xs
xsm
sm
md
lg

หลัง"หย่อนบัตร"น่าเป็นห่วง ตั้งธงป่วน "โกงเลือกตั้ง" !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

** อาจเป็นเพราะอ่านเกมขาด มองเห็นความเคลื่อนไหวเอาไว้ล่วงหน้าแล้วก็ได้ อย่างน้อยก็คงมีทางการข่าว พอเริ่มเห็นความเคลื่อนไหว "บางอย่าง" อยู่บ้างก็ได้ ในลักษณะที่เห็นความผิดปกติ จนทำให้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้อง"เบรกเกมร้อน" ลงบ้าง ด้วยการประกาศย้ำว่า "ยังไม่ตัดสินใจ" ว่าจะตอบรับคำเชิญให้เข้าไปอยู่ในบัญชีเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของบางพรรคการเมืองหรือไม่ รวมไปถึงคำพูด "ปราม"บางพรรคห้ามนำชื่อของเขาไปหาเสียง โดยบอกว่าให้เคารพการตัดสินใจกันบ้าง
แต่ถึงอย่างไรก็ยังย้ำว่า "ยังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ" ในทางการเมือง โดยให้เหตุผลว่า ยังไม่ถึงเวลา ซึ่งท่าทีล่าสุดแบบนี้ของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากสังเกตให้ดี ก็อาจมองได้ว่านี่คือการ "เบรกเกม"ร้อน หรือ "เบี่ยงตัวหลบกระสุน" ออกไปก่อน เนื่องจากในช่วงเวลานี้ แทบจะทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าขั้วไหนเป็นขั้วไหน พรรคขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ต่างรุมถล่มพุ่งมาที่เขาคนเดียว ราวกับว่า ไม่ว่าใครก็ตามหากต้องการสร้างความจดจำก็ต้องพุ่งเป้าวิพากษ์วิจารณ์ หรือโจมตีเขาไว้ก่อน จนกลายเป็นว่ากำลังอยู่ใน "ตำบลกระสุนตก" อย่างรวดเร็ว
อีกด้านหนึ่งการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกรวมศูนย์ถล่มอย่างหนัก มันก็ย่อมมีเหตุผลอย่างแน่นอน เพราะว่าเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบ "รูปมวย" ด้วยกันกับฝ่ายตรงข้าม มาถึงนาทีนี้ พิจารณาจากผลสำรวจที่ออกมาเขาก็ยัง "นำห่าง"
ไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับ คนของพรรคเพื่อไทย ที่"รับงาน" ถือธงนำ คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานด้านยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค ก็ยังเป็นรอง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทย ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เพราะก่อนการเลือกตั้งทุกครั้งหากมองย้อนกลับไป เชื่อได้เลยว่าเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นต่อแบบลอยลำทุกครั้ง จนมีการประชดว่าแค่ส่ง "เสาไฟฟ้า" ลงไปก็ชนะแล้ว
แต่คราวนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เกิดปัญหาภายใน เพราะไม่ได้รับการยอมรับกันเอง เพราะสถานภาพของทุกคนในพรรคเพื่อไทย ล้วนมีสถานะแบบเดียวกันคือ ต่างก็เป็น "ลูกน้อง" หรือ "ลูกจ้าง" ผิดจากครั้งที่แล้ว ที่อย่างน้อยก็มี "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" คอยรับหน้าที่ "สายตรง" คุมเกม แต่เมื่อไม่มีใคร มันก็เลยแตกกระสานซ่านเซ็น อย่างที่เห็น
