xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยกฟ้อง ‘หญิงไก่’ - พ้นความผิดคดีค้ามนุษย์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้อง “หญิงไก่” คดีความผิดฐานค้ามนุษย์ ระบุไม่ได้บังคับทำงาน องค์ประกอบไม่ครบตามความผิด และไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย เจ้าตัวร้องไห้ด้วยความดีใจ ก่อนทรุดลงกราบศาล แต่ยังรับผลกรรมคดีหมิ่นเบื้องสูงอีก 2 คดีนอนคุก 15 ปี

วานนี้ (12 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ คม.76/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ"หญิงไก่" เป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551

สืบเนื่องจาก ต้นเดือนมิ.ย.49 ถึงปลายเดือนต.ค.53 จำเลยหลอก น.ส.ดาลิน หล้าคำ , น.ส.กาญจนา ปองลาภสุนทร และ น.ส.ขวัญจิรา จิรสกุลโชคชัย ผู้เสียหายที่ 1-3 มาทำงานเป็นคนรับใช้ บังคับใช้แรงงานตั้งแต่ เวลา 05.00 น. ถึง 22.00 น. โดยไม่มีวันหยุด และไม่จ่ายค่าจ้าง แล้วยังข่มขู่ผู้เสียหาย หากไม่ยอมทำงานจะแจ้งตำรวจจับบิดา มารดา

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อ 19 ต.ค.60 เห็นว่า สำหรับผู้เสียหายที่ 1 และ 3 พยานหลักฐาน ยังรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีพฤติการณ์ข่มขู่ หรือเข้าข่ายความผิดตามฟ้อง เนื่องจากไม่มีการยึดบัตรประชาชน และการทำงาน เป็นไปด้วยความสมัครใจ เเละยังไม่มีพยานหลักฐานพิสูจน์ว่า ผู้เสียหายต้องทำงานต่อเนื่องตั้งแต่ 05.00 น. ถึง 22.00 น. จริง ส่วนที่อ้างว่า จำเลยข่มขู่บิดาของผู้เสียหายที่ 3 ว่า หากลูกสาวไม่ยอมทำงานต่อ จะดำเนินคดีกับบิดา และมารดา ในประเด็นนี้ก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัด จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการข่มขู่ เพื่อแสวงหาจากการบังคับใช้แรงงาน

เเต่ในส่วนผู้เสียหายที่ 2 พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ รับฟังได้ว่า จำเลยได้ยึดบัตรประชาชน จำเลยที่ 2 มาเก็บไว้ และจำเลยไม่จ่ายค่าจ้างเดือนละ 6,000 บาท ตามที่ตกลงกันไว้ เเละยังไม่ส่งผู้เสียหายที่ 2 ให้เรียนพยาบาล ตามที่เคยมีการตกลงกันไว้ ซึ่งพิจารณาเเล้วถึง แม้งานดังกล่าวจะไม่หนักมาก ผู้เสียหายเพียงคนเดียว ย่อมสามารถกระทำได้ แต่การยึดบัตรประชาชนไว้ จำเลยมีเจตนาหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการใช้แรงงาน จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ พิพากษาจำคุก 4 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ต่อการพิจารณาคดีจึง ลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 3 ปี และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้กับผู้เสียหายที่ 2 เป็นเงิน 590,007 บาท

โดยวานนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นางมณตา จากทัณฑสถานหญิงกลางบางเขนมาฟังคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยจัดให้ผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นเด็ก พักอาศัยในคอนโดประชานิเวศน์ ให้ทำงานบ้าน ซึ่งนอกจากผู้เสียหายที่ 2 แล้ว ยังมีผู้เสียหายที่ 1 และ 3 ทำงานบ้านเช่นเดียวกัน ทั้ง 3 แบ่งหน้าที่กันทำ ช่วยดูแลจำเลยกับบุตร เพียงสองคนเท่านั้น เชื่อว่างานที่ผู้เสียหายทำไม่หนักมาก และยังได้ความจากผู้เสียหายที่ 2 ว่า จำเลยได้ให้เงินครั้งละ 1 พันบาท ให้โทรศัพท์ ให้ค่าเดินทางกลับบ้าน 2 พันบาท และ โอนเงินให้อีก 5 พันบาท พาไปเที่ยวต่างจังหวัดบางครั้ง อีกทั้งเวลาว่างสามารถออกไปซื้อของข้างนอกได้ แสดงว่าผู้เสียหายที่ 2 มีอิสระ ไม่ได้ถูกกักขัง

แม้จะปรากฏว่า จำเลยชวนผู้เสียหายที่ 2 มาทำงาน จำเลยอ้างว่าจะส่งเสียให้เรียนพยาบาล กลับมอบเงินให้บิดามารดา 5 พันบาท จนยินยอมให้พาผู้เสียหายไปทำงาน แต่เมื่อไปแล้วกลับไม่ส่งเสียให้เรียน และไม่จ่ายค่าจ้าง รวมทั้งนำบัตรประชาชนมาเก็บไว้ก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏจากการนำสืบว่า ระหว่างที่ผู้เสียหายทำงานกับจำเลยนั้น จำเลยได้กระทำการใด อันเป็นการข่มขืนใจ กับได้ความจากผู้เสียหายที่ 2 เองว่า จำเลยเป็นคนโมโหง่าย แต่ไม่เคยบังคับข่มขู่ให้ทำงาน ข้อเท็จจริงที่โจทย์นำสืบมายังฟังไม่ได้ว่า เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ โดยการบังคับใช้แรงงาน หรือบริการ การกระทำของจำเลย จึงไม่ครบองค์ประกอบ การกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 (2) ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลย ฟังขึ้น สำหรับคดี ส่วนแพ่ง เมื่อฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิด จึงเลยจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายที่ 2 ศาลพิพากษากลับ ยกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นางมณตา ร้องไห้ด้วยความดีใจ ก่อนทรุดลงกับพื้น และก้มลงกราบศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีค้ามนุษย์แล้ว นางมณตา ยังมีความผิดฐานดูหมิ่นเบื้องสูงด้วย.โดยล่าสุดศาลอาญาได้พิพากษาจำคุกนางมณตาคดีหมิ่นเบื้องสูงไปแล้ว 2 คดีรวมโทษจำคุก 15 ปี และคดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น