xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่" มองข้ามช็อตจัดสูตรครม. เปิดทางทีมใหม่นักการเมือง!!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**"ผมพยายามบอกว่า ถ้าอยากทำ ต้องทำให้สำเร็จ ทีมที่จะมาทำงานก็ต้องคัดสรรหา ไม่ใช่เอาทีมเดิมทั้งหมดได้ที่ไหน ต้องคัดสรรมาใหม่ ต้องมาจากการเมือง ก็ต้องว่ากันมา แต่ผมก็ต้องเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจตามหน้าที่ ในการขับเคลื่อนของผม นายกฯต้องมีแรงในการขับเคลื่อน และทำทุกอย่างให้อยู่ในกรอบให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลายอย่างมีกฎหมายอยู่แล้ว เราก็ทำตามแค่นี้ ในส่วนอื่นๆ ก็เป็นเรื่องของการเมืองเขาก็ว่ากันไป ถ้าสมมุติผมอยู่ ก็ต้องดูแลตรงนี้ให้ได้ แต่ไม่อยากให้มองใหม่ๆ อย่างเดียว อาจต้องมองเก่าผสมใหม่บ้าง เพราะผมต้องการให้คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ไปด้วยกัน ต้องมีตัวประสานงาน กลไก ตรงนี้หรือเปล่า"
คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ตอบคำถามย้ำถึงคำพูดที่บอกว่า หากมีโอกาสได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง
ขณะเดียวกันเขาแสดงท่าทีไม่สนใจกับคำพูดและความเคลื่อนไหวของบางพรรคการเมืองให้เลือกจุดยืน ระหว่างเผด็จการ กับประชาธิปไตย โดยกล่าวว่าเป็นเรื่องธรรมดา ปล่อยเขาไปเถอะ
และเมื่อถามย้ำว่า รู้สึกอย่างไรที่นักการเมืองใช้ยุทธศาสตร์หาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ... นายกฯกล่าวว่า "ผมไม่สนใจ"
คำพูดของ "บิ๊กตู่"หรือ"ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนกับว่าเขาได้วางแผนเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว หากได้รับการสนับสนุนให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นว่า เขามีความ "นิ่ง" ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นเสียงโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม หรือแม้กระทั่งล่าสุด มีการประกาศท่าทีออกมาจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะไม่สนับสนุน โดยระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นฝ่ายสืบทอดอำนาจ เป็นลักษณะที่มีเจตนาแยกฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายเผด็จการ
แม้ว่าสังคมจะพอมองออกว่าการประกาศดังกล่าวของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง มีเป้าหมายเพื่อต้องการคะแนนเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ส่วนจะได้ผลแค่ไหน อีกไม่นานก็วัดผลกันแล้ว
**สำหรับ "ลุงตู่"แล้ว เมื่อพิจารณาจากคำพูดดังกล่าวมันก็เหมือนกับว่าเขา "กำทีเด็ด" เอาไว้ในมือ รวมไปถึงไม่ได้มีท่าทีสนใจกับคำพูดโจมตีของพวกนักการเมืองและพรรคการเมืองที่ประกาศไม่ให้การสนับสนุน โดยบอกว่า "ไม่สนใจ" และปล่อยเขาไป หากแต่น่าสนใจตรงที่มีการเปิดเผยเรื่องแนวทางในการ "ฟอร์มคณะรัฐมนตรีล่วงหน้า" ที่จะออกมาในลักษณะ "ทีมเก่าผสมกับทีมใหม่"
โดยลักษณะของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะเป็นแบบผสมผสานกันระหว่างคนรุ่นเก่า รุ่นกลาง และคนรุ่นใหม่ ตามที่เขาได้แย้มเอาไว้ หากได้กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้เน้นย้ำในเรื่อง "มืออาชีพจากนักการเมือง" แต่ขณะเดียวกันได้ยืนยันหลักการใหญ่เอาไว้ก็คือ นายกฯต้องมีอำนาจในการบริหารจัดการ โดยใช้คำว่า "ต้องมีแรงในการขับเคลื่อน" ความหมายน่าจะออกมาในแนวที่น่าจะเป็นกระทรวงฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการคลัง อะไรประเภทนี้ ที่นายกฯ ต้องยึดกุมเอาไว้ ขณะที่ฝ่ายเศรษฐกิจ ก็น่าจะเป็นฝ่ายการเมืองว่ากันไปตามถนัด
นั่นคงเป็นแนวทางคร่าวๆ สำหรับรูปแบบของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของ "ลุงตู่" หากได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ และพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอชื่อเขาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ชนะการเลือกตั้งหรือสามารถรวบรวมข้างมากได้
อย่างไรก็ดี ในช่วงโค้งสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีคิวเดินสายตรวจราชการ คิวหาเสียงเรียกว่า เน้นในพื้นที่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์เช่นเดียวกัน เริ่มจากวันนี้ (13 มีนาคม) เดินทางไปตรวจราชการตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ของสนามบินขอนแก่น จากนั้นจะไปเปิดสถานีรถไฟลอยฟ้าที่ขอนแก่น และทดลองนั่งรถไฟระบบทางคู่ ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จอีกด้วย และมีความเป็นไปได้ที่เดินทางต่อมาที่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือว่าเป็น "บ้านเกิด" ของเขาอีกด้วย
จากนั้นในวันที่ 19 มีนาคม มีกำหนดเดินทางลงใต้ไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ที่เชื่อมต่อจาก จังหวัดชุมพร มาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และวันที่ 20 มีนาคม ก็มีคิวไปตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีรถไฟบางซื่อ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์การคมนาคมขนส่งทางรางแห่งอนาคต
**แม้ว่ากำหนดการดังกล่าวจะถูกมองว่านี่คือการหาเสียงพ่วงไปด้วย ก็แล้วแต่จะมองกัน แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจต้องการสื่อให้เห็นว่า หลายโครงการใหญ่ที่เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาได้เป็นรูปเป็นร่าง และต้องการสานต่อให้สำเร็จ และที่สำคัญต้องการส่งสัญญาณให้เห็นว่าต้องเป็นเขาเท่านั้นที่ทำได้ และทำจริงหรือเปล่า !!
กำลังโหลดความคิดเห็น