xs
xsm
sm
md
lg

อีอีซีการันตีศก.ไทยโต 5-6% ต่อเนื่อง 5 ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360-"คณิศ" กางแผนงาน "อีอีซี" ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเป้าหมายจะช่วยการันตีเศรษฐกิจไทยให้ขยายจากฐานปกติ 2% ต่อปีดังนั้นแผนอีอีซีช่วง 5 ปีแรก (ปี61-65) จะเป็นเครื่องการันตีศก.ไทยโต 5-6% ต่อปีได้ มั่นใจไม่ว่าใครมาหลังเลือกตั้งก็ต้องสานต่อ

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อเศรษฐกิจไทยกับการลงทุนในอีอีซี ในงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 2561 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ปี 2562 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มการชะลอตัวจากปีก่อน ดังนั้นการสร้างเศรษฐกิจภายในของไทยจะสามารถทดแทนการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1.7ล้านล้านบาทใน 5 ปี(ปี61-65)และการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายเฉลี่ย 3 แสนล้านบาทต่อปีจะมีส่วนขยายฐานเศรษฐกิจให้โตเพิ่มอีก 2 % ต่อปีดังนั้นหากฐานเศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 3- 4% ต่อปีก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ในระดับ 5-6% ต่อปีในระยะยาว

" อีอีซีนั้นเรามีเป้าหมายการลงทุนภาพรวมที่วางไว้ 5 ปี(ปี 2561-65 )แรกและ 5 ปีหลังทั้งโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งเบื้องต้นวางไว้ 12 อุตสาหกรรมจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคตดังนั้น 5 ปีแรกอีอีซีก็จะเป็นเครื่องการันตีว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ตกต่ำเพราะการลงทุนในอีอีซีจะเป็นกันชน(Buffer)สำหรับปัจจัยภายนอกประเทศไม่ให้มากระทบ "นายคณิศกล่าว

อย่างไรก็ตามหลังการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดเข้ามาบริหาร การทำงานของอีอีซีได้มีพ.ร.บ.อีอีซีรองรับไว้แล้วที่มีทั้งองค์กร และงบประมาณในตัวเองก็จะสามารถเข้ามาสานต่อได้ทันที เพราะนี่คือเครื่องการันตีการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตต่อไป ซึ่งพ.ร.บ.อีอีซีไม่เพียงมุ่งเน้นการลงทุน แต่ยังให้ความสำคัญกับการศึกษา ยกระดับการเกษตร ผังเมืองและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังสามารถนำไปขยายการดำเนินงานยังพื้นที่อื่นๆ ได้อีกเพื่อการเติบโตเศรษฐกิจให้กระจายไปยังภูมิภาค

สำหรับตัวเลขการขอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่ปี 2561 มีการขอส่งเสริมการลงทุนอยู่ที่ 683,910 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ทำได้เพียง 310,337 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีการเติบโตกว่าเท่าตัวและเม็ดเงินเหล่านี้ก็จะทยอยให้เกิดการลงทุนจริงต่อเนื่องโดยลงทุนจริงปี 61 อยู่ที่ 265,933 ล้านบาทและคาดว่าปีนี้จะอยู่ระดับ 400,000 ล้านบาท

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจมีความคาดหวังสูงถึงการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่น่าห่วงคือศก.ไทยพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวเมื่อปัจจัยภายนอกกระทบก็จะกระทบตามไปด้วยจึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างจุดนี้ ส่วนตลาดทุนปีนี้จากศก.โลกชะลอตัว การขึ้นดอกเบี้ยจะลดลงจะทำให้ค่าบาทจะอ่อนลงไม่มากนักและเงินทุนจะไหลไปเพื่อนบ้านระยะแรกหลังเลือกตั้งชัดเจนเชื่อว่าจากนั้นเงินทุนจะไหลเข้าตลาดทุนไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น