แห่เลือกตั้งล่วงหน้า "ป๋าเปรม"นั่งวีลแชร์ไปหย่อนบัตร

ประชาชนทั่วประเทศกว่า 2.6 ล้าน แห่ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าคึกคัก รอคิวตั้งแต่ยังไม่เปิดคูหา "ป๋าเปรม" นั่งวีลแชร์ ใส่สายออกซิเจนช่วยหายใจ ไปหย่อนบัตร พร้อมยิ้มบอกเลือกตั้งครั้งนี้ "ดี" ขณะคนใกล้ชิดเผยเหตุใส่สายออกซิเจน เพราะคนเยอะ สื่อนอกรายงานคนไทยเข้าคิวรอเลือกตั้ง ด้วยความหวังว่าประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ด้านรองเลขาฯกกต. เผยภาพรวมใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยืนยันดูแลบัตรลงคะแนนเข้มงวดหลังปิดหีบ สรุปใช้สิทธิ์ล่วงหน้าทั่วประเทศประมาณ 75%

วานนี้ ( 17 มี.ค.)เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ซึ่งกกต.ได้จัดหน่วยเลือกตั้งกลางทั่วประเทศ 395 หน่วย ให้กับผู้ลงทะเบียนกว่า 2,632,935 คนได้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยบรรยากาศการใช้สิทธิ เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วทุกภาค มีผู้ที่ลงทะเบียน ได้เดินทางไปรอใช้สิทธิกันตั้งแต่ยังไม่เปิดหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งกก.ประจำหน่วยได้ประกาศแจ้งผู้ลงทะเบียนที่เดินทางมาขอใช้สิทธิ ให้ทราบถึงขั้นตอนการใช้สิทธิรวมถึงแจ้งเตือนผู้ใช้สิทธิ งดการถ่ายภาพในหน่วยลงคะแนน และจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการดูข้อมูลผู้สมัครของแต่ละเขต และจังหวัด เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนได้ใช้สิทธิเลือกผู้สมัครอย่างถูกต้อง โดยจังหวัดที่มียอดผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิมากที่สุดคือ กรุงเทพมหานคร 928,532 คน มากที่สุดที่ เขตบางกะปิ 61,401 คน

ขณะที่ กกต.ทั้ง 7 คน ได้เดินทางไปสังเกตการณ์ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในจังหวัดต่าง โดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เดินทางไปติดตามการลงคะแนนที่เลือกตั้งกลาง สำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ เขตเลือกตั้งที่ 6 บางละมุง จ.ชลบุรี ณ. ที่เลือกตั้งศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ รร.โยธิกานุเคราะห์ อ.เมืองฯ จ.ราชบุรี นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา นายปกรณ์ มหรรณพ เดินทางไปใช้สิทธิเลืกตั้งล่วงหน้า ที่บริเวณศาลากลาง จ.นนทบุรี นายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ ร.ร.สุโขทัย เขตดุสิต กทม. นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต.ได้เดินทางไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือก ตั้งล่วงหน้า ที่ลานจอดรถ สำนักงานเขตราชเทวี พร้อมกับตรวจเยี่ยมการใช้สิทธิ ซึ่งเขตราชเทวี มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตนี้ 33,957 คน

** "ป๋าเปรม"นั่งวีลแชร์ไปใช้สิทธิ

ที่โรงเรียนสุโขทัย ถนนสุโขทัย กทม. พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่ง พล.อ.เปรม มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งที่ 1 เขตดุสิต ชุดที่ 4 ลำดับที่ 3041

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากทยอยมาใช้สิทธิฯ ในส่วนกำลังพลของกองทัพ ต่างเดินทางมาด้วยชุดไปรเวท ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าด้วยเช่นกัน เนื่องจากติดภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อยในวันเลือกตั้งจริง วันที่ 24 มี.ค. รวมทั้งขณะนี้มีการฝึกประจำปีของหน่วยต่างๆของกองทัพ

ทั้งนี้พล.อ.เปรม ได้เดินทางมาถึงที่หน่วยเลือกตั้งเวลา 09.20 น. โดยมีนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต.มารอต้อนรับ โดยพล.อ.เปรม ได้นั่งรถวีลแชร์ และใส่สายออกซิเจน เพื่อช่วยหายใจด้วย

