หลังจากหายหน้าไปสองสามวันในที่สุดพวกกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่มี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา รองเลขาธิการพรรค นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค ได้ปรากฏตัวพร้อมกัน โดยสารรถตู้คันเดียวกันมาถึงที่ทำการพรรค พร้อมกันเมื่อตอนบ่ายวันที่ 12 กุมภาพันธ์ และเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณแบบเปิดเผยครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา
จากนั้น ร.ท.ปรีชาพล ก็ให้สัมภาษณ์ว่า "ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์ทุกพระองค์"
"หลังจากนี้ไป จะต้องเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งหาเสียง วันนี้ก็มาประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อวางแผนและกำหนดท่าทีในการเดินหน้ากิจกรรมของพรรค เราในฐานะพรรคการเมือง ก็มีภาระหน้าที่สำคัญต่อประชาชน และสมาชิกของพรรค ผู้สมัครของพรรค วันนี้การทำงานการเมืองไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งได้ เราจึงต้องเดินหน้า เพื่อจะไปสื่อสารนโยบาย และขออาสารับใช้ประชาชนในการเลือกตั้งที่จะมาถึง และขอเรียนว่า พวกเราทุกคนดำเนินการทุกอย่างไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และความตั้งใจดี ที่อยากเห็นบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดี และมีอนาคตที่ดีให้กับประชาชน"
เมื่อถามว่า พรรคไทยรักษาชาติจะเริ่มลงพื้นที่หาเสียงเมื่อใด ร.ท.ปรีชาพลตอบเพียงว่า “เร็วที่สุดครับ”
**เมื่อถามถึงข้อกังวลกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า "ความจริงแล้วไม่กังวล เพราะเราทำตามระเบียบขั้นตอน ข้อบังคบ และกฎหมาย ทำอย่างตรงไปตรงมา ส่วนผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคือ กกต. ถ้าเห็นว่าอะไรเป็นที่น่าสงสัย พวกเราก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ"
นั่นเป็นคำพูดและท่าทีล่าสุดของพวกคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากหายหน้าไปสองสามวัน จนทำให้มีคนเข้าใจว่าจะถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หรือเปล่า อีกทั้งในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็มีการปล่อยข่าวลือสารพัดออกมามากมาย ราวกับว่า "คนที่อยู่เบื้องหลัง" มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนเกิดขึ้นในบ้านเมืองตามมา
**การปรากฏตัวของพวกเขาพร้อมๆ กันแบบนี้ มันก็เหมือนออกจาก "แหล่งกบดาน" ที่ไหนสักแห่งก็ไม่รู้ หรือหลบไปตั้งหลัก จากนั้นก็กัดฟันสู้ต่อ
ความหมายจากคำพูดของหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติก็คือ "เราต้องเดินหน้าต่อ" และพร้อมที่จะเข้าสู่การตรวจสอบ
ซึ่งล่าสุดเมื่อตอนเย็นวันเดียวกันนี้ ก็มีรายงานข่าวว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ และเตรียมส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ชี้ขาดต่อไปแล้ว โดยให้เหตุผล และระบุถึงความผิดอย่างชัดแจ้งและปรากฏหลักฐาน เป็นลายลักษณ์อักษรอยู่แล้ว
แน่นอนว่าตามขั้นตอน กว่าจะได้ข้อยุติตามกฎหมายคงต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่ง แต่นาทีนี้ ถือว่าพรรคไทยรักษาชาติ แทบหมดสภาพความเป็นพรรคการเมืองแล้ว โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี นั่นเป็นขั้นตอนตามกฎหมายก็ต้องว่ากันไป แต่สิ่งที่เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นสิ่งแรกก็คือ "การขอโทษ" ในความผิดที่พวกตัวเองได้ก่อขึ้นมา สิ่งที่สังคมรอดูอยู่ว่า "คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติชุดนี้ จะประกาศลาออก พร้อมกับคำขอโทษ" แต่กลับตรงข้ามคือ "เดินหน้าต่อ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ" ในความหมายก็คือ "ไม่ผิด ไม่ขอโทษ และพร้อมต่อสู้อย่างเต็มที่"
**ท่าทีแบบนี้ บังเอิญว่ายังไปสอดคล้องกับความหมาย ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่พวกเขายืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับทวีตลอยลมมาทางโลกโซเชียล ก่อนหน้าว่า "ชีวิตต้องเดินต่อไป" ซึ่งหลายคนตีความหมายว่า อาจจะเป็นการส่งสัญญาณให้บรรดาเครือข่าย "สู้ต่อ" หรือไม่ !!
