ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ข่าวร้ายในข่าวดี!! ฉลุย กม.ยาเสพติดฯ ปลดล็อก“กัญชา-กระท่อม”ทางการแพทย์ แต่ไม่ยักจะเคลียร์ “สิทธิบัตรกัญชา”ที่ “ต่างชาติ”ยื่นขอไว้ให้เสร็จก่อน แปลกแต่จริง ขนาด“สนธิรัตน์”กระทุ้งเอง “กรมทรัพย์สินทางปัญญา”ยังนิ่ง ส่อ“เตะหมูเข้าปากหมา”ให้ “ต่างชาติ”ต่อยอดสิทธิบัตรที่คาอยู่ ได้เปรียบชาวบ้าน-คนไทย ระวังจะเดือดร้อนไปถึงพรรคการเมืองยี่ห้อรัฐบาลนี้ด้วย
ผ่านละจ้าาา .. ที่ประชุม สนช. ลงมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับแก้ไขปรับปรุง ด้วยคะแนนเสียงเอกฉักท์ 166 ต่อ 0 เสียง .. ขั้นต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการเพื่อประกาศบังคับใช้ต่อไป ส่วน“สาระสำคัญ”ไม่ต่างจากร่างที่รัฐบาลส่งมาแต่อย่างใด .. ประเด็นอยู่ที่การปลดล็อก“กัญชา - กระท่อม”ออกจากยาเสพติด ประเภท 5 เปิดทางให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์-รักษาโรค .. เฮ มาครั้งกันแล้ว เมื่อครม.ผ่านร่างกฎหมายนี้ออกมา มาถึงชั้น สนช. ก็เฮกันอีก แต่ “เฮ ไม่สุดเสียง” ..ด้วยใครก็รู้ว่าแนวทางปลดล็อก“กัญชา - กระท่อม”เป็น “ของดี”เช่นเดียวกับหลายชาติทั่วโลก จนหาเสียงคัดค้านแทบไม่มี .. แต่ก็ยังมี“ข้อห่วงใย”ออกมาจาก ภาคประชาสังคม-ภาคประชาชน อยู่พอสมควร ด้วยเกรงว่าการผ่านกฎหมายฉบับนี้ โดย“ไม่รอบคอบ” จะเข้าข่าย“เตะหมูเข้าปากหมา”.. กระนั้นก็ดี สนช. โดยเฉพาะ“เสี่ยเอ๋”สมชาย แสวงการ ประธานกมธ. พิจารณา ร่างกฎหมายฉบับนี้ ที่เติบโตมาจาก “ภาคประชาชน”ก็ไม่ยักจะนำพาเอาข้อห่วงใย ในการขอให้ชะลอการผ่านกฎหมาย เพื่อรอให้ทุกอย่างเคลียร์ชัดเจนซะก่อน .. ด้วยยังมีประเด็นพิพาท เกี่ยวกับ “การจดสิทธิบัตร”ที่มี “บริษัทต่างชาติ”มาจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับ“กัญชา”ค้างคากันอยู่ .. เคยเป็นประเด็นร้อนมาหน จน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ต้องออกโรงมาแก้ปมร้อนด้วยตัวเอง .. สั่งการ ทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ใช้อำนาจตาม มาตรา 30 ของ พ.ร.บ.สิทธิบัตรฯ ยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตร “สารสกัดจากกัญชา”ทั้งหมด ขีดเส้นด้วยว่า 7 วันรู้เรื่อง ..
