วานนี้ (4ก.พ.) นายบุญธรรม เจริญกล้า นายกสมาคมชาวประมง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการประมง และ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อจัดการทรัพยากรประมงทะเลอย่างยั่งยืน โดยเรียกร้องให้รัฐจ่ายเงินค่าชดเชย หรือซื้อเรือประมง ที่ไม่สามารถออกทำประมงได้ ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.58 จากนโยบายลดปริมาณเรือประมงให้เหมาะสมกับขนาดน่านน้ำ
นายบุญธรรม กล่าวว่า เจ้าของเรือประมงที่ถูกตรึงพังงา และกรมเจ้าท่า นำสีขาว-แดง มาทาไว้ เป็นสัญลักษณ์เป็นเรือที่ไม่อนุญาตให้ทำประมงอีกต่อไป ใน 22 จังหวัดชายทะเล กำลังเดือดร้อนหนัก จากการที่รัฐเลื่อนการจ่ายเงินชดเชยมาหลายครั้ง จึงนัดรวมตัวกันมาชุมนุมเรียกร้องที่ หน้ากระทรวงเกษตรฯ เพื่อยื่นหนังสือถึง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรฯ ให้จ่ายค่าชดเชยโดยด่วน เพื่อให้ชาวประมงนำเงินไปจุนเจือครอบครัวและประกอบอาชีพอื่น ทั้งนี้จะมีผู้มาชุมนุมไม่ต่ำกว่า 300 คน โดยหวังว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม. วันอังคารที่ 5 ก.พ. นี้ ซึ่งหากยังไม่นำเข้าสู่วาระการประชุม ครม. ในสัปดาห์นี้ การชุมนุมจะยืดเยื้อแน่นอน
นายบุญธรรม กล่าวว่า เจ้าของเรือประมง ยอมรับการประเมินมูลค่าเรือตามสภาพเรือ ซึ่งคณะทำงานฯ ประเมินมาเหลือร้อยละ 50 คือประมาณตันกรอส ละ 4 หมื่นกว่าบาท โดยจำนวนเรือที่ต้องได้รับค่าชดเชยจากภาครัฐ มี 489 ลำ มูลค่า 600 ล้านบาท ยืนยันว่า เรือทั้งหมด เป็นเรือที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่เรือเถื่อน หรือเป็นเรือติดคดี โดยบางส่วนเปลี่ยนประเภทจากเรือประมง ไปบรรทุกสินค้า หรือเรือท่องเที่ยว โดยชาวประมงกังวลว่า หากเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จากที่ตรวจสภาพเรือไปครบทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล เพื่อประเมินราคาเรียบร้อยแล้วจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ หรือรัฐบาลต่อไปอาจไม่ดำเนินการต่อ จึงต้องการมาทวงสัญญาจากภาครัฐ ถ้าไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จะไม่ยอมกลับ จะขอสู้ตาย ซึ่งรายที่เลิกอาชีพก็หวังเงินก้อนนี้ไปใช้บั้นปลายชีวิต ถ้าครม.ไม่อนุมัติ จะไม่กลับบ้าน พวกเราเข้าตาจนทนไม่ไหวเพราะเดือดร้อนมากว่า 4-5 ปี แล้ว
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ได้สั่งการด่วนที่สุด ให้อธิบดีกรมประมง เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ ผ่านสมาคม หรือองค์กรหรือกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ ให้กว้างขวาง ด้วยรวมทั้งให้ประสานคณะกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ให้เรียน ผู้ว่าราชการ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ทราบเพื่อขอความร่วมมือ นายอำเภอในพื้นที่ ร่วมชี้แจงด้วย ทั้งให้เน้นย้ำกับชาวประมง อย่าเชื่อข่าวลือต่างๆ หากมีข้อสงสัยให้สอบถามข้าราชการ หน่วยงานกรมประมงในพื้นที่ได้ทุกแห่งด้วย ซึ่งยืนยันว่า การพิจารณาจ่ายเยียวเรือประมงออกนอกระบบ วางหลักเกณฑ์ชดเชยทั้งหมด และจะเร่งรัดนำเสนอครม. ภายในเดือนนี้
นายบุญธรรม กล่าวว่า เจ้าของเรือประมงที่ถูกตรึงพังงา และกรมเจ้าท่า นำสีขาว-แดง มาทาไว้ เป็นสัญลักษณ์เป็นเรือที่ไม่อนุญาตให้ทำประมงอีกต่อไป ใน 22 จังหวัดชายทะเล กำลังเดือดร้อนหนัก จากการที่รัฐเลื่อนการจ่ายเงินชดเชยมาหลายครั้ง จึงนัดรวมตัวกันมาชุมนุมเรียกร้องที่ หน้ากระทรวงเกษตรฯ เพื่อยื่นหนังสือถึง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรฯ ให้จ่ายค่าชดเชยโดยด่วน เพื่อให้ชาวประมงนำเงินไปจุนเจือครอบครัวและประกอบอาชีพอื่น ทั้งนี้จะมีผู้มาชุมนุมไม่ต่ำกว่า 300 คน โดยหวังว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม. วันอังคารที่ 5 ก.พ. นี้ ซึ่งหากยังไม่นำเข้าสู่วาระการประชุม ครม. ในสัปดาห์นี้ การชุมนุมจะยืดเยื้อแน่นอน
นายบุญธรรม กล่าวว่า เจ้าของเรือประมง ยอมรับการประเมินมูลค่าเรือตามสภาพเรือ ซึ่งคณะทำงานฯ ประเมินมาเหลือร้อยละ 50 คือประมาณตันกรอส ละ 4 หมื่นกว่าบาท โดยจำนวนเรือที่ต้องได้รับค่าชดเชยจากภาครัฐ มี 489 ลำ มูลค่า 600 ล้านบาท ยืนยันว่า เรือทั้งหมด เป็นเรือที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่เรือเถื่อน หรือเป็นเรือติดคดี โดยบางส่วนเปลี่ยนประเภทจากเรือประมง ไปบรรทุกสินค้า หรือเรือท่องเที่ยว โดยชาวประมงกังวลว่า หากเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จากที่ตรวจสภาพเรือไปครบทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล เพื่อประเมินราคาเรียบร้อยแล้วจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ หรือรัฐบาลต่อไปอาจไม่ดำเนินการต่อ จึงต้องการมาทวงสัญญาจากภาครัฐ ถ้าไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จะไม่ยอมกลับ จะขอสู้ตาย ซึ่งรายที่เลิกอาชีพก็หวังเงินก้อนนี้ไปใช้บั้นปลายชีวิต ถ้าครม.ไม่อนุมัติ จะไม่กลับบ้าน พวกเราเข้าตาจนทนไม่ไหวเพราะเดือดร้อนมากว่า 4-5 ปี แล้ว
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ได้สั่งการด่วนที่สุด ให้อธิบดีกรมประมง เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ ผ่านสมาคม หรือองค์กรหรือกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ ให้กว้างขวาง ด้วยรวมทั้งให้ประสานคณะกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ให้เรียน ผู้ว่าราชการ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ทราบเพื่อขอความร่วมมือ นายอำเภอในพื้นที่ ร่วมชี้แจงด้วย ทั้งให้เน้นย้ำกับชาวประมง อย่าเชื่อข่าวลือต่างๆ หากมีข้อสงสัยให้สอบถามข้าราชการ หน่วยงานกรมประมงในพื้นที่ได้ทุกแห่งด้วย ซึ่งยืนยันว่า การพิจารณาจ่ายเยียวเรือประมงออกนอกระบบ วางหลักเกณฑ์ชดเชยทั้งหมด และจะเร่งรัดนำเสนอครม. ภายในเดือนนี้