จากนั้น ร.ท.ปรีชาพล ก็ให้สัมภาษณ์ว่า "ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์ทุกพระองค์"
"หลังจากนี้ไป จะต้องเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งหาเสียง วันนี้ก็มาประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อวางแผนและกำหนดท่าทีในการเดินหน้ากิจกรรมของพรรค เราในฐานะพรรคการเมือง ก็มีภาระหน้าที่สำคัญต่อประชาชน และสมาชิกของพรรค ผู้สมัครของพรรค วันนี้การทำงานการเมืองไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งได้ เราจึงต้องเดินหน้า เพื่อจะไปสื่อสารนโยบาย และขออาสารับใช้ประชาชนในการเลือกตั้งที่จะมาถึง และขอเรียนว่า พวกเราทุกคนดำเนินการทุกอย่างไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และความตั้งใจดี ที่อยากเห็นบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดี และมีอนาคตที่ดีให้กับประชาชน"
เมื่อถามว่า พรรคไทยรักษาชาติจะเริ่มลงพื้นที่หาเสียงเมื่อใด ร.ท.ปรีชาพลตอบเพียงว่า “เร็วที่สุดครับ”
**เมื่อถามถึงข้อกังวลกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า "ความจริงแล้วไม่กังวล เพราะเราทำตามระเบียบขั้นตอน ข้อบังคบ และกฎหมาย ทำอย่างตรงไปตรงมา ส่วนผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคือ กกต. ถ้าเห็นว่าอะไรเป็นที่น่าสงสัย พวกเราก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ"
นั่นเป็นคำพูดและท่าทีล่าสุดของพวกคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ หลังจากหายหน้าไปสองสามวัน จนทำให้มีคนเข้าใจว่าจะถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หรือเปล่า อีกทั้งในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็มีการปล่อยข่าวลือสารพัดออกมามากมาย ราวกับว่า "คนที่อยู่เบื้องหลัง" มีเจตนาให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนเกิดขึ้นในบ้านเมืองตามมา
**การปรากฏตัวของพวกเขาพร้อมๆ กันแบบนี้ มันก็เหมือนออกจาก "แหล่งกบดาน" ที่ไหนสักแห่งก็ไม่รู้ หรือหลบไปตั้งหลัก จากนั้นก็กัดฟันสู้ต่อ
ความหมายจากคำพูดของหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติก็คือ "เราต้องเดินหน้าต่อ" และพร้อมที่จะเข้าสู่การตรวจสอบ
ซึ่งล่าสุดเมื่อตอนเย็นวันเดียวกันนี้ ก็มีรายงานข่าวว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ และเตรียมส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ชี้ขาดต่อไปแล้ว โดยให้เหตุผล และระบุถึงความผิดอย่างชัดแจ้งและปรากฏหลักฐาน เป็นลายลักษณ์อักษรอยู่แล้ว
แน่นอนว่าตามขั้นตอน กว่าจะได้ข้อยุติตามกฎหมายคงต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่ง แต่นาทีนี้ ถือว่าพรรคไทยรักษาชาติ แทบหมดสภาพความเป็นพรรคการเมืองแล้ว โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี นั่นเป็นขั้นตอนตามกฎหมายก็ต้องว่ากันไป แต่สิ่งที่เชื่อว่าหลายคนอยากเห็นสิ่งแรกก็คือ "การขอโทษ" ในความผิดที่พวกตัวเองได้ก่อขึ้นมา สิ่งที่สังคมรอดูอยู่ว่า "คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติชุดนี้ จะประกาศลาออก พร้อมกับคำขอโทษ" แต่กลับตรงข้ามคือ "เดินหน้าต่อ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ" ในความหมายก็คือ "ไม่ผิด ไม่ขอโทษ และพร้อมต่อสู้อย่างเต็มที่"
**ท่าทีแบบนี้ บังเอิญว่ายังไปสอดคล้องกับความหมาย ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่พวกเขายืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับทวีตลอยลมมาทางโลกโซเชียล ก่อนหน้าว่า "ชีวิตต้องเดินต่อไป" ซึ่งหลายคนตีความหมายว่า อาจจะเป็นการส่งสัญญาณให้บรรดาเครือข่าย "สู้ต่อ" หรือไม่ !!