แต่ปรากฏว่า ผ่านมาร่วมเดือน จนกฎหมายใกล้คลอด ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม“มูลนิธีชีววิถี”หรือ“ไบโอไทย”ที่เกาะติดเรื่องนี้มาตลอด ถึงกับขนานว่าเป็น “แหกตาประชาชน - ปาหี่ระดับชาติ”.. พร้อมกางใบเสร็จว่า คำขอสิทธิบัตร 3 คำขอเกี่ยวกับ “สารสกัดกัญชา”ของบริษัทต่างประเทศ จากเว็บไซต์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังไม่ได้ยกเลิกตามบัญชา รมว.พาณิชย์ แต่อย่างใด .. จนถึงบัดนี้ ก็ไร้คำตอบว่า ติดขัดเรื่องใด เพราะภาคประชาชน และ “สนธิรัตน์”เจ้ากระทรวงเอง ยันชัดว่า “อธิบดี”มีอำนาจตามกฎหมาย ยกเลิกได้ทันที .. ไม่แน่ใจว่ากระบวนการตอนนี้ถึงไหน ด้วยครั้งกะนู้น “สนธิ
รัตน์”พูดชัด 7 วัน เรียบร้อย สิ่งที่เกิดมันสะท้อน “ความไม่จริงใจ”ของภาครัฐ ต่อสิ่งที่ภาคประชาชนเรียกร้อง .. น่ากังวลไม่น้อยว่า หากไม่ยกเลิกคำขอสิทธิบัตร ที่จดไว้ล่วงหน้า หากกฎหมายมีผล ผู้จดก็จะเอาไป“ต่อยอด”สร้างความได้เปรียบ หากมีการเปิดให้ปลูก ทดลอง วิจัย กระทั่งการค้าเชิงพาณิชย์ .. น่ากังวลแทนรัฐบาล ครหาเรื่องนี้ขยายวงกว้างไปเรื่อย ผลกระทบไม่ได้มีเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ ที่กำลังจะลาโรง แต่มันยกระดับพัวพันไปถึงพรรคการเมือง ที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ด้วยนี่สิ .. .. ย้ำอีกทีว่า การปลดล็อกกัญชา หรือ กระท่อม ถือเป็น “ข่าวดี”ถือเป็น“ของขวัญปีใหม่”ให้คนไทย .. หากแต่ปล่อยปมสิทธิบัตร ให้คาราคาซัง มันจะเป็น“ข่าวร้าย-ฝันร้าย”ของคนไทยไปมากกว่าน่ะสิ
**ยังฟันไม่ลง!! ป.ป.ช.ชุดใหญ่นัดเคาะ“นาฬิกายืมเพื่อน”วันนี้ สะพัดตัดจบ “ไร้ความผิด”อุ้ม “พี่ป้อม”ของยืมคืนหมดแล้ว อาศัยเสียงพลุเคานต์ดาวน์กลบเรื่องไปในตัว อีกฝั่งดีดลูกคิด กระแสตีกลับ “เอาเปรียบ-สองมาตรฐาน”อาจยั้งมือ ต่อเวลา-สอบเพิ่มไปก่อน เลือกตั้ง-หาเสียง เสร็จค่อยว่ากันอีกรอบ
วันนี้แล้วสินะ .. ที่ “คดีนาฬิกายืมเพื่อน”ของ “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่คสช. จะถูกส่งเข้าที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช. หลังอนุฯ สรุปแล้วเสร็จ .. ฟังน้ำเสียง วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. เคยพูดเหมือนจะจบได้ หลังคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง ประสานขอข้อมูลจาก บริษัทผลิตและจำหน่ายนาฬิกาในต่างประเทศ เช็กว่าใครเป็นเจ้าของ ใครเป็นผู้ครอบครอง และใครเป็นผู้ซื้อ ได้หมดแล้ว .. แต่จะจบเลยหรือไม่ หลายคนไม่อยากหวัง เพราะว่ากันตรงๆ ภาษาชาวบ้าน งานมันยากเหมือนกันที่จะตามหาว่า ใครเป็นเจ้าของ ผู้ซื้อ และครอบครอง ให้ได้ครบทั้ง 20 กว่าเรือน ในเวลาอันรวดเร็ว .. อีกอย่างที่ผ่านมา ป.ป.ช. ยุค “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เด็กในเครือ บ้านใหญ่ ร.1”ก็ทำท่าเหมือนจะสรุปได้หลายรอบ แต่จนแล้วจนรอด “ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม”ตลอด .. ก็เลยเดาไม่ออก จะมาแนวไหน ครั้นจะตีตกไปเลยให้สิ้นเรื่องสิ้นราว มันก็สุ่มเสี่ยงจะเป็นประเด็นให้คนกลับมาสนใจเรื่องนาฬิกา “บิ๊กป้อม”จนต้องเป็น “หมู่บ้านกระสุนตก”อีก ..
