การปราศรัยหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ดุเดือดเลือดพล่านจนถูกพูดถึงกันมาก โดยเฉพาะการขึ้นเวทีของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคฯ ซึ่งตะโกนก้องเชียร์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สุดตัว
ประโยคที่นายสนธิรัตน์พูดดังลั่นสนั่นปากน้ำคือ ถ้าไม่มีคนชื่อประยุทธ์ ใครไอ้หน้าไหนจะหยุดความขัดแย้ง ใครไอ้หน้าไหนจะทำให้บ้านเมืองสงบ
คำพูดทำนองนี้ ฟังดูคุ้นๆ เหมือนจะได้ยินกรอกหูแทบทุกเวลาและทุกสถานที่ ในยุคนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
และได้ยินจากปากของบรรดาลูกสมุน “ทักษิณ”
ถ้าไม่มีทักษิณ ใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ
วันนี้นายสนธิรัตน์กำลังทำในสิ่งที่บรรดาลูกสมุน “ทักษิณ” เคยทำ
บรรดาลูกสมุน “ทักษิณ” พยายามปลุกระดมมอมเมาให้คนเกิดความรู้สึกว่า “ทักษิณ” เก่งกล้าสามารถดุจดั่งเทพเจ้า แต่สุดท้าย “ทักษิณ” ก็พินาศ กลายเป็นคนไร้แผ่นดิน
ส่วนชะตากรรมของพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างไร อีกไม่นานเกินรอคงมีคำตอบพรรคพลังประชารัฐกำลังโหมสร้างจุดขายพล.อ.ประยุทธ์ โดยรู้ดีว่า ไม่สามารถชูผลงานการบริหารประเทศมาเป็นจุดขายได้ เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา แทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรม จึงต้องชูความขัดแย้งทางการเมืองและอ้างความสงบมาใช้เป็นจุดขาย
ทั้งที่สิ่งที่หยิบยกมาอ้าง เพื่อสร้างภาพให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นอัศวินม้าขาว เป็นเรื่องไม่จริง
ก่อนพล.อ.ประยุทธ์จะยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แม้การเมืองจะวุ่นวาย โดยมีประชาชนทั่วประเทศนับสิบล้านคน ในนามมวลมหาประชาชนกลุ่ม กปปส.ลุกฮือขึ้นมาขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สถานการณ์การเมืองที่วุ่นวายก่อนพล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง และม็อบมวลมหาประชาชน กปปส.ที่ชุมนุม ไม่ใช่กลุ่มคนที่ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย หรือเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร
แต่เป็นประชาชนที่มีสำนึกในความรักชาติ มีความกล้าหาญและเสียสละ มีจิตสำนึกในการปกป้องแผ่นดินเกิด และแม้มีเพียงสองมือเปล่า ไม่มีอาวุธหรือกองกำลังสนับสนุน ไม่มีอำนาจในมือ แต่ทุกคนก็พร้อมใจกันออกมาขับไล่รัฐบาลทรราช
ใครที่พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์การต่อสู้ของภาคประชาชนที่ลุกฮือขึ้นมาขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ อ้างว่าบ้านเมืองวุ่นวายเพราะม็อบขับไล่รัฐบาลทรราชช่วยอธิบายให้ชัดว่า
ประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลในระบอบทักษิณ ขัดแย้งกับใคร ในเรื่องอันใด อย่ามักง่ายหาเสียง “ตีกิน” เอาดีใส่ตัว โยนชั่วให้คนอื่น
ประเทศที่เกิดความวุ่นวาย ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความขัดแย้ง แต่เป็นเพราะประชาชนส่วนใหญ่ทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ นำพาประเทศไปสู่หายนะและกลียุค
คำโตของนายสนธิรัตน์ที่ประกาศกร้าวว่า ถ้าไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ ใครไอ้หน้าไหนจะทำให้บ้านเมืองสงบ คงต้องถามกลับนายสนธิรัตน์ว่า วันนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะที่สงบจริงหรือ
เพียงแค่ไม่มีม็อบออกมาขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพราะถูกใช้อำนาจพิเศษควบคุมอยู่ นายสนธิรัตน์ถือว่าบ้านเมืองสงบแล้วหรือ
ถ้าเช่นนั้น เหตุการณ์ที่วัดสิงห์ กลุ่มอันธพาลงานบวชที่เปิดปฏิบัติการอันเถื่อนถอย ไล่ทำร้ายครูและนักเรียนที่กำลังสอบ ยังไม่รวมเด็กนักเรียนอาชีวะ หรือแก๊งเด็กแว้นที่ยกพวกรุมสกรัม หรือไล่ฆ่ากันบนท้องถนน เป็นปรากฏการณ์ที่นายสนธิรัตน์ถือว่า บ้านเมืองสงบหรือไม่
ปัญหาสังคมที่ปะทุขึ้นเป็นจุดๆ สร้างความวุ่นวาย สร้างความเสียหายร้ายแรงยิ่งกว่าม็อบขับไล่รัฐบาลเสียอีก เพราะประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
เพียงแต่เป็นประชาชนธรรมดา ไม่มีกองกำลังเจ้าหน้าที่อารักขาคุ้มกันเหมือนผู้มีอำนาจ ซึ่งไม่ได้รับรู้ถึงผลกระทบที่ประชาชนได้รับ จึงไม่ใส่ใจลงไปแก้ปัญหาสังคม
ปล่อยให้ชาวบ้านต้องเผชิญชะตากรรมกับกลุ่มอันธพาลข้างถนน
ปัญหาสังคมที่เสื่อมทรุด อาชญากรรมที่พุ่งขึ้นอย่างน่ากลัว ผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อทุกวัน จนประชาชนไม่มีหลักประกันในสวัสดิภาพความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ถือว่า เป็นผลงานความสำเร็จในการที่ทำให้บ้านเมืองสงบแล้วหรือ
ความสงบที่พล.อ.ประยุทธ์พยายามจะสร้างเป็นจุดขายให้ตัวเอง ความสงบที่พรรคพลังประชารัฐใช้เป็นนโยบายหาเสียงเพื่อสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์กลับมาสืบทอดอำนาจนั้น จริงๆ แล้วมีความสงบเพียงประการเดียว
สงบเพราะไม่มีม็อบออกมาบุกทำเนียบฯ ปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น
ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว หลังจากยุคทักษิณ แต่การหาเสียงยังวนเวียนอยู่ในวัฏจักรน้ำเน่าเหมือนเดิม
ในยุค “ทักษิณ” บรรดาลูกสมุนพยายามปั่นหัวประชาชนว่า ถ้าไม่มี “ทักษิณ” ใครจะบริหารประเทศได้
แต่ “ทักษิณ” หนีคุกหลบออกนอกประเทศไปแล้วกว่า 10 ปี และพิสูจน์แล้วว่า ไม่มี “ทักษิณ” ประเทศก็ก้าวเดินมาได้ และดีเสียอีกที่ไม่มี “ทักษิณ” อยู่ในแผ่นดิน
ยุคพล.อ.ประยุทธ์ บรรดาลูกหาบกำลังปั่นกระแสว่า ถ้าไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ ใครไอ้หน้าไหนจะทำให้บ้านเมืองสงบได้
น่าลองพิสูจน์เหมือนกัน ถ้าช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่เปิดโอกาสให้พล.อ.ประยุทธ์กลับมาสืบอำนาจ ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำแล้ว บ้านเมืองจะสงบหรือไม่