xs
xsm
sm
md
lg

ยุบ-ไม่ยุบไทยรักษาชาติ ค่าเท่ากันตายก่อนเลือกตั้ง!!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**นาทีนี้รับรู้กันทั่วแล้วว่าคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันพฤหัสบดี ที่ 7 มีนาคม เวลา 11.30 น. และนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันเดียวกันในเวลา 15.00 น.
สรุปก็คือตั้งเวลา 15 .00น. เป็นต้นไปก็จะรู้แล้วว่า ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร จะยุบหรือไม่ยุบ พรรคไทยรักษาชาติ และตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคคนละ 10 ปี หรือไม่
พิจารณากันจากแบ็กกราวด์เพื่อทบทวนความจำและที่มาที่ไปของคดีนี้กันก่อนว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ด้วยข้อหาหลักๆ ก็คือมีพฤตกรรมอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอ้างอิงพระราชโองการ ที่ระบุถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่บังควร และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคดังกล่าว และศาลฯ มีมติรับคำร้องตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 (3) ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 โดยได้แจ้งให้ผู้ถูกร้องได้ทราบและให้ผู้ถูกร้องทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติ ได้ส่งคำชี้แจงแล้ว เมื่อวันที่ 20 ก.พ.
ดังนั้น นาทีนี้ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ นอกจากต้องรอเพียงอย่างเดียวว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจัยในวันที่ 7 มีนาคม ว่าจะออกมาแบบไหน
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องหวาดหวั่นสั่นผวาก็คือ คำอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า "คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้จึงไม่ทำการไต่สวนตามพ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง"
**ผลจากคำอภิปรายดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า "มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัย จึงไม่ทำการไต่สวน" นี่แหละที่ต้องบอกว่า น่าหวาดเสียว
เพราะแม้ว่าทางพรรคไทยรักษาชาติ จะพยายามดิ้นรน ยื้อเวลากันสุดชีวิต โดยพยายามยื่นให้ไต่สวนพยานจำนวนถึงกว่า 19 ปาก ซึ่งอย่างน้อยตามรูปการณ์ที่พอมองเห็นก็คือ ต้องการให้ใช้เวลาลากยาวไปหลังเลือกตั้งไปแล้ว แต่ผลออกมาตามที่ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่า "มีหลักฐานชัดเจนไม่ต้องมีการไต่สวน" และนำไปสู่การนัดพิจารณาวินิจฉัย ในวันที่ 7 มีนาคมนี้
**แม้ว่ายังไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาแบบไหน ยุบหรือไม่ยุบ พรรคไทยรักษาชาติ เพราะไม่อาจก้าวล่วงได้เลย แต่นาทีนี้สำหรับพรรคไทยรักษาชาติ เหมือนกับ "ตายทั้งเป็น" เพราะจะขยับเดินหน้าหรือถอยหลัง ก็ไม่ได้แล้ว ได้แต่รอรับชะตากรรมเพียงอย่างเดียว เท่านั้น
สิ่งที่คนในพรรคไทยรักษาชาติหวั่นวิตกกันอย่างยิ่งในตอนนี้ก็คือ หากผลคำวินิจฉัยในวันที่ 7 มีนาคม ออกมาเป็นลบแล้ว นอกเหนือจากคณะกรรมการบริหารจำนวน 14 คน ที่นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ที่จะต้องโดนหนักกว่าใครแล้ว พวกบรรดาผู้สมัคร ส.ส.เขต จำนวน 150 เขต และบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ อีกชุดใหญ่ ที่ส่อเค้าว่าจะหมดสิทธิ์ได้เป็นส.ส. "จบเกม" กันตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น
ดังนั้น เวลานี้หากพิจารณาจากสภาพบรรยากาศภายในพรรคไทยรักษาชาติ ทุกอย่างคงเงียบงัน แต่ละคนคงไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรแล้ว การหาเสียงที่ก่อนหน้านี้เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก็คงต้องหยุดลงกันอีกรอบ อย่างน้อยก็ต้องรอหลังวันที่ 7 มีนาคม ไปแล้วว่า ยุบหรือไม่ยุบ แต่เมื่อพิจารณาเหตุผลจากคำแถลงของศาลรัฐธรรมนูญ ที่บอกว่า "คดีมีหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้แล้ว จึงไม่ไต่สวนฯ" แค่นี้ถึงได้บอกว่ามัน "หนาว" ยิ่งนัก
ผลกระทบที่ตามมา ถือว่าจะเหนือความคาดหมาย จากเดิมที่มีถูกมองว่าการ "หลีกทาง" ให้กัน หรือว่า "ฮั้วกัน" ตามแผนยุทธศาสตร์ "แตกแบงก์พัน" นั่นคือ พรรคเพื่อไทยส่ง ส.ส.เขต 250 เขต ขณะที่ไทยรักษาชาติส่ง 150 เขต เพื่อนำทุกคะแนนไปรวมเป็นจำนวนส.ส.หลังการเลือกตั้ง แต่เมื่อเกิดการยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ และศาลรัฐธรรมนูญ กำลังจะวินิจฉัยในวันที่ 7 มีนาคม โดยไม่ต้องไต่สวน เนื่องจากมีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ก็ยังทำให้ "แผนยื้อ" ที่อย่างน้อยคาดหวังว่าจะมีการวินิจฉัยหลังการเลือกตั้ง ยังพังทลายลงไปอีก
แน่นอนว่า เมื่อมาถึงตรงนี้ หากความคิด หรือยุทธศาสตร์ "แตกแบงก์พัน" มีส่วนเกี่ยวข้องกับ"ทักษิณ ชินวัตร" จริง ตามที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้ ก็ต้องถือว่าเขาพลาด และพ่ายแพ้อีกรอบ และครั้งนี้ถือว่าน่าจะ "อาการหนัก" กว่าทุกครั้ง เพราะแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม และ "แพ้ทั้งกระดาน" โอกาสที่จะกลับมาไม่ว่าจะในรูปแบบไหนถือว่า"จบสิ้นกัน"แล้ว
**แม้ว่าคำวินิจฉัยยังต้องรอวันที่ 7 มีนาคม แต่ตอนนี้ถือว่าทุกคนในพรรคไทยรักษาชาติ "ตายทั้งเป็น" แล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น