ไม่เกินความคาดหมาย หากออกมาว่า “ไม่ผิด”ใช้โอกาสเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เสียงพลุ ตะไล กลบเรื่องไปอย่างเนียนๆ .. แต่ ป.ป.ช.ก็ต้องมี “คำอธิบายดีๆ”ชี้แจงให้เคลียร์ สิ้นกระแสสงสัย ไม่งั้นองค์กรเครดิตสูงอย่าง ป.ป.ช. อาจจะจบ เพราะ“สังคม”เขาไม่จบด้วย.. แล้วมันจะเป็นเรื่องเป็นราวในช่วงที่กำลังหาเสียงเลือกตั้ง แม้ “ลุงป้อม”ไม่เกี่ยวข้องแบบเป็นทางการกับ“พรรคพลังประชารัฐ”แต่กระแสมันกระทบชิ่งไปถึงกันเสมือนเป็น "เนื้อเดียว" เหมือนที่พรรคพลังประชารัฐทำอะไร มีผลต่อภาพลักษณ์หรือตัว “บิ๊กตู่”ตลอดทุกเรื่องนั่นแแล .. ดังนั้นโอกาสออกหน้า ยังชี้มูลไม่ได้-หาข้อมูลเพิ่ม ก็มีสูง ปล่อยให้ค้างเติ่งอยู่อย่างนี้ไปก่อน โดยอ้างว่า มีปัญหาและอุปสรรค นู่น นี่ นั่น เหมือนทุกครั้ง .. สู้ยืดออกไปอย่างน้อยโดนด่าว่า“เตะถ่วง” ดีกว่าบอกว่า ช่วยเหลือกันแบบน่าเกลียด โยงใยไปถึงสถานการณ์ในสนามหาเสียง ที่ตอนนี้กำลังลุยประเด็น “เอาเปรียบ-ได้เปรียบ”ไม่จบสิ้น .. แล้วยังต้องโดนเรื่อง “สองมาตรฐาน”ฝั่งตัวเองทำอะไรไม่ผิดอีก ดูจะเป็น “อภิสิทธิ์ชน” สู้โดนถากถางชั่ววูบชั่วคราว แป๊บเดียวหายในวันสองวันดีกว่า ฟันธงเบาๆ “ขยายเวลาออกไป”
**มัวแต่ (ปฏิ) ลูบๆ คลำๆ!! “ครม.ลุงตู่”ปล่อยร่างกฎหมายลอตใหญ่ ทิ้งทวน สนช. ที่เตรียมปิดกล่องไม่รับงานเพิ่มหลังปีใหม่ จับตากม.สำคัญ แก้ปม “ตำรวจ”ชั้นสอบสวน ที่ส่งต่อเป็นพิธี ผ่านไม่ผ่าน ก็อีกเรื่อง เหมือนร่าง ปฏิรูปโครงสร้าง “อาณาจักรปทุมวัน”ชุด "ปู่มีชัย" ก็ค้างเติ่ง เสร็จไม่ทัน ยื้อไปว่ากันใหม่รัฐบาลหน้า
หัวหกก้นขวิด .. พิจารณากฎหมายกันชนิดไฟลนก้น หลังเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งสุดท้ายของปี ที่ “ครม.ลุงตู่”ไฟเขียวกฎหมายไปร่วม 20 ฉบับ .. และ หากนับ 3 สัปดาห์หลังสุด “รัฐบาลประยุทธ์”เห็นชอบ และเตรียมจะส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทะลุไปถึง 50 ฉบับเลยทีเดียว .. มากเป็นประวัติการณ์ อย่างที่แทบจะไม่เคยปรากฏมาก่อน หลายฉบับเป็นกฎหมายที่รัฐบาลตั้งท่า อยู่ใน“วาระปฏิรูป” ง้างเท้าจะดันมาตั้งแต่ปี 2557 นู่น แต่เพิ่งจะมาเคาะกัน ในการประชุม ครม.