xs
xsm
sm
md
lg

หนี ‘ลูกบิลเลียด’ ได้ ‘ลูกเต๋า’ หรือ

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


การเมืองน้ำเน่าแบบไทยยังฝุ่นตลบ ทั้งพิษน้ำลายหาเสียง คำคุยโม้เกทับบลัฟแหลกเหมือนหมอกควันพิษที่ปกคลุมเมืองหลวงและปริมณฑลอยู่ในขณะนี้ และยังไม่มีคำตอบจากผู้มีอำนาจว่าจะแก้ปัญหา มีทางออกอย่างไร ชาวบ้านก็เป็นฝ่ายรับเละ

เพราะการเมืองน้ำเน่าเน้นสิทธิเชิงบังคับ ผู้มีอำนาจออกกฎหมายให้ชาวบ้านไปใช้สิทธิ มิฉะนั้นจะโดนมาตรการรอนสิทธิ เสียสิทธิต่างๆ แต่ไม่เคยมีมาตรการใดที่ได้ผลในการจัดการความล้มเหลวของผู้กุมอำนาจรัฐที่โกหก ตระบัดสัตย์กับชาวบ้าน

หาเสียงด้วยสัญญาสารพัด แต่ไม่เคยปฏิบัติ ไม่ต่างกันเลยว่ามาจากการเลือกตั้ง ลากตั้ง รัฐประหาร มีแต่คำลวงปั่นหัว แหกตา เป่าหูชาวบ้าน หาเกียรติภูมิความน่าเชื่อถือไม่ได้ ส่วนใหญ่ ให้สัญญาลมๆ แล้งๆ แท้จริงคือมุ่งแสวงหาประโยชน์

ยังจำได้หรือไม่ เคยมีนักแต่งเพลงหาเสียงเป่าหู ปั่นหัวแหกตาชาวบ้าน ด้วยคำลวง “เราจะทำตามสัญญา...” เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง อาจเป็นเพราะความอับอาย หรือไม่ต้องการทิ้งหลักฐานประจานความล้มเหลวที่ทำตามสัญญาไม่ได้ ก็หยุดเพลง

แม้กระนั้น ยังมีเพลง บทกลอน มาเป่าหู ปั่นหัว แหกตาชาวบ้าน ด้วยลมปากเหมาะสำหรับคนบ้องตื้นเชื่อด้วยหน้าซื่อตาใส หารู้ไม่ว่านั่นเป็นผลงานของลีลาเฉไฉไขสือ ยื้อเวลาอยู่ต่อตีกินรักษาอำนาจ ผลงานล้มเหลวบ้านเมืองเสียหายก็หัวช่างมัน

ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครรู้ชัดว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ มีแต่คำพูดคาดเดาเรื่อยเปื่อย อ้างคนวงใน คนใกล้ชิด ผู้กุมอำนาจรัฐก็ยังไม่กล้าบอกชาวบ้านว่าวันกาเบอร์จะมาเมื่อไหร่ แต่หาคนเชื่อได้ยาก ก็เคยไปบอกผู้นำ 5 ชาติไว้ 5 ครั้งแล้ว ไม่เคยเป็นจริง

ฉะนั้น ลมปากของผู้ใหญ่ผู้โตประเทศนี้จึงเป็นเหมือนลมพัดลมเพ เล่นลิ้น หาความแน่นอนเชื่อถืออะไรไม่ได้ ความพิสดารอยู่ที่ว่าชาวบ้านยอมทนกับสภาพเช่นนี้นานกว่า 4 ปีได้อย่างไร และมีท่าทีว่าจะอยู่ต่อยาว ไม่ว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม

ความสำเร็จของผลงานที่อ้างไว้ เทียบกับความเสียหายจากการทุจริต การกู้เป็นหนี้สินกว่า 2 ล้านล้านบาท การไม่ปฏิรูปโครงสร้างสำคัญจำเป็นของบ้านเมือง รวมแล้วเป็นการเสียเวลา เสียของ แล้วสมควรได้รับการประเมินว่าคุ้มกันหรือไม่

ความผุกร่อนของโครงสร้างประเทศ ความเสียหายด้านจริยธรรม คุณธรรม ความตกต่ำของคุณภาพชีวิต ความยากจนของคนเกือบทั้งแผ่นดิน น่าจะมีมาตรการของแผ่นดินเพื่อหาคนรับผิดชอบ เช่น พวกคุยโม้โอ้อวด ยโสโอหังลำพองในอำนาจ

ประเภทบริหารชาติบ้านเมืองด้วยน้ำลายแตกฟอง แต่ผลงานไม่สมราคาคุย!

ช่วงนี้ก่อนเลือกตั้ง ถ้ามีกลุ่มพรรคการเมืองต่างๆ หาเสียงด้วยคำคุยข่มทับคู่แข่ง ชาวบ้านก็รู้ว่าการหาเสียงเป็นเรื่องของการโม้คำโต สัญญาลมปากไร้ค่า แต่ก็ต้องฟังเพราะเป็นรูปแบบของการเมืองน้ำเน่าหรือมีมาตรฐาน ก็ต้องหาเสียงทั้งนั้น

ไม่มีพรรคใดหรอก ที่บอกชาวบ้านว่าอย่าเชื่อคำหาเสียงของผม เพราะผมหลอก! ยิ่งการเมืองด้อยพัฒนาเลี่ยงกฎต่างๆ เพื่อฉกฉวยโอกาสตีกิน เอาเปรียบคู่แข่ง ก็ยิ่งใช้เล่ห์สารพัด ขี้ขลาดถึงขั้นอ้างตาใสว่าการไปหาเสียง ไม่ใช่การหาเสียง

ยังไม่เคยพบนักการเมืองหน้าไหนที่บอกว่า “วันนี้ผมมาหาเสียงนะครับ พ่อแม่พี่น้อง” ส่วนใหญ่ใช้คำว่า “ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน” เป็นมาตรฐาน ทั้งนักการเมืองหน้าเก่า หน้าโหล และนักการเมืองหน้าใหม่เสพติดอำนาจมาทางลัด

ประเทศไทยอยู่ในสภาพน่าสมเพช ติดกับดักการเมืองน้ำเน่าจากการเลือกตั้งและการรัฐประหาร ยุคนี้ซ้ำร้ายมีการเลือกตั้งก็ยุ่ง ไม่มีก็ยุ่ง เลือกแล้วคนมีอำนาจหน้าเดิมพ่ายแพ้ก็ยุ่ง ชนะก็ยุ่ง ดูจะวุ่น หาทางออกจากสภาวะเสี่ยงยังไม่ได้

แม้มีการเลือกตั้ง การตั้งรัฐบาลจะยุ่งยาก เว้นแต่จะแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่คำนึงถึงความเหมาะสม ทั้งยังมีหนทางอ้างความปรองดอง ทำให้พรรคเทพ พรรคมาร พรรครอเสียบอยู่ร่วมกันได้อย่างดี ตราบใดที่ผลประโยชน์ยังลงตัว

บ้านเมืองและประชาชนไม่ได้อะไรเลย มีแต่ความเสี่ยงจากการทุจริตคำโตเพราะการถอนทุนด้วยความเชื่อที่ว่า “บ้านเมืองจะฉิบหายก็ช่าง ขอให้โกยเงินไว้ให้มากที่สุด” เป็นอย่างนี้มาทุกยุค นักเลือกตั้ง นักรัฐประหารแล้วรวย ทำไม่ต่างกัน

บ้านเมืองมีงานใหญ่สำคัญยิ่ง รออยู่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ถ้ามีกำหนดวันเลือกตั้งจริง การหาเสียงทำให้บรรยากาศเข้มข้นด้วยข้อกล่าวหาในการหาเสียงเพื่อให้ได้เดิมพันสูง คืออำนาจในการกุมบังเหียนรัฐบาล มีแต่จะเลวมาก เลวน้อย

ถ้าคำสัญญาในการหาเสียงของคนทุกรัฐบาลทำได้จริง บ้านเมืองคงไม่อยู่ในสภาพน่าสมเพชเวทนา ดูไร้อนาคต การทุจริตคอร์รัปชันลามไปทุกวงการอย่างนี้ แต่เป็นเพราะทุกกลุ่ม “มุ่งมาโกงทรัพย์สินแผ่นดิน” การทุจริตจึงครอบงำประเทศหนัก

แม้กระทั่งเขียนรัฐธรรมนูญ คนเขียนตอบไม่ได้ว่าที่เขียนไปบางข้อเกิดปัญหาก็ตอบไม่ได้ว่าหมายความอย่างไร ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้อยู่ร่วมในกระบวนการร่าง เป็นฝ่ายตีความ เป็นความพิลึกกึกกือของความไร้มาตรฐาน

เพราะการมุ่งรักษาอำนาจและผลประโยชน์ ทำให้การเขียนรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบต่างๆ เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาว่าหมกเม็ดซ่อนเกม วางกับดัก ค่ายกล ผลสุดท้ายเมื่อมีปัจจัยแปรผันทำให้พวกนักเล็งผลเลิศติดอยู่ในกับดักของตัวเอง

แค่วันเลือกตั้ง ชาวบ้านและคนหาเสียงก็ยังไม่รู้ชัด ทั้งๆ ที่เริ่มหว่านเงินหาคะแนนเสียงไม่แน่นอน จนกระทั่งมีคนสงสัยหนักแล้วว่าน่าจะยังไม่มีในเร็ววันนี้

ถ้าเป็นจริง ขอเวลาสำหรับปรับปฏิรูปประเทศก่อน และขอคณะใหม่ด้วยนะ!
กำลังโหลดความคิดเห็น