วานนี้ (28ก.พ.) พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง ผลสำรวจของ "ซูเปอร์โพล" เรื่องกระแสความนิยม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ได้คะแนนความนิยมเพิ่มสูงขึ้น โดยการสำรวจครั้งแรก อยู่ที่ 31.9% แต่ผลสำรวจล่าสุด เมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 53.5% หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 21.6% ซึ่งเป็นอัตราส่วนการเพิ่มมากที่สุด และมากกว่าแคนดิเดตนายกฯ คนอื่นๆนั้น เราต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่เห็นการทำงานหนักของพรรคฯ จนทำให้มีความนิยมเพิ่มมาขึ้น โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดผลเช่นนี้ ก็เพราะแนวนโยบายของพรรคฯ ที่มุ่งแก้ปัญหาปากท้อง ซึ่งเป็นที่นิยม ถูกใจประชาชน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการทำแกร็บคาร์ ให้ถูกกฎหมาย ปลูกกัญชาเสรี แก้หนี้ กยศ. เรียนออนไลน์ฟรีตลอดชีวิต ทวงคืนกำไรให้ชาวนา ชาวสวนปาล์ม แก้ปัญหาประมง เป็นต้น
นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมานายอนุทิน ได้ทำงานอย่างหนัก เดินสายลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนแบบไม่มีวันหยุดหลายสัปดาห์ติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการเสนอตัวเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยการลงพื้นที่นอกจากจะแนะนำผู้สมัครแล้ว สิ่งสำคัญคือ การนำนโยบายของพรรคไปบอก ไปอธิบายต่อประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในนโยบายของพรรคฯ จนทำให้พรรคฯ มีคะแนนนิยมดีขึ้น
อย่างไรก็ตามหัวหน้าพรรค ก็ได้ฝากเตือนผู้สมัครทุกคนว่า อย่าประมาท อย่าหลงกับกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น จนหยุดทำงาน หยุดลงพื้นที่ เพราะเรามีหน้าที่ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ทุกคนต้องช่วยกันทำให้สำเร็จ คือ การเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อนำพาบ้านเมืองให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง และเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน ดังนั้นต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง
"ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยเรายึดมั่นมาโดยตลอด ในการทำงานการเมืองโดยเน้นการนำเสนอนโยบาย ตามหลักการลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน โดยไม่ไปโจมตีตอบโต้ทางการเมือง ทำให้เป็นพัฒนาการที่ดีของกระแสความนิยม ผมจึงอยากเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง มุ่งเน้นการนำเสนอนโยบายพรรคเช่นกัน จะเป็นการทำการเมืองที่สร้างสรรค์ แล้วผลประโยชน์สุดท้ายจะตกอยู่ที่ประชาชนคนไทย" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมานายอนุทิน ได้ทำงานอย่างหนัก เดินสายลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนแบบไม่มีวันหยุดหลายสัปดาห์ติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการเสนอตัวเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยการลงพื้นที่นอกจากจะแนะนำผู้สมัครแล้ว สิ่งสำคัญคือ การนำนโยบายของพรรคไปบอก ไปอธิบายต่อประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในนโยบายของพรรคฯ จนทำให้พรรคฯ มีคะแนนนิยมดีขึ้น
อย่างไรก็ตามหัวหน้าพรรค ก็ได้ฝากเตือนผู้สมัครทุกคนว่า อย่าประมาท อย่าหลงกับกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น จนหยุดทำงาน หยุดลงพื้นที่ เพราะเรามีหน้าที่ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ทุกคนต้องช่วยกันทำให้สำเร็จ คือ การเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อนำพาบ้านเมืองให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง และเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน ดังนั้นต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง
"ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยเรายึดมั่นมาโดยตลอด ในการทำงานการเมืองโดยเน้นการนำเสนอนโยบาย ตามหลักการลดอำนาจรัฐ เพื่อปากท้องประชาชน โดยไม่ไปโจมตีตอบโต้ทางการเมือง ทำให้เป็นพัฒนาการที่ดีของกระแสความนิยม ผมจึงอยากเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง มุ่งเน้นการนำเสนอนโยบายพรรคเช่นกัน จะเป็นการทำการเมืองที่สร้างสรรค์ แล้วผลประโยชน์สุดท้ายจะตกอยู่ที่ประชาชนคนไทย" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว