**ในที่สุดก็โผล่หน้าออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนสำหรับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีของ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร เพราะล่าสุดได้เห็นข่าว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ สมชาย ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียง ก็ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อย กับการปรากฏตัวครั้งแรกของเขา
เพราะก่อนหน้านี้หลังจากมีกระแสข่าวย้ายพรรคของ"ลูกชาย" บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความผิดเกี่ยวกับคดีซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีเก๊ ถูกจำคุกกว่า 40 ปี และถูกระบุว่าเคยมีความใกล้ชิดกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของเขา และตัวเขาในสังกัด "กลุ่มวังบัวบาน"ในพรรคเพื่อไทยด้วยกันมาก่อน
การย้ายพรรคของลูกชายนายบุญทรง มาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับคำให้สัมภาษณ์แบบเปิดอกในทำนองน้อยอกน้อยใจ ในแบบที่ว่าถูกระแวง หรือถูก"หักหลัง" อะไรประมาณนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ทั้งสมชายและเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็หายหน้าไปจากสังคมตั้งแต่บัดนั้น โดยเฉพาะ เยาวภา ตามรายงานบางกระแสอ้างว่าได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ และเจ้าตัวก็ไม่เคยออกมาปฏิเสธ หรือมีความเคลื่อนไหวออกมา มีแต่เพียงการส่งทนายความมาฟ้องสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่ง ในข้อหาหมิ่นประมาท เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จากการที่ระบุว่ามีการโพสต์ข้อความกล่าวหาเธอเท่านั้น
จากนั้นพวกเขาก็เงียบหายไม่ปรากฏเป็นข่าวใดๆ ออกมาให้เห็นเลย แม้กระทั่งพรรคการเมืองในชื่อ"พรรคเพื่อธรรม" ที่เคยถูกมองว่าจะเกิดขึ้นมาตามแผนยุทธศาสตร์ "แตกแบงก์พัน" จนกระทั่งเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องการรื้อคดีทุจริตจีทูจี ล็อตสอง พรรคนี้ก็ลดบทบาทแบบเงียบสนิท และถัดมาก็มีพรรคไทยรักษาชาติ เกิดใหม่ขึ้นมาแทน
** แน่นอนว่านาทีนี้ สิ่งที่เห็นตัวตนก็คือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นสามีเท่านั้น ขณะที่ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ยังไม่ปรากฏตัว
การปรากฏตัวของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานแกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นสามี "เจ๊แดง"เป็น"น้องเขย" ของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องถือว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน มีความสัมพันธ์ในระดับวงใน และการช่วยลูกพรรคหาเสียง ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก แต่ที่ผ่านมาการลงพื้นที่ในระดับแบบนี้จะไม่เคยเห็น
น่าสังเกตก็คือ ก่อนหน้านี้ก็มี "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายคนโตของ ทักษิณ ชินวัตร ควงคู่กันมาลุยหาเสียงในพื้นที่จังหวัดหนองคาย และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่จังหวัดอุดรธานี และเรื่อยมาจนถึงจังหวัดเลย เรียกว่าเป็นการขนทัพใหญ่ลงมาลุยกันเลยทีเดียว
ในทางการเมืองถือว่าการเคลื่อนไหวแบบนี้ถือว่าน่าสนใจสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะถือว่าที่ผ่านมาสำหรับการเลือกตั้งทุกครั้งในพื้นที่ภาคอีสานถือว่าเป็นฐานเสียงสำคัญ มีจำนวนส.ส.มากที่สุดอีกด้วย แต่ที่ผ่านมาเมื่อมีการถือกำเนิดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐที่มีความเพียบพร้อมทั้งขุมกำลังและกระสุนดินดำ และที่น่าสนใจก็คือสามารถดึงเอาอดีต ส.ส.และแกนนำมวลชนเสื่อแดงย้ายไปสังกัดได้จำนวนมาก หลายคนเป็นระดับเกรดเอ เกรดบีเสียด้วย
ประกอบกับเวลานี้พรรคไทยรักษาชาติ ที่ถือว่าเป็น "พรรคลูก" กำลังลุ้นลูกผีลูกคนเสี่ยงต่อการถูกยุบพรรค ต้องลุ้นกันแบบหายใจไม่ทั่วท้องในเวลานี้ มันก็ยิ่งปั่นป่วนรวนกันไปหมด ดังนั้นนาทีนี้สำหรับพรรคเพื่อไทยก็ต้องระดมสรรพกำลังเพื่อรักษาพื้นที่ในภาคอีสานเอาไว้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจอ"ข่าวร้ายจากพรรคไทยรักษาชาติ" เข้ามาในอนาคต
**ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากความจำเป็นทางการเมืองในลักษณะนี้ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ถูกระดมลงไปในพื้นที่ภาคอีสานเป็นหลัก เพราะนี่คือจุดชี้ขาดว่าจะสามารถกลับมาได้หรือไม่ และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ได้เห็นทั้ง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เห็นทั้ง "โอ๊ค"พานทองแท้ ชินวัตร ถูกดันก้นกันออกมา อย่างน้อยก็ต้องตรึงรักษาพื้นที่เดิมเอาไว้ให้ได้ !!
เพราะก่อนหน้านี้หลังจากมีกระแสข่าวย้ายพรรคของ"ลูกชาย" บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความผิดเกี่ยวกับคดีซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีเก๊ ถูกจำคุกกว่า 40 ปี และถูกระบุว่าเคยมีความใกล้ชิดกับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของเขา และตัวเขาในสังกัด "กลุ่มวังบัวบาน"ในพรรคเพื่อไทยด้วยกันมาก่อน
การย้ายพรรคของลูกชายนายบุญทรง มาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับคำให้สัมภาษณ์แบบเปิดอกในทำนองน้อยอกน้อยใจ ในแบบที่ว่าถูกระแวง หรือถูก"หักหลัง" อะไรประมาณนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ทั้งสมชายและเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก็หายหน้าไปจากสังคมตั้งแต่บัดนั้น โดยเฉพาะ เยาวภา ตามรายงานบางกระแสอ้างว่าได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ และเจ้าตัวก็ไม่เคยออกมาปฏิเสธ หรือมีความเคลื่อนไหวออกมา มีแต่เพียงการส่งทนายความมาฟ้องสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่ง ในข้อหาหมิ่นประมาท เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จากการที่ระบุว่ามีการโพสต์ข้อความกล่าวหาเธอเท่านั้น
จากนั้นพวกเขาก็เงียบหายไม่ปรากฏเป็นข่าวใดๆ ออกมาให้เห็นเลย แม้กระทั่งพรรคการเมืองในชื่อ"พรรคเพื่อธรรม" ที่เคยถูกมองว่าจะเกิดขึ้นมาตามแผนยุทธศาสตร์ "แตกแบงก์พัน" จนกระทั่งเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องการรื้อคดีทุจริตจีทูจี ล็อตสอง พรรคนี้ก็ลดบทบาทแบบเงียบสนิท และถัดมาก็มีพรรคไทยรักษาชาติ เกิดใหม่ขึ้นมาแทน
** แน่นอนว่านาทีนี้ สิ่งที่เห็นตัวตนก็คือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นสามีเท่านั้น ขณะที่ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ยังไม่ปรากฏตัว
การปรากฏตัวของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานแกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นสามี "เจ๊แดง"เป็น"น้องเขย" ของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องถือว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน มีความสัมพันธ์ในระดับวงใน และการช่วยลูกพรรคหาเสียง ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก แต่ที่ผ่านมาการลงพื้นที่ในระดับแบบนี้จะไม่เคยเห็น
น่าสังเกตก็คือ ก่อนหน้านี้ก็มี "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายคนโตของ ทักษิณ ชินวัตร ควงคู่กันมาลุยหาเสียงในพื้นที่จังหวัดหนองคาย และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่จังหวัดอุดรธานี และเรื่อยมาจนถึงจังหวัดเลย เรียกว่าเป็นการขนทัพใหญ่ลงมาลุยกันเลยทีเดียว
ในทางการเมืองถือว่าการเคลื่อนไหวแบบนี้ถือว่าน่าสนใจสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะถือว่าที่ผ่านมาสำหรับการเลือกตั้งทุกครั้งในพื้นที่ภาคอีสานถือว่าเป็นฐานเสียงสำคัญ มีจำนวนส.ส.มากที่สุดอีกด้วย แต่ที่ผ่านมาเมื่อมีการถือกำเนิดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐที่มีความเพียบพร้อมทั้งขุมกำลังและกระสุนดินดำ และที่น่าสนใจก็คือสามารถดึงเอาอดีต ส.ส.และแกนนำมวลชนเสื่อแดงย้ายไปสังกัดได้จำนวนมาก หลายคนเป็นระดับเกรดเอ เกรดบีเสียด้วย
ประกอบกับเวลานี้พรรคไทยรักษาชาติ ที่ถือว่าเป็น "พรรคลูก" กำลังลุ้นลูกผีลูกคนเสี่ยงต่อการถูกยุบพรรค ต้องลุ้นกันแบบหายใจไม่ทั่วท้องในเวลานี้ มันก็ยิ่งปั่นป่วนรวนกันไปหมด ดังนั้นนาทีนี้สำหรับพรรคเพื่อไทยก็ต้องระดมสรรพกำลังเพื่อรักษาพื้นที่ในภาคอีสานเอาไว้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจอ"ข่าวร้ายจากพรรคไทยรักษาชาติ" เข้ามาในอนาคต
**ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากความจำเป็นทางการเมืองในลักษณะนี้ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ถูกระดมลงไปในพื้นที่ภาคอีสานเป็นหลัก เพราะนี่คือจุดชี้ขาดว่าจะสามารถกลับมาได้หรือไม่ และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ได้เห็นทั้ง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เห็นทั้ง "โอ๊ค"พานทองแท้ ชินวัตร ถูกดันก้นกันออกมา อย่างน้อยก็ต้องตรึงรักษาพื้นที่เดิมเอาไว้ให้ได้ !!