ผู้จัดการรายวัน 360- ตำรวจฝ่ายปราบปราบยาเสพติด บก.น. 4 จับยาเสพติดรวบผู้ต้องหาได้ 5 ราย ขณะเดินทางกลับ เจอนักเรียนอาชีวะไล่ยิงใส่ จนเกิดการปะทะ ผลดับ 1 เจ็บ 2 หลังเกิดเหตุ เด็กอาชีวะกว่า 50 คน รวมตัวเข้าทำร้ายตำรวจ จนเกิดเหตุชุลมุนต้องยิงขู่ ผบช.น.ชี้ ลูกน้องป้องกันตัว
เมื่อเวลา 01.30 น. วานนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ท. สุธีร์ ตันสกุล สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต บริเวณซอยร่มเกล้า 6 แขวง และเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น. 2 พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.3 ฝ่ายสืบสวนสน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทร และมูลร่วมกตัญญู โดยที่เกิดเหตุพบศพ นายเอกชัย บุญรัตน อายุ 22 ปี นักเรียนเทคโนโลยี ย่านบางกะปิ ชั้นปีที่ 3 คณะช่างยนต์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. นอนจมกองเลือดเสียชีวิต บริเวณหัวเข็มขัดพบซองปืนเหน็บเอวอยู่ ในกระเป๋ากางเกง ยังพบกระสุนปืน .38 อีก 6 นัด และอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเป็นชายไม่ทราบชื่ออีก 1 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณหน้าขาขวา 2 แห่ง ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.นพรัตน์ ไปก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่เกิดเหตุได้มีเพื่อนร่วมสถาบันของผู้ตาย ได้ตะโกนด่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมตะโกนท้าทายต่อยตีกับตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่งอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเพื่อนผู้ตายเชื่อว่าตำรวจนายนี้ คือคนลั่นไกฆ่าผู้ตาย ต่อมาเกิดฝนตกภายในที่เกิดเหตุ นายตำรวจนายนี้ กำลังจะเดินขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่เพื่อหลบฝน จากนั้นกลุ่มนักเรียนกว่า 50 คน ได้วิ่งตรงไปที่รถ และเริ่มทุบรถ และทำร้ายร่างกายตำรวจนายดังกล่าว จนเกิดเหตุชุลมุน นายตำรวจดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมขึ้นลำปืน และชี้ไปที่กลุ่มนักเรียนพร้อมกล่าวว่า "ใครเข้ามากูยิง" ก่อนที่นักเรียนจะพากันหยิบก้อนอิฐ และขวดปาเข้าใส่นายตำรวจ นายตำรวจได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนจะยิงเข้าใส่กลุ่มนักเรียน 4 นัด ท่ามกลางสายตาประชาชน รถประชาชนที่สัญจรไปมา และผู้สื่อข่าวบริเวณดังกล่าว จนต้องวิ่งหลบหนีกันอลม่าน ก่อนที่จะมีรถเจ้าหน้าที่มารับนายตำรวจนายนี้ หลบหายไป
พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวว่าจากการสอบสวนพยานทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 5 คน โดยมีรถจยย. ของเจ้าหน้าที่ขับประกบรถกระบะของเจ้าหน้าที่อีกชั้นหนึ่ง ขณะกำลังเดินทางกลับ ถูกผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ กระสุนถูกที่หน้าขาของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเกิดการยิงต่อสู้กัน จนกระทั่งสิ้นเสียงปืน จึงพบผู้ตายนอนแน่นิ่งจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนเกิดเหตุชุลมุนดังกล่าว
พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวว่าหลังจากนี้ จะเรียกพยานที่เกิดเหตุพร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 เข้ามาสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.4 เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว แต่เป็นลักษณะการป้องกันตัว ตนได้สั่งการให้ทางพล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร
ส่วนที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พ.อ.อ.นภัสกร บุญรัตน์ พ่อของนายเอกชัย พร้อมญาติ เดินทางมารับศพนายเอกชัย บุญรัตน์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ซึ่งแพทย์ระบุผลชันสูตรเบื้องต้น สูญเสียโลหิตปริมาณมากในช่องอกจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายหัวใจและปอด โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งทางครอบครัวจะนำศพไปตั้งสวดที่วัดลาดบัวขาว ย่านมีนบุรี
ขณะที่พ่อผู้เสียชีวิตเรียกร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำคดีอย่างตรงไปตรงมา หากผลการตรวจสอบพบลูกชายตนมีส่วนผิดและเป็นฝ่ายยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ก็พร้อมยอมรับความจริง แต่ระหว่างนี้ก็ไม่ควรไปสรุปว่าใครยิงก่อน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะมีการยิงก่อน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรยิงสวนกลับมาถึง 4 นัด เป็นการจงใจให้เสียชีวิตและทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