ครั้งสุดท้ายของปี 2561 .. เรียกว่า ล่วงเลยมาแล้ว 5 ปี เหตุหนึ่งที่ต้องซอยยิกกันขนาดนี้ ก็เพราะว่า หลังจากมี พระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งออกมาหลังปีใหม่ แล้ว .. ส่งผลให้ สนช. ของ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานใหญ่ ปิดกล่อง งด “ปั๊มตรายาง”รับกฎหมายเพิ่มเติม .. เว้นกฎหมายที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ “รัฐบาลบิ๊กตู่”ขอมา หรือ กฎหมายที่มีความจำเป็น-ฉุกเฉิน เท่านั้น .. หลายคนยกมือเฮ เพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมานาน อย่างเช่น พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ให้เพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ .. งานนี้ ชายรักชาย หญิงรักหญิง มีสิทธิเท่าเทียม “บิ๊กตู่”ยิ้มหวาน ได้คะแนนไปเต็มเปา เจาะฐานเสียง LGBTกันล่วงหน้า .. เช่นเดียวกับเสียงเรียกร้องอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูป “ยุทธจักรสีกากี” ที่หนนี้ ครม.ก็ไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้ “อัยการ”เข้ามาร่วมแจมใน “ชั้นสอบสวน”ได้ .. เรื่อยไปถึงการกำหนดระยะเวลาส่งสำนวนสู่ชั้นศาล รวมไปถึงการไม่ต้องแจ้งความสถานีตำรวจที่เกิดเหตุเหมือนอดีต แต่สะดวกที่ไหน จัดไปได้เลย ..
แต่อย่าเพิ่งดีใจอะไรไป แม้จะได้ “กำขี้”ดีกว่า “กำตด”ได้เพิ่มอัยการเข้ามาในชั้นสอบสวน แต่เรื่องใหญ่ อย่างโครงสร้าง และพ.ร.บ.การสอบสวน คดีอาญา ที่ “มีชัย ฤชุพันธุ์”นั่งทำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญยังค้างเติ่งอยู่เลยจ้า .. ดูท่าฝันคงค้างกัน เพราะแช่ไว้นานผิดปกติ ขณะเดียวกัน ถ้ามีพ.ร.ฎ.การเลือกตั้งออกมา ในวันที่ 2 มกราคม 2562 ก็คงเข้า สนช.ไม่ทันการ ศิษย์น้องอย่าง วิษณุ เครืองาม ก็แบะท่าไว้ให้แล้วว่า คงไม่ทัน .. ด้วยประชุม ครม.นัดแรกปีหน้า ก็วันเดียวกันเลย ยกเว้น “ลุงตู่”จะบอกว่า มันด่วน แต่บอกบอกเลย “ยาก” ก็เล่น “ลูบๆคลำๆ”มาได้ตั้งเกือบ 5 ปี ด้วยรู้ว่าเป็น“ของร้อน”ใกล้ปรับโหมดเข้าเลือกตั้ง คงไม่นึกคึกขึ้นมากระทันหัน .. ยิ่งบางช่วงบางตอนที่ปล่อยออกมาก่อนหน้า มันขย่ม “อาณาจักรปทุมวัน”พอสมควร ขืนเดินเต็มสูบ ก็สุ่มเสี่ยงปลุกผี “ตำรวจมะเขือเทศ”ขึ้นมา ทีนี้ละก็ยุ่งตาย .. เช่นเดียวกับ ร่างกฎหมายให้ “อัยการ”มาแจมชั้นสอบสวนนั่นแหละ ถึงผ่าน ครม.ไปแล้ว แต่ในชั้นสนช. ก็อย่าเพิ่งหัวเราะดีใจ เพราะการพิจารณาต้องใช้เวลา เผลอๆไม่จบในสภานี้ .. เป็นแผนโยนขี้ให้ “สนช.”รับเคราะห์แทน อย่างน้อยพิจารณาไม่ทัน “ทั่นประยุทธ์”ก็บอก ครม.เห็นชอบไปนานแล้ว ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล ลูบๆ คลำๆ กันจนหมดเวลา
ช.ชฎา
+++++++