จากนั้น พล.อ.เปรม ใช้เวลาในการลงคะแนนเลือกตั้งประมาณ 10 นาที หลังหย่อนบัตรแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรบ้างกับการเลือกตั้งในรอบ 8 ปี พล.อ.เปรม ไม่ได้ตอบคำถามโดยส่ายหน้าพร้อมกับโบกมือ เมื่อถามว่าจะเป็นกำลังใจให้รัฐบาลอย่างไร พล.อ.เปรม ก็ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เพียงยิ้ม ทั้งนี้เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรการเลือกตั้งครั้งนี้ พล.อ.เปรม ตอบเพียงสั้นๆว่า "ก็ดี" เมื่อถามว่าสุขภาพเป็นอย่างไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า ก็ โอเคดี

ขณะที่คนใกล้ชิด พล.อ.เปรม เปิดเผยว่า ปกติแล้วเมื่อ พล.อ.เปรม อยู่บ้านพัก ก็ไม่ได้ใช้เครื่องออกซิเจน แต่ที่ใช้วันนี้ เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งมีคนจำนวนมาก และมีอากาศค่อนข้างอบอ้าวจึงต้องใส่สายออกซิเจน เพื่อช่วยการหายใจ

ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ที่ กรมประชาสัมพันธ์ เขตพญาไท ด้วย โดยหลังตรวจสอบสิทธิแล้วก็เข้าแถวใช้สิทธิเลือกตั้งเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ที่หน่วยเลือกตั้ง เขตสายไหม กทม. โดยหลังจากใช้สิทธิแล้ว ได้เดินตรวจความเรียบร้อยของผู้มาใช้สิทธิใน เขตสายไหม จำนวน 15,299 ราย โดยมี นายยอดขวัญ จุณณปิยะ ผอ.เขตสายไหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล รรท.รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ ผกก.สน.สายไหม ร่วมเดินตรวจความเรียบร้อย ซึ่งสถานการณ์ในภาพรวม เป็นปกติ เรียบร้อยดี แม้มีประชาชนมาใช้สิทธิ์ล่วงหน้าค่อนข้างเยอะพอสมควร

** ทหารตบเท้าไปใช้สิทธิเลือกตั้งคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้า ในภาคเหนือ คึกคักทุกจังหวัด โดยที่จ.เชียงใหม่ บริเวณศูนย์การประชุมและแสดง สินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อ.เมืองเชียงใหม่ หน่วยเลือกตั้งกลางสำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง เขต 1 จ.เชียงใหม่ มีประชาชนที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า มารอใช้สิทธิ์กันเนืองแน่นตั้งแต่เช้า ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่า 90% ของผู้ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 85,653 คน หน่วยเลือกตั้งกลางเขต 1 ลงทะเบียนใช้สิทธิ์มากที่สุด 47,147 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนทำงานและนักศึกษาที่เป็นการใช้สิทธิ์ครั้งแรก ทำให้มีความตื่นตัวกันมาก

ส่วนที่ จ.เชียงราย ซึ่ง กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าทั้ง 7 เขต เฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 ได้จัดสถานที่เลือกตั้ง ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ศูนย์ราชการฝิ่งหมิ่น ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย พบว่ามีผู้คนเดินทางไปใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมากตั้งแต่ก่อนเปิดหีบ และเนื่องจากเขต อ.เมืองฯ เป็นที่ตั้งของหน่วยทหารหลายหน่วย ทำให้มีทหารเกณฑ์จำนวนมาก เดินทางไปใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคัก ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางไปตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งของ จ.เชียงราย 26,576 คน

ที่ จ.ลำปาง ก็มีผู้มารอใช้สิทธิ์ก่อนเวลาเปิดหีบบัตรเลือกตั้งทุกหน่วย โดยที่หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ซึ่งมีประชาชนลงทะเบียนไว้มากที่สุดกว่า 6,000 คน มีประชาชนมายืนรอคิวใช้สิทธิ์ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคอยประกาศสำหรับประชาชน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้เข้าพักคอยในที่ร่มและหากมีอาการไม่ดีก็ให้มาพบแพทย์ซึ่งมีการตั้งจุดบริการอยู่ โดย จ.ลำปาง มีประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งไว้ทั้งสิ้น 11,294 คน

เช่นเดียวกับจังหวัดในภูมิภาคอื่นๆ การเลือกตั้งล่วงหน้าก็เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนมาเข้าแถวเพื่อรอการเลือกตั้งเป็นจำนวนมากแทบทุกจังหวัด

**สื่อนอกตีข่าวคนไทยแห่เข้าคิวเลือกตั้ง

สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า กลายเป็นความคึกคัก และตื่นตัวของการเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่มีการทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2014 พบประชาชนชาวไทย ต่างเดินทางไปยังคูหาการเลือกตั้งในเช้าวันอาทิตย์(17มี.ค.) เพื่อใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าอย่างคึกคัก เชื่อว่าจะมีผู้มีสิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 2.3 ล้านคน เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนวันเลือกตั้งจริงที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์หน้านี้ (24 มี.ค.)