เมื่อเวลา 01.30 น. วานนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ท. สุธีร์ ตันสกุล สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต บริเวณซอยร่มเกล้า 6 แขวง และเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น. 2 พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.3 ฝ่ายสืบสวนสน.มีนบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทร และมูลร่วมกตัญญู โดยที่เกิดเหตุพบศพ นายเอกชัย บุญรัตน อายุ 22 ปี นักเรียนเทคโนโลยี ย่านบางกะปิ ชั้นปีที่ 3 คณะช่างยนต์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. นอนจมกองเลือดเสียชีวิต บริเวณหัวเข็มขัดพบซองปืนเหน็บเอวอยู่ ในกระเป๋ากางเกง ยังพบกระสุนปืน .38 อีก 6 นัด และอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเป็นชายไม่ทราบชื่ออีก 1 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณหน้าขาขวา 2 แห่ง ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.นพรัตน์ ไปก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่เกิดเหตุได้มีเพื่อนร่วมสถาบันของผู้ตาย ได้ตะโกนด่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมตะโกนท้าทายต่อยตีกับตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่งอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเพื่อนผู้ตายเชื่อว่าตำรวจนายนี้ คือคนลั่นไกฆ่าผู้ตาย ต่อมาเกิดฝนตกภายในที่เกิดเหตุ นายตำรวจนายนี้ กำลังจะเดินขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่เพื่อหลบฝน จากนั้นกลุ่มนักเรียนกว่า 50 คน ได้วิ่งตรงไปที่รถ และเริ่มทุบรถ และทำร้ายร่างกายตำรวจนายดังกล่าว จนเกิดเหตุชุลมุน นายตำรวจดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมขึ้นลำปืน และชี้ไปที่กลุ่มนักเรียนพร้อมกล่าวว่า "ใครเข้ามากูยิง" ก่อนที่นักเรียนจะพากันหยิบก้อนอิฐ และขวดปาเข้าใส่นายตำรวจ นายตำรวจได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนจะยิงเข้าใส่กลุ่มนักเรียน 4 นัด ท่ามกลางสายตาประชาชน รถประชาชนที่สัญจรไปมา และผู้สื่อข่าวบริเวณดังกล่าว จนต้องวิ่งหลบหนีกันอลม่าน ก่อนที่จะมีรถเจ้าหน้าที่มารับนายตำรวจนายนี้ หลบหายไป
พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวว่าจากการสอบสวนพยานทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 5 คน โดยมีรถจยย. ของเจ้าหน้าที่ขับประกบรถกระบะของเจ้าหน้าที่อีกชั้นหนึ่ง ขณะกำลังเดินทางกลับ ถูกผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ กระสุนถูกที่หน้าขาของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเกิดการยิงต่อสู้กัน จนกระทั่งสิ้นเสียงปืน จึงพบผู้ตายนอนแน่นิ่งจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนเกิดเหตุชุลมุนดังกล่าว
พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวว่าหลังจากนี้ จะเรียกพยานที่เกิดเหตุพร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 เข้ามาสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.4 เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว แต่เป็นลักษณะการป้องกันตัว ตนได้สั่งการให้ทางพล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร
ส่วนที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พ.อ.อ.นภัสกร บุญรัตน์ พ่อของนายเอกชัย พร้อมญาติ เดินทางมารับศพนายเอกชัย บุญรัตน์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ซึ่งแพทย์ระบุผลชันสูตรเบื้องต้น สูญเสียโลหิตปริมาณมากในช่องอกจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายหัวใจและปอด โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งทางครอบครัวจะนำศพไปตั้งสวดที่วัดลาดบัวขาว ย่านมีนบุรี
ขณะที่พ่อผู้เสียชีวิตเรียกร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำคดีอย่างตรงไปตรงมา หากผลการตรวจสอบพบลูกชายตนมีส่วนผิดและเป็นฝ่ายยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ก็พร้อมยอมรับความจริง แต่ระหว่างนี้ก็ไม่ควรไปสรุปว่าใครยิงก่อน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะมีการยิงก่อน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรยิงสวนกลับมาถึง 4 นัด เป็นการจงใจให้เสียชีวิตและทำเกินกว่าเหตุหรือไม่