รูป
- สมชาย แสวงการ - สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ - ทศพล ทังสุบุตร
- พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ -พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
- พรเพชร วิชิตชลชัย - มีชัย ฤชุพันธุ์
** ข่าวร้ายในข่าวดี!! ฉลุย กม.ยาเสพติดฯ ปลดล็อก“กัญชา-กระท่อม”ทางการแพทย์ แต่ไม่ยักจะเคลียร์ “สิทธิบัตรกัญชา”ที่ “ต่างชาติ”ยื่นขอไว้ให้เสร็จก่อน แปลกแต่จริง ขนาด“สนธิรัตน์”กระทุ้งเอง “กรมทรัพย์สินทางปัญญา”ยังนิ่ง ส่อ“เตะหมูเข้าปากหมา”ให้ “ต่างชาติ”ต่อยอดสิทธิบัตรที่คาอยู่ ได้เปรียบชาวบ้าน-คนไทย ระวังจะเดือดร้อนไปถึงพรรคการเมืองยี่ห้อรัฐบาลนี้ด้วย
ผ่านละจ้าาา .. ที่ประชุม สนช. ลงมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับแก้ไขปรับปรุง ด้วยคะแนนเสียงเอกฉักท์ 166 ต่อ 0 เสียง .. ขั้นต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการเพื่อประกาศบังคับใช้ต่อไป ส่วน“สาระสำคัญ”ไม่ต่างจากร่างที่รัฐบาลส่งมาแต่อย่างใด .. ประเด็นอยู่ที่การปลดล็อก“กัญชา - กระท่อม”ออกจากยาเสพติด ประเภท 5 เปิดทางให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์-รักษาโรค .. เฮ มาครั้งกันแล้ว เมื่อครม.ผ่านร่างกฎหมายนี้ออกมา มาถึงชั้น สนช. ก็เฮกันอีก แต่ “เฮ ไม่สุดเสียง” ..ด้วยใครก็รู้ว่าแนวทางปลดล็อก“กัญชา - กระท่อม”เป็น “ของดี”เช่นเดียวกับหลายชาติทั่วโลก จนหาเสียงคัดค้านแทบไม่มี .. แต่ก็ยังมี“ข้อห่วงใย”ออกมาจาก ภาคประชาสังคม-ภาคประชาชน อยู่พอสมควร ด้วยเกรงว่าการผ่านกฎหมายฉบับนี้ โดย“ไม่รอบคอบ” จะเข้าข่าย“เตะหมูเข้าปากหมา”.. กระนั้นก็ดี สนช. โดยเฉพาะ“เสี่ยเอ๋”สมชาย แสวงการ ประธานกมธ. พิจารณา ร่างกฎหมายฉบับนี้ ที่เติบโตมาจาก “ภาคประชาชน”ก็ไม่ยักจะนำพาเอาข้อห่วงใย ในการขอให้ชะลอการผ่านกฎหมาย เพื่อรอให้ทุกอย่างเคลียร์ชัดเจนซะก่อน .. ด้วยยังมีประเด็นพิพาท เกี่ยวกับ “การจดสิทธิบัตร”ที่มี “บริษัทต่างชาติ”มาจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับ“กัญชา”ค้างคากันอยู่ .. เคยเป็นประเด็นร้อนมาหน จน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ต้องออกโรงมาแก้ปมร้อนด้วยตัวเอง .. สั่งการ ทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ใช้อำนาจตาม มาตรา 30 ของ พ.ร.บ.สิทธิบัตรฯ ยกเลิกคำขอจดสิทธิบัตร “สารสกัดจากกัญชา”ทั้งหมด ขีดเส้นด้วยว่า 7 วันรู้เรื่อง ..
แต่ปรากฏว่า ผ่านมาร่วมเดือน จนกฎหมายใกล้คลอด ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม“มูลนิธีชีววิถี”หรือ“ไบโอไทย”ที่เกาะติดเรื่องนี้มาตลอด ถึงกับขนานว่าเป็น “แหกตาประชาชน - ปาหี่ระดับชาติ”.. พร้อมกางใบเสร็จว่า คำขอสิทธิบัตร 3 คำขอเกี่ยวกับ “สารสกัดกัญชา”ของบริษัทต่างประเทศ จากเว็บไซต์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังไม่ได้ยกเลิกตามบัญชา รมว.พาณิชย์ แต่อย่างใด .. จนถึงบัดนี้ ก็ไร้คำตอบว่า ติดขัดเรื่องใด เพราะภาคประชาชน และ “สนธิรัตน์”เจ้ากระทรวงเอง ยันชัดว่า “อธิบดี”มีอำนาจตามกฎหมาย ยกเลิกได้ทันที .. ไม่แน่ใจว่ากระบวนการตอนนี้ถึงไหน ด้วยครั้งกะนู้น “สนธิ
รัตน์”พูดชัด 7 วัน เรียบร้อย สิ่งที่เกิดมันสะท้อน “ความไม่จริงใจ”ของภาครัฐ ต่อสิ่งที่ภาคประชาชนเรียกร้อง .. น่ากังวลไม่น้อยว่า หากไม่ยกเลิกคำขอสิทธิบัตร ที่จดไว้ล่วงหน้า หากกฎหมายมีผล ผู้จดก็จะเอาไป“ต่อยอด”สร้างความได้เปรียบ หากมีการเปิดให้ปลูก ทดลอง วิจัย กระทั่งการค้าเชิงพาณิชย์ .. น่ากังวลแทนรัฐบาล ครหาเรื่องนี้ขยายวงกว้างไปเรื่อย ผลกระทบไม่ได้มีเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ ที่กำลังจะลาโรง แต่มันยกระดับพัวพันไปถึงพรรคการเมือง ที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ด้วยนี่สิ .. .. ย้ำอีกทีว่า การปลดล็อกกัญชา หรือ กระท่อม ถือเป็น “ข่าวดี”ถือเป็น“ของขวัญปีใหม่”ให้คนไทย .. หากแต่ปล่อยปมสิทธิบัตร ให้คาราคาซัง มันจะเป็น“ข่าวร้าย-ฝันร้าย”ของคนไทยไปมากกว่าน่ะสิ
**ยังฟันไม่ลง!! ป.ป.ช.ชุดใหญ่นัดเคาะ“นาฬิกายืมเพื่อน”วันนี้ สะพัดตัดจบ “ไร้ความผิด”อุ้ม “พี่ป้อม”ของยืมคืนหมดแล้ว อาศัยเสียงพลุเคานต์ดาวน์กลบเรื่องไปในตัว อีกฝั่งดีดลูกคิด กระแสตีกลับ “เอาเปรียบ-สองมาตรฐาน”อาจยั้งมือ ต่อเวลา-สอบเพิ่มไปก่อน เลือกตั้ง-หาเสียง เสร็จค่อยว่ากันอีกรอบ
วันนี้แล้วสินะ .. ที่ “คดีนาฬิกายืมเพื่อน”ของ “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่คสช. จะถูกส่งเข้าที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช. หลังอนุฯ สรุปแล้วเสร็จ .. ฟังน้ำเสียง วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. เคยพูดเหมือนจะจบได้ หลังคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง ประสานขอข้อมูลจาก บริษัทผลิตและจำหน่ายนาฬิกาในต่างประเทศ เช็กว่าใครเป็นเจ้าของ ใครเป็นผู้ครอบครอง และใครเป็นผู้ซื้อ ได้หมดแล้ว .. แต่จะจบเลยหรือไม่ หลายคนไม่อยากหวัง เพราะว่ากันตรงๆ ภาษาชาวบ้าน งานมันยากเหมือนกันที่จะตามหาว่า ใครเป็นเจ้าของ ผู้ซื้อ และครอบครอง ให้ได้ครบทั้ง 20 กว่าเรือน ในเวลาอันรวดเร็ว .. อีกอย่างที่ผ่านมา ป.