ทั้งนี้ ภาพคนไทยต่อแถวยาวเข้าคิว เพื่อรอลงคะแนน กลายเป็นสิ่งที่เรียกความฮือฮาได้จากบรรดาสื่อต่างชาติ เป็นต้นว่า รอยเตอร์ รายงานถึงการเข้าแถวยาวของผู้มีสิทธิ์ภายในสนามกีฬาแห่งหนึ่งที่ กรุงเทพฯ รวมไปถึงช็อตที่บรรดาผู้มีสิทธิ์ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครบริเวณบอร์ดด้านหน้าคูหาลงคะแนนเพื่อการตัดสินใจครั้งสุดท้าย

สื่อไทยและสื่อนอก ยังประสานเสียงรายงานถึง "ป๋าเปรม" ประธานองค์มนตรี และรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เดินทางมาหย่อนบัตร ที่โรงเรียนสุโขทัย เขตดุสิต ด้วยตนเอง โดยพล.อ.เปรมเดินทางมาในขณะอยู่บนรถวีลแชร์สีครีม พร้อมกับสายออกซิเจน ซึ่งผู้ใกล้ชิดเผยว่า จำเป็นต้องใส่สายออกซิเจน เป็นเพราะมีคนมาก

ขณะที่เขตดุสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งเขตทหาร และสำนักงานภาครัฐจำนวนมาก พบว่าบรรดาผู้มีสิทธิ์ต่างต่อแถวรอหน้าคูหาก่อนที่จะเปิดทำการเสียอีก โดยบรรดาผู้มีสิทธิ์ที่สวมทั้งเครื่องแบบทหาร พยาบาล และในชุดลำลอง ต่างเฝ้ารออย่างอดทน เพื่อที่จะได้มีโอกาสหย่อนบัตรเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปี

เอเอฟพีชี้ว่า บรรดานักวิเคราะห์ ต่างกล่าวว่า การเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ถูกจัดภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับทหาร ปี 2017 และระบบการเลือกตั้งใหม่นั้น เอื้อพรรคการเมือง ที่สนับสนุนกองทัพซึ่งมีผู้นำพรรคคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐ ชนะการเลือกตั้ง ก็เท่ากับว่า "บิ๊กตู่" จะกลับเข้ามาบริหารอีกครั้ง

แมท วีลเลอร์ (Matt Wheeler)นักวิเคราะห์อาวุโส ด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำกลุ่มวิกฤตระหว่างประเทศ (the International Crisis Group) ได้แสดงความเห็นต่อสื่้อเอบีซีนิวส์ ของออสเตรเลีย ว่า การเลือกตั้งเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งบทในมหากาพย์วิกฤติทางการเมืองของไทย มากกว่าบทสุดท้ายที่แสดงให้เห็นถึงตอนจบ

"การเลือกตั้งจะไม่แก้ปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน ที่ไทยได้เผชิญ ... ไม่มีการแสดงประชามติทั้งสังคมอย่างแท้จริง เกี่ยวข้องกับพื้นฐานความชอบธรรมทางการเมือง" วีลเลอร์ กล่าว

ทั้งนี้เอเอฟพี รายงานทิ้งท้าย โดยชี้ว่า ในการเลือกตั้งวันอาทิตย์ ยังคงมีการตั้งความหวังถึงการเปลี่ยนแปลง โดยมาร์ต บูพา( Mart Bupa)วัย 53 ปีได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี ว่า "มาโหวตในวันนี้ ด้วยความหวังถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น"

**กกต.สรุปใช้สิทธิ์ล่วงหน้าทั่วประเทศ75%

นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังการปิดลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ว่า พอใจในภาพรวม โดยขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่ช่วยจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อดทน รอคอย ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้จะต้องเสียเวลารอนานโดยเฉพาะในช่วงเช้า ทั้งนี้ ในทุกหน่วยลงคะแนนสามารถปิดการลงคะแนนได้ครบทุกหน่วยแล้ว ไม่มีตกค้าง เช่น บางกะปิ ปิดการลงคะแนนเวลา 17.10 น. เกินเวลาไปเพียง 10 นาที ไม่ ได้ถึงเที่ยงคืน ตามที่ กกต.เคยคาดการณ์ไว้

สำหรับปัญหาการแจกบัตรเลือกตั้งผิด กรณีที่ผู้ใช้สิทธิรู้ตัว ก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เปลี่ยนบัตรโดยทันที โดยบัตรใบนั้น จะถูกเจาะทำลาย แต่หากเป็นบัตร ที่ถูกกากบาท และใส่ซอง หย่อนลงหีบแล้ว จะถือเป็นบัตรที่ถูกต้องทุกอย่าง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขนย้ายหีบบัตรมายังจุดคัดแยก โดยไปรษณีย์และตำรวจได้ไปรอที่หน่วยเลือกตั้งกลาง ทุกแห่ง ซึ่งเที่ยวแรกที่จะมาส่งยังสำนักงานไปรษณีย์ หลักสี่ ในเวลาไม่เกิน 19.00 น. และจะเริ่มการคัดแยกทันที และให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชม. ก่อนจะบรรจุส่งไปยังเขตเลือกตั้ง 350 เขต และเก็บไว้ในห้องขังของสถานีตำรวจ

ส่วนผู้ที่กังวลว่า อาจจะมีการสลับสับเปลี่ยนบัตรลงคะแนน ก็สามารถไปร่วมสังเกตการณ์ การจัดเก็บบัตรเลือกตั้งได้ตลอดเวลา และบัตรจะนำออกมา นับ ในวันที่ 24 มี.ค. หลังปิดการลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว ถ้าหากพบว่าบัตรที่ส่งมา เป็นการส่งผิดเขต กรรมการนับคะแนน จะขานให้เป็นบัตรเสีย ส่วนบัตรนอกราชอาณาจักร ได้มีการคัดแยกเกือบเสร็จทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่มีความกังวลว่า อาจจะมีการเปลี่ยนหีบบัตรลงคะแนนระหว่างการจัดส่งไปยัง 350 เขต ยืนยันว่าตั้งแต่ต้นทาง จนถึงปลายทาง มีพยานเยอะมาก ใครที่คิดจะเปลี่ยนแปลง ขอให้คิดให้มากๆ เพราะมีคุกรออยู่

นายณัฎฐ์ กล่าวว่า การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ เฉลี่ยทั่วประเทศ น่าจะไม่น้อยกว่า ร้อยละ 75 ซึ่งเฉพาะหน่วยเลือกตั้งกลาง ที่เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นหน่วยที่มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิมากที่สุด โดยเฉลี่ยมากถึงร้อยละ 82 แต่ทั้งนี้ต้องรอการรายงานผลการใช้สิทธิเข้ามาเป็นทางการ จึงสามารถสรุปยอดผู้มาใช้สิทธิยอดได้อย่างชัดเจนในวันที่ 18 มี.ค.

"ในแง่ของคนบริหารจัดการการลงคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้ ถือว่าน่าพอใจกับการตื่นตัวของประชาชน ที่ออกมาใช้สิทธิ์ กกต. และผู้บริหารสำนักงานฯ ได้กระจายลงไปติดตามการใช้สิทธิในพื้นที่ต่างๆ และรายงานปัญหากลับเข้ามาเพื่อร่วมกันแก้ไข ซึ่งเป็นไปด้วยเรียบร้อยมีเพียงเขตเลือกตั้งในจังหวัดอุทัยธานีที่พบว่ามีการนำบัตรประชาชนของบุคคลอื่นไปแสดงตนการใช้สิทธิ์ เนื่องจากมีใบหน้าที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบและควบคุมตัวไปลงบันทึกประจำวัน” นายณัฎฐ์ กล่าว และว่า อยากฝากถึงผู้มีสิทธิที่จะไปใช้สิทธิในวันที่ 24 มี.ค. ว่า การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต มีสถิติผู้ใช้สิทธิเกือบถึงร้อยละ 80 ดังนั้น วัน เลือกตั้ง จึงอย่าให้น้อยหน้า เพราะหนึ่งเสียงของประชาชน กำลังจะนำประเทศก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทุกคนต้องการ