**ล่าสุดจะมีข่าวว่า มีความพยายามมาจาก "ดูไบ" ที่ "คนแดนไกล" คนนั้นจะมีความพยายามปรับกลยุทธ์ โดยอาจจะดัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ขึ้นมาชิงเก้าอี้นายกฯ แทนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่กระแสนิ่ง และภายในพรรคยังกระอักกระอ่วน ในเรื่องการนำ แต่หากมองอีกมุม ข่าวเรื่องการเปลี่ยนตัวดังกล่าวมันสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นรอง ยัง"ไม่ปัง" เหมือนทุกครั้ง
ขณะเดียวกัน ในมุมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในมุมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ถือว่าทำการบ้านมาดี ไม่ใช่หมูเหมือนกับ "เผด็จการ" ในอดีต รู้จักยืดหยุ่น ปรับตัว "ย้อนศร" ได้อย่างเจ็บแสบ แม้ว่าเวลนี้จะเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ก็ตาม เพราะอีกไม่นานก็จะชัดเจน แต่ก็สามารถย่อยสลายพรรคเพื่อไทย ย่อยสลายคนเสื้อแดงลงมาได้ ทำให้ "อ่อนแรง" จนแทบไม่มีพิษสงใดๆ อีกแล้ว
มองไปทางพรรคประชาธิปัตย์ ที่เวลานี้ภายใต้การนำของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ประกาศเป็น"ขั้วที่ 3" มีความหวังจะเป็น"ตัวแปร" แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็เหมือนกับยอมรับความพ่ายแพ้อยู่ในที เพราะสถานดังกล่าว ไม่ใช่พรรคแกนนำ แต่เป็นพรรครอเข้าร่วม หรืออย่างมากก็สร้าง "อำนาจต่อรอง" ได้บ้างเท่านั้น ไม่ใช่คู่ชิงนายกฯ
นี่คือรายชื่อและพรรคการเมือง ที่จะเข้าสู่บัญชีที่จะนำเสนอชื่อเป็นนายกฯในอนาคตอันใกล้อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และยังไม่นับรวม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะยังไม่ได้ประกาศท่าทีออกมาให้ชัดเจน ว่าจะ "ไปต่อแบบไหน" แต่ก็ถือว่ายัง "เป็นมวยหลัก" มีแต้มต่อกว่าใคร อีกทั้งนี่ขนาดยังไม่ได้ประกาศว่าจะไปต่อ ยังขนาดนี้ ถ้าเมื่อใดที่รับให้พรรคการเมืองขึ้นบัญชีนายกฯ ก็ยังน่าสนใจว่าจะมีเสียงสนับสนุนมากขนาดไหน ขณะเดียวกันอีกด้าหนึ่งก็ย่อมมีแรงต้านอย่างรุนแรงกลับมาเช่นกัน แต่ถึงอย่างไร มันก็เป็นธรรมชาติของการหาเสียงเลือกตั้ง เลี่ยงกันไม่ได้อยู่แล้ว
สิ่งที่น่าจับตากันก็คือ การ"สร้างกระแสป่วนหลังเลือกตั้ง" โดยตั้งธงไว้ล่วงหน้าว่า มีการ "โกงการเลือกตั้ง" โดยฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อต้องการให้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับมา"สืบทอดอำนาจ" เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ดังนั้น แนวโน้มหลังการเลือกตั้งน่าจะมีอยู่สองทางคือ "ชนะกับถูกโกง" นั่นคือ ถ้าหากพรรคการเมืองที่อยู่ในขั้วตรงข้ามกับ คสช. ซึ่งหากโฟกัสให้ตรงจุดก็คือ พรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้ง จนมีเสียง ส.ส. มากพอจากการรวมกับพรรคอื่นจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็อาจไม่มีปัญหา
แต่หากแพ้การเลือกตั้ง หรือชนะ แต่ได้เสียงไม่มากพอที่จะเป็นรัฐบาลได้ นั่นแหละ น่าจะมีปัญหาเสี่ยงที่จะป่วน โดยจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง อ้างว่า คสช.ใช้อำนาจรัฐโกงการเลือกตั้ง สร้างกระแสให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมา ซึ่งหากสังเกตก็จะพอเห็นการเคลื่อนไหวแบบนี้เลาๆ ให้เห็นบ้างแล้ว
สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า "แพ้ไม่ได้" เดิมพันจึงสูง เพราะค้องไม่ลืมว่า กว่า 4 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. เข้ามา มันทำให้ ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวเดือดร้อนขนาดไหน ต้องหนีคดีเร่ร่อนแบบหาทางกลับยาก ลองคิดดูเล่นๆ แล้วกันว่าหาก เขายังอยู่ต่อไป 4-5 ปี มันจะขนาดไหน
**ดังนั้น มันก็มองว่า แพ้ไม่ได้ แพ้คราวนี้ก็ลากยาว ถึงได้บอกว่าให้ระวังการตั้งธงป่วน เพราะงานนี้มีแต่ "ชนะกับถูกโกง" เท่านั้น !!
กำลังโหลดความคิดเห็น