสุดแจ้งไปยัง ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และเยาวภา ให้ทราบแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอาการ "หลอน" หรือไม่ เพราะสำหรับ ทักษิณ ยังมีอีกหลายคดีที่กำลังอยู่ในศาล ถูกนำขึ้นมาพิจารณาตามกฎหมายใหม่ที่สามารถพิจารณาลับหลังจำเลยได้หากหลบหนี
ดังนั้น นาทีนี้ แม้ว่าคดีจีทูจีระบายข้างล็อตสองยังเป็นแค่ขั้นต้น แต่เท่าที่เห็นมันก็เหมือนกับการกระชับวงล้อมเข้ามาทุกขณะ เพียงแค่นี้มันก็น่าจะเกิดอาการ"หลอน" เรื่องคิดจะ "พากลับบ้าน" หรือรื้อคดีเริ่มกันใหม่ มันน่าจะเป็นแค่เกมหาเสียงตื้นๆ หลอกพวกแฟนคลับเท่านั้นหรือไม่ ทั้งที่ในความเป็นจริง น่าจะ "หนีไปให้ไกลกว่าเดิม"เข้ากลีบเมฆไปเลยมากกว่า !!
ตามรายงานยังระบุว่า การส่งหนังสือแจ้งคำสั่งการไต่สวนครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายผลการสอบสวนการระบายข้าวบบจีทูจี ล็อตแรก ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเวลา 42 ปี รวมทั้งผู้กระทำความผิดรายอื่นอีกหลายคน ที่มีทั้งอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นักการเมือง และข้าราชการระดับสูง รวมไปถึงเอกชนที่เกี่ยวข้อง
แน่นอนว่า นี่คือข่าวร้ายสำหรับ "สามพี่น้อง" ครอบครัวนี้ ขณะเดียวกันยังบังเอิญว่า ออกมาในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งพอดี ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงพรรคในเครือข่ายทางใดทางหนึ่งหรือไม่ มันก็ทำให้ชวนคิดได้หลายมุมเหมือนกัน
ขณะเดียวกัน หากรายงานข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นจริง มันก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า จะสามารถสาวไปถึงใครได้บ้างในจำนวน 71 คน ตามรายงานที่ว่านี้ โดยเฉพาะ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และ เยาวภา จะมีความผิดหรือไม่ ที่น่าจับตาก็คือ การระบายข้าวแบบจีทูจี มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงไปถึงโครงการรับจำนำข้าว ที่อื้อฉาว และที่ผ่านมาก็รับรู้กันว่า "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" และเมื่อมีการระบุว่า โครงการดังกล่าวนี้ได้สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท เกิดการทุจริต รั่วไหล มากมายหลายคนก็ตั้งคำถามว่า จะสามารถเอาผิดคนที่เหลือได้มากกว่านี้หรือไม่ โดยเฉพาะ"ไอ้โม่ง" ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
ที่ผ่านมา แม้ว่า บุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวกที่เป็นทั้งนักการเมือง ข้าราชการและเอกชน จะถูกพิพากษารับโทษตามความผิดคนละหลายสิบปี ถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว แต่สังคมก็ยังเชื่อว่ายังมี "ผู้บงการ" ที่ยังลอยนวล ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังมีวลีลือลั่นที่ออกมาจากปากของ บุญทรง เองว่า "กูพูดไม่ได้" ก็ยิ่งทำให้สิ่งที่สังคมปักใจเชื่อว่า ผู้บงการหรือตัวการใหญ่ยังมีอยู่จริง
อย่างไรก็ดี หลังจากมีการเคลื่อนไหวย้ายพรรค ของ "ลูกชายบุญทรง" พร้อมกับการให้สัมภาษณ์เปิดใจในทำนองว่าเกิดความระแวงไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ โดยเฉพาะคำพูดที่ระบุให้เข้าใจว่า "มีการเหยียบย่ำซ้ำเติมจากทนายความของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมๆ กับข่าวการเปิดเผยข้อมูลในทางลับ กับฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีการสอบสวนในทางลับมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.ได้เคยให้ข้อมูลเมื่อกลางเดือนมกราคมว่า ป.ป.ช. กำลังไต่สวนคดีระบายข้าวและมันสำปะหลังแบบจีทูจี ซึ่งอาจนำไปสู่การส่งคำสั่งการไต่สวนให้กับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามก็เป็นได้
สำหรับข้อมูลตัวบุคคลนั้นทุกคนรับรู้กันว่า ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หลบหนีคดีไปต่างประเทศนานแล้ว แต่สำหรับ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นมานานหลายเดือนเช่นกัน แม้กระทั่งในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการตั้งข้อสังเกตว่าเธอหายตัวไปตั้งแต่ช่วงที่มีข่าวว่า ปปช.กำลังมีการสอบสวนในคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตสอง และจนบัดนี้ก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ มีเพียง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีเท่านั้นที่เคยเคลื่อนไหวช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดหนองคายเมื่อราว วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเท่านั้น
นอกเหนือจากนี้ ยังต้องจับตากันอีกว่า จะได้เห็นการเคลื่อนไหวของ "สามพี่น้อง" อย่างไรบ้าง หลังจากก่อนหน้านี้มีบางพรรคการเมืองในเครือข่ายได้ใช้วิธีรณรงค์หาเสียงว่า "จะพาทักษิณกลับบ้าน" ในความหมายก็คือ จะรื้อคดีของทักษิณขึ้นมาพิจารณาใหม่อย่างยุติธรรม อย่างไรก็ดี เมื่อมีคำสั่งไต่สวนล่าสุดแจ้งไปยัง ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และเยาวภา ให้ทราบแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอาการ "หลอน" หรือไม่ เพราะสำหรับ ทักษิณ ยังมีอีกหลายคดีที่กำลังอยู่ในศาล ถูกนำขึ้นมาพิจารณาตามกฎหมายใหม่ที่สามารถพิจารณาลับหลังจำเลยได้หากหลบหนี
ดังนั้น นาทีนี้ แม้ว่าคดีจีทูจีระบายข้างล็อตสองยังเป็นแค่ขั้นต้น แต่เท่าที่เห็นมันก็เหมือนกับการกระชับวงล้อมเข้ามาทุกขณะ เพียงแค่นี้มันก็น่าจะเกิดอาการ"หลอน" เรื่องคิดจะ "พากลับบ้าน" หรือรื้อคดีเริ่มกันใหม่ มันน่าจะเป็นแค่เกมหาเสียงตื้นๆ หลอกพวกแฟนคลับเท่านั้นหรือไม่ ทั้งที่ในความเป็นจริง น่าจะ "หนีไปให้ไกลกว่าเดิม"เข้ากลีบเมฆไปเลยมากกว่า !!