**ถ้าหากเป็นรายงานข่าวไม่ผิดพลาด อีกไม่นานก็คงจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของ "โอ๊ค" นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ นายทักษิณ ชินวัตร ว่าเวลานี้เขายังอยู่ในประเทศ หรือไม่ เพราะตามข่าวดังกล่าวบอกว่า เขากำลังจะเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของน้องสาวคนเล็ก คือ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ของจีน แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่เรื่องแบบนี้สามารถปะติดปะต่อ เชื่อมโยงทำให้เกิดภาพที่เข้าใจได้ไม่ยาก
หากพิจารณาจากแบ็กกราวด์ และความเคลื่อนไหวของ นายพานทองแท้ ชินวัตร เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากมีเพจของสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่ง โพสต์ข้อความในโลกโซเชียลฯ ตั้งข้อสังเกตแบบมั่นใจว่า "โอ๊ค ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว" หลังจากก่อนหน้านั้นไม่นาน ก็มีรายงานว่า "อาแดง" หรือ "เจ๊แดง" นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนาย ทักษิณ ชินวัตร อีกคนหนึ่ง ก็ได้เดินทางออกนอกประเทศไปก่อนแล้ว หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวจาก ฝ่ายทางการว่าจะมีการขุดคุ้ย ดำเนินคดีในเรื่องการทุจริตจากโครงการรับจำนำข้าวล็อตสอง
ขณะเดียวกัน สำหรับ นายพานทองแท้ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการตอบโต้ในแบบเยาะเย้ย โพสต์ภาพอยู่ตรงอักษรภาษาอังกฤษว่า เอ็กซิท หรือ"ทางออก" ผ่านทางโลกโซเชียลฯ ตามมา แต่ถึงอย่างไรก็ทำให้ไม่หายข้องใจว่า เขายังอยู่ในประเทศ หรืออยู่ต่างประเทศกันแน่ เพราะหลังจากนั้นเขาก็เงียบหาย ไม่มีความเคลื่อนไหวในทางสาธารณะให้เห็น มีเพียงการใช้สื่อโซเชียล วิจารณ์โจมตีบุคคลในรัฐบาลเป็นระยะ ซึ่งก็นั่นแหละ มีหลายคนยังกล่าวหาอีกว่า ไม่ใช่เขาเป็นคนโพสต์เอง แต่ให้คนอื่นดำเนินการให้ ซึ่งก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้
หากงานแต่งงานของ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร น้องสาวคนเล็กของเขาเกิดขึ้นในเร็ววันนี้จริง "โอ๊ค" ในฐานะพี่ชายคนโตคนเดียว ก็น่าจะต้องไปร่วมแสดงความยินดี หลังจากก่อนหน้านี้เธอได้พบรัก และมีการเปิดตัว "ว่าที่ลูกเขยคนเล็ก" ผ่านทางสื่อโซเชียลเมื่อหลายเดือนก่อน มีการพาไปแนะนำตัวกับ "ว่าที่พ่อตา" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และญาติใกล้ชิดแบบพร้อมหน้าพร้อมตา
แต่คำถาม และเป็นข้อพิสูจน์ก็คือ หากเขายังอยู่ในประเทศ นายพานทองแท้ ก็ต้องไปยื่นคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศเสียก่อน เนื่องจากเขาตกเป็นจำเลยในคดี "ฟอกเงิน" ที่ต่อเนื่องมาจากคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย โดยในเวลานี้ศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว แต่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตเสียก่อน
**เว้นเสียแต่ว่าเขาได้ออกไปแล้วตาม "ช่องทางธรรมชาติ" เท่านั้น เพราะจากข้อมูลจากฝ่ายทางการ เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รวมไปถึงผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็ยืนยันตรงกันว่า ไม่มีข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศ ผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่อย่างใด
ดังนั้น สิ่งที่ต้องพิสูจน์สำหรับ "โอ๊ค" นายพานทองแท้ ชินวัตร ก็คือ หนึ่ง หากมีงานแต่งงานดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในเร็วๆ นี้ ก็จะได้รู้กันว่า เขาจะมายื่นคำร้องต่อศาล ขอนุญาตเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ เพราะถ้ามายื่น นั่นก็หมายความว่ายังอยู่ ยังไม่หลบหนีไปไหน หรือ สอง ไม่มายื่น แต่ไปปรากฏตัวในงาน นั่นก็แสดงว่าหนีไปนานแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีคำถามตามมาอีกว่า หากไปแล้ว หรือได้รับอนุญาตให้ไปแล้ว เขาจะกลับมาหรือว่าจะไปลับเลยหรือไม่
เป็นคำถาม และมีการลุ้นกันอยู่ว่าจะหนีไปแบบ "ยกครัว" หรือไม่ แม้ว่าจะแยกมาพิจารณากันเฉพาะกรณีของ นายพานทองแท้ ชินวัตร ว่าคดีร่วมกันฟอกเงินจะยังอีกยาวไกล แต่จะว่าไปแล้ว สำหรับศาลอาญาคดีทุจริตฯ ก็ใช้เวลาพิจารณาคดีไม่นานนัก หากเปรียบเทียบกับศาลอาญาทั่วไป และใช้วิธีไต่สวนหาความจริงได้ด้วย
**แม้ว่าที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ได้ประกาศว่าเขาไม่ผิด และจะขอพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลจนถึงที่สุดก็ตาม แต่ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ก็ยืนยันแบบนี้ แต่ก็หนีก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา (เธอถูกพิพากษาจำคุก 5 ปี) และคราวนี้หากยังอยู่ในประเทศและขออนุญาตไปร่วมงานแต่งงานน้องสาวก็น่าจะมีโอกาสลุ้น เพียงแต่ว่าขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล !!