ป.ช. ยุค “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เด็กในเครือ บ้านใหญ่ ร.1”ก็ทำท่าเหมือนจะสรุปได้หลายรอบ แต่จนแล้วจนรอด “ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม”ตลอด .. ก็เลยเดาไม่ออก จะมาแนวไหน ครั้นจะตีตกไปเลยให้สิ้นเรื่องสิ้นราว มันก็สุ่มเสี่ยงจะเป็นประเด็นให้คนกลับมาสนใจเรื่องนาฬิกา “บิ๊กป้อม”จนต้องเป็น “หมู่บ้านกระสุนตก”อีก ..
ไม่เกินความคาดหมาย หากออกมาว่า “ไม่ผิด”ใช้โอกาสเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เสียงพลุ ตะไล กลบเรื่องไปอย่างเนียนๆ .. แต่ ป.ป.ช.ก็ต้องมี “คำอธิบายดีๆ”ชี้แจงให้เคลียร์ สิ้นกระแสสงสัย ไม่งั้นองค์กรเครดิตสูงอย่าง ป.ป.ช. อาจจะจบ เพราะ“สังคม”เขาไม่จบด้วย.. แล้วมันจะเป็นเรื่องเป็นราวในช่วงที่กำลังหาเสียงเลือกตั้ง แม้ “ลุงป้อม”ไม่เกี่ยวข้องแบบเป็นทางการกับ“พรรคพลังประชารัฐ”แต่กระแสมันกระทบชิ่งไปถึงกันเสมือนเป็น "เนื้อเดียว" เหมือนที่พรรคพลังประชารัฐทำอะไร มีผลต่อภาพลักษณ์หรือตัว “บิ๊กตู่”ตลอดทุกเรื่องนั่นแแล .. ดังนั้นโอกาสออกหน้า ยังชี้มูลไม่ได้-หาข้อมูลเพิ่ม ก็มีสูง ปล่อยให้ค้างเติ่งอยู่อย่างนี้ไปก่อน โดยอ้างว่า มีปัญหาและอุปสรรค นู่น นี่ นั่น เหมือนทุกครั้ง .. สู้ยืดออกไปอย่างน้อยโดนด่าว่า“เตะถ่วง” ดีกว่าบอกว่า ช่วยเหลือกันแบบน่าเกลียด โยงใยไปถึงสถานการณ์ในสนามหาเสียง ที่ตอนนี้กำลังลุยประเด็น “เอาเปรียบ-ได้เปรียบ”ไม่จบสิ้น .. แล้วยังต้องโดนเรื่อง “สองมาตรฐาน”ฝั่งตัวเองทำอะไรไม่ผิดอีก ดูจะเป็น “อภิสิทธิ์ชน” สู้โดนถากถางชั่ววูบชั่วคราว แป๊บเดียวหายในวันสองวันดีกว่า ฟันธงเบาๆ “ขยายเวลาออกไป”
**มัวแต่ (ปฏิ) ลูบๆ คลำๆ!! “ครม.ลุงตู่”ปล่อยร่างกฎหมายลอตใหญ่ ทิ้งทวน สนช. ที่เตรียมปิดกล่องไม่รับงานเพิ่มหลังปีใหม่ จับตากม.สำคัญ แก้ปม “ตำรวจ”ชั้นสอบสวน ที่ส่งต่อเป็นพิธี ผ่านไม่ผ่าน ก็อีกเรื่อง เหมือนร่าง ปฏิรูปโครงสร้าง “อาณาจักรปทุมวัน”ชุด "ปู่มีชัย" ก็ค้างเติ่ง เสร็จไม่ทัน ยื้อไปว่ากันใหม่รัฐบาลหน้า
หัวหกก้นขวิด .. พิจารณากฎหมายกันชนิดไฟลนก้น หลังเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งสุดท้ายของปี ที่ “ครม.ลุงตู่”ไฟเขียวกฎหมายไปร่วม 20 ฉบับ .. และ หากนับ 3 สัปดาห์หลังสุด “รัฐบาลประยุทธ์”เห็นชอบ และเตรียมจะส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทะลุไปถึง 50 ฉบับเลยทีเดียว .. มากเป็นประวัติการณ์ อย่างที่แทบจะไม่เคยปรากฏมาก่อน หลายฉบับเป็นกฎหมายที่รัฐบาลตั้งท่า อยู่ใน“วาระปฏิรูป” ง้างเท้าจะดันมาตั้งแต่ปี 2557 นู่น แต่เพิ่งจะมาเคาะกัน ในการประชุม ครม.ครั้งสุดท้ายของปี 2561 .. เรียกว่า ล่วงเลยมาแล้ว 5 ปี เหตุหนึ่งที่ต้องซอยยิกกันขนาดนี้ ก็เพราะว่า หลังจากมี พระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งออกมาหลังปีใหม่ แล้ว .. ส่งผลให้ สนช. ของ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานใหญ่ ปิดกล่อง งด “ปั๊มตรายาง”รับกฎหมายเพิ่มเติม .. เว้นกฎหมายที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ “รัฐบาลบิ๊กตู่”ขอมา หรือ กฎหมายที่มีความจำเป็น-ฉุกเฉิน เท่านั้น .. หลายคนยกมือเฮ เพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมานาน อย่างเช่น พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่ให้เพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ .. งานนี้ ชายรักชาย หญิงรักหญิง มีสิทธิเท่าเทียม “บิ๊กตู่”ยิ้มหวาน ได้คะแนนไปเต็มเปา เจาะฐานเสียง LGBTกันล่วงหน้า .. เช่นเดียวกับเสียงเรียกร้องอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงปฏิรูป “ยุทธจักรสีกากี” ที่หนนี้ ครม.ก็ไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้ “อัยการ”เข้ามาร่วมแจมใน “ชั้นสอบสวน”ได้ .. เรื่อยไปถึงการกำหนดระยะเวลาส่งสำนวนสู่ชั้นศาล รวมไปถึงการไม่ต้องแจ้งความสถานีตำรวจที่เกิดเหตุเหมือนอดีต แต่สะดวกที่ไหน จัดไปได้เลย ..
แต่อย่าเพิ่งดีใจอะไรไป แม้จะได้ “กำขี้”ดีกว่า “กำตด”ได้เพิ่มอัยการเข้ามาในชั้นสอบสวน แต่เรื่องใหญ่ อย่างโครงสร้าง และพ.ร.บ.การสอบสวน คดีอาญา ที่ “มีชัย ฤชุพันธุ์”นั่งทำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญยังค้างเติ่งอยู่เลยจ้า .. ดูท่าฝันคงค้างกัน เพราะแช่ไว้นานผิดปกติ ขณะเดียวกัน ถ้ามีพ.ร.ฎ.การเลือกตั้งออกมา ในวันที่ 2 มกราคม 2562 ก็คงเข้า สนช.ไม่ทันการ ศิษย์น้องอย่าง วิษณุ เครืองาม ก็แบะท่าไว้ให้แล้วว่า คงไม่