หลังจาก “เครือข่ายปกป้องดิน-น้ำ-ป่า บนแผ่นดินปักษ์ใต้”ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มประชาชนจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจาก 5 โครงการบริหารจัดการน้ำขนาดใหญ่ของรัฐ ในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย เขื่อนวังหีบ เขื่อนคลองสังข์ คลองผันน้ำเมืองนครฯ ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช และเขื่อนเหมือนตะกั่ว กับประตูกั้นน้ำปากประ ทะเลสาบสงขลา ในพื้นที่ จ.พัทลุง ได้ส่งตัวแทนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยปักหลักชุมนุม ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อบอกเล่าความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนในสังคมไทยได้รับรู้ และไปเรียกร้องให้รัฐบาล ให้ยุติการก่อสร้างโครงการ
ล่าสุดวานนี้ (27 ม.ค.) ได้มีการอ่านแถลงการณ์ เครือข่ายดินน้ำป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง ฉบับที่ 3 ระบุว่า...
จากการที่รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีกรมชลประทาน เป็นเจ้าของโครงการ ได้สร้างเป้าหมายลวงเพื่อนำงบประมาณมาสร้างเขื่อน คลองผันน้ำ ประตูกั้นน้ำ โดยการก่อสร้างเหล่านี้ มิได้เป็นการแก้ปัญหาตามที่ระบุไว้แต่อย่างใด และยังได้นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาอ้าง โดยมิได้คำนึงถึงความถูกต้อง
ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการส่งเสียงของประชาชน การยื่นหนังสือ การเจรจามาหลายวาระ แต่ รัฐไม่เคยได้ยิน และยังใช้อำนาจรัฐในการข่มขู่ตลอดมา จนประชาชนไม่มีโอกาสในการเสนอทางออกสำหรับการจัดการน้ำที่แก้ปัญหาตรงจุด โดยไม่ทำลายป่าไม้ สายน้ำ และชีวิตของผู้คน
ในช่วงระยะเวลา 2 วันมานี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ชี้แจงในท่วงทำนองที่ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการสร้างเป้าหมายลวง แต่ยังคงดึงดันที่จะดำเนินการก่อสร้าง สำหรับการเจรจาที่รัฐ ยื่นข้อเสนอมานั้น คือ การปรับในรายละเอียดของโครงการ แต่ไม่ทบทวนโครงการเพื่อการยกเลิกโครงการ สะท้อนให้เห็นเบื้องหลังของวิธีคิด และผลประโยชน์ของการใช้งบประมาณอย่างชัดเจน
หน้าที่ของเราคือ การปกป้องดิน น้ำ ป่า และเรามิอาจสูญเสียที่ดินทำกิน บ้านแตกสาแหรกขาด ชุมชนล่มสลาย และเราได้ใช้หลากหลายวิธีในการสื่อสารกับรัฐบาลตลอดมา กระทั่งต้องเดินทางมาถึง กระทรวงเกษตรฯ แต่ รัฐมนตรี กลับยืนยันว่า จะเดินหน้าโครงการ หากจะปรับเปลี่ยน ก็เป็นเพียงรายละเอียดของโครงการเท่านั้น
ดังนั้น ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบ เพราะเราไม่อาจสูญเสียป่าได้อีกต่อไป เราไม่อาจสูญเสียสายน้ำ เราไม่อาจพรากจากที่อยู่ของเรา ซึ่งอาศัยมาหลายร้อยปี ภาระหน้าที่ของการปกป้องสิ่งแวดล้อมของประเทศ และการปกป้อแผ่นดินเกิด เป็นภาระสำคัญที่สุดของเรา
จึงขอประกาศว่า วันจันทร์ที่ 28 ม ค.62 ทางเครือข่ายปกป้องดิน น้ำ ป่า ฯ จะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. จึงขอเชิญชวนพี่น้องที่อยู่ทางใต้ พี่น้องกรุงเทพฯ และพี่น้องทั่วประเทศ มาร่วมกันเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญ คือ การร่วมกันสร้างอิสรภาพ ให้แก่การจัดการทรัพยากรของประเทศ เพื่อนำทรัพยากรสาธารณะมาสู่ประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ได้สั่งการด่วนถึง ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และ อธิบดีกรมชลประทาน ถึงเรื่องนี้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกรมชลประทาน ได้พิจารณาข้อเสนอ ข้อเรียกร้องดังกล่าวแล้ว และมีรายละเอียดข้อเท็จจริง พร้อมข้อมูลต่างๆ ที่เพียงพอที่จะชี้แจง ตอบข้อกังวล และข้อสงสัยของชาวบ้านได้ ดังนั้น จึงได้ให้ อธิบดีกรมชลฯ มาพบประชาชนกลุ่มดังกล่าว ในวันนี้ (28 ม.ค.) เวลา 08.00 น. เพื่อชี้แจง ตอบข้อซักถามต่างๆ โดยเน้นย้ำให้อธิบดีกรมชลประทาน ยึดถือข้อเท็จจริงของความเป็นมาของการจัดทำโครงการ รวมทั้งปัญหา และความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่ม ในพื้นที่เป็นเป้าหมายหลักในการเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจในครั้งนี้ด้วย
ล่าสุดวานนี้ (27 ม.ค.) ได้มีการอ่านแถลงการณ์ เครือข่ายดินน้ำป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง ฉบับที่ 3 ระบุว่า...
จากการที่รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีกรมชลประทาน เป็นเจ้าของโครงการ ได้สร้างเป้าหมายลวงเพื่อนำงบประมาณมาสร้างเขื่อน คลองผันน้ำ ประตูกั้นน้ำ โดยการก่อสร้างเหล่านี้ มิได้เป็นการแก้ปัญหาตามที่ระบุไว้แต่อย่างใด และยังได้นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาอ้าง โดยมิได้คำนึงถึงความถูกต้อง
ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการส่งเสียงของประชาชน การยื่นหนังสือ การเจรจามาหลายวาระ แต่ รัฐไม่เคยได้ยิน และยังใช้อำนาจรัฐในการข่มขู่ตลอดมา จนประชาชนไม่มีโอกาสในการเสนอทางออกสำหรับการจัดการน้ำที่แก้ปัญหาตรงจุด โดยไม่ทำลายป่าไม้ สายน้ำ และชีวิตของผู้คน
ในช่วงระยะเวลา 2 วันมานี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ชี้แจงในท่วงทำนองที่ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการสร้างเป้าหมายลวง แต่ยังคงดึงดันที่จะดำเนินการก่อสร้าง สำหรับการเจรจาที่รัฐ ยื่นข้อเสนอมานั้น คือ การปรับในรายละเอียดของโครงการ แต่ไม่ทบทวนโครงการเพื่อการยกเลิกโครงการ สะท้อนให้เห็นเบื้องหลังของวิธีคิด และผลประโยชน์ของการใช้งบประมาณอย่างชัดเจน
หน้าที่ของเราคือ การปกป้องดิน น้ำ ป่า และเรามิอาจสูญเสียที่ดินทำกิน บ้านแตกสาแหรกขาด ชุมชนล่มสลาย และเราได้ใช้หลากหลายวิธีในการสื่อสารกับรัฐบาลตลอดมา กระทั่งต้องเดินทางมาถึง กระทรวงเกษตรฯ แต่ รัฐมนตรี กลับยืนยันว่า จะเดินหน้าโครงการ หากจะปรับเปลี่ยน ก็เป็นเพียงรายละเอียดของโครงการเท่านั้น
ดังนั้น ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบ เพราะเราไม่อาจสูญเสียป่าได้อีกต่อไป เราไม่อาจสูญเสียสายน้ำ เราไม่อาจพรากจากที่อยู่ของเรา ซึ่งอาศัยมาหลายร้อยปี ภาระหน้าที่ของการปกป้องสิ่งแวดล้อมของประเทศ และการปกป้อแผ่นดินเกิด เป็นภาระสำคัญที่สุดของเรา
จึงขอประกาศว่า วันจันทร์ที่ 28 ม ค.62 ทางเครือข่ายปกป้องดิน น้ำ ป่า ฯ จะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. จึงขอเชิญชวนพี่น้องที่อยู่ทางใต้ พี่น้องกรุงเทพฯ และพี่น้องทั่วประเทศ มาร่วมกันเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญ คือ การร่วมกันสร้างอิสรภาพ ให้แก่การจัดการทรัพยากรของประเทศ เพื่อนำทรัพยากรสาธารณะมาสู่ประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ได้สั่งการด่วนถึง ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และ อธิบดีกรมชลประทาน ถึงเรื่องนี้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกรมชลประทาน ได้พิจารณาข้อเสนอ ข้อเรียกร้องดังกล่าวแล้ว และมีรายละเอียดข้อเท็จจริง พร้อมข้อมูลต่างๆ ที่เพียงพอที่จะชี้แจง ตอบข้อกังวล และข้อสงสัยของชาวบ้านได้ ดังนั้น จึงได้ให้ อธิบดีกรมชลฯ มาพบประชาชนกลุ่มดังกล่าว ในวันนี้ (28 ม.ค.) เวลา 08.00 น. เพื่อชี้แจง ตอบข้อซักถามต่างๆ โดยเน้นย้ำให้อธิบดีกรมชลประทาน ยึดถือข้อเท็จจริงของความเป็นมาของการจัดทำโครงการ รวมทั้งปัญหา และความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่ม ในพื้นที่เป็นเป้าหมายหลักในการเจรจาชี้แจงทำความเข้าใจในครั้งนี้ด้วย