หากพิจารณาจากแบ็กกราวด์ และความเคลื่อนไหวของ นายพานทองแท้ ชินวัตร เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากมีเพจของสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่ง โพสต์ข้อความในโลกโซเชียลฯ ตั้งข้อสังเกตแบบมั่นใจว่า "โอ๊ค ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว" หลังจากก่อนหน้านั้นไม่นาน ก็มีรายงานว่า "อาแดง" หรือ "เจ๊แดง" นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนาย ทักษิณ ชินวัตร อีกคนหนึ่ง ก็ได้เดินทางออกนอกประเทศไปก่อนแล้ว หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวจาก ฝ่ายทางการว่าจะมีการขุดคุ้ย ดำเนินคดีในเรื่องการทุจริตจากโครงการรับจำนำข้าวล็อตสอง
ขณะเดียวกัน สำหรับ นายพานทองแท้ แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการตอบโต้ในแบบเยาะเย้ย โพสต์ภาพอยู่ตรงอักษรภาษาอังกฤษว่า เอ็กซิท หรือ"ทางออก" ผ่านทางโลกโซเชียลฯ ตามมา แต่ถึงอย่างไรก็ทำให้ไม่หายข้องใจว่า เขายังอยู่ในประเทศ หรืออยู่ต่างประเทศกันแน่ เพราะหลังจากนั้นเขาก็เงียบหาย ไม่มีความเคลื่อนไหวในทางสาธารณะให้เห็น มีเพียงการใช้สื่อโซเชียล วิจารณ์โจมตีบุคคลในรัฐบาลเป็นระยะ ซึ่งก็นั่นแหละ มีหลายคนยังกล่าวหาอีกว่า ไม่ใช่เขาเป็นคนโพสต์เอง แต่ให้คนอื่นดำเนินการให้ ซึ่งก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้
หากงานแต่งงานของ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร น้องสาวคนเล็กของเขาเกิดขึ้นในเร็ววันนี้จริง "โอ๊ค" ในฐานะพี่ชายคนโตคนเดียว ก็น่าจะต้องไปร่วมแสดงความยินดี หลังจากก่อนหน้านี้เธอได้พบรัก และมีการเปิดตัว "ว่าที่ลูกเขยคนเล็ก" ผ่านทางสื่อโซเชียลเมื่อหลายเดือนก่อน มีการพาไปแนะนำตัวกับ "ว่าที่พ่อตา" ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และญาติใกล้ชิดแบบพร้อมหน้าพร้อมตา
แต่คำถาม และเป็นข้อพิสูจน์ก็คือ หากเขายังอยู่ในประเทศ นายพานทองแท้ ก็ต้องไปยื่นคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศเสียก่อน เนื่องจากเขาตกเป็นจำเลยในคดี "ฟอกเงิน" ที่ต่อเนื่องมาจากคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย โดยในเวลานี้ศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว แต่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตเสียก่อน
**เว้นเสียแต่ว่าเขาได้ออกไปแล้วตาม "ช่องทางธรรมชาติ" เท่านั้น เพราะจากข้อมูลจากฝ่ายทางการ เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รวมไปถึงผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็ยืนยันตรงกันว่า ไม่มีข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศ ผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่อย่างใด
ดังนั้น สิ่งที่ต้องพิสูจน์สำหรับ "โอ๊ค" นายพานทองแท้ ชินวัตร ก็คือ หนึ่ง หากมีงานแต่งงานดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในเร็วๆ นี้ ก็จะได้รู้กันว่า เขาจะมายื่นคำร้องต่อศาล ขอนุญาตเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ เพราะถ้ามายื่น นั่นก็หมายความว่ายังอยู่ ยังไม่หลบหนีไปไหน หรือ สอง ไม่มายื่น แต่ไปปรากฏตัวในงาน นั่นก็แสดงว่าหนีไปนานแล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีคำถามตามมาอีกว่า หากไปแล้ว หรือได้รับอนุญาตให้ไปแล้ว เขาจะกลับมาหรือว่าจะไปลับเลยหรือไม่
เป็นคำถาม และมีการลุ้นกันอยู่ว่าจะหนีไปแบบ "ยกครัว" หรือไม่ แม้ว่าจะแยกมาพิจารณากันเฉพาะกรณีของ นายพานทองแท้ ชินวัตร ว่าคดีร่วมกันฟอกเงินจะยังอีกยาวไกล แต่จะว่าไปแล้ว สำหรับศาลอาญาคดีทุจริตฯ ก็ใช้เวลาพิจารณาคดีไม่นานนัก หากเปรียบเทียบกับศาลอาญาทั่วไป และใช้วิธีไต่สวนหาความจริงได้ด้วย
**แม้ว่าที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ได้ประกาศว่าเขาไม่ผิด และจะขอพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลจนถึงที่สุดก็ตาม แต่ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ก็ยืนยันแบบนี้ แต่ก็หนีก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา (เธอถูกพิพากษาจำคุก 5 ปี) และคราวนี้หากยังอยู่ในประเทศและขออนุญาตไปร่วมงานแต่งงานน้องสาวก็น่าจะมีโอกาสลุ้น เพียงแต่ว่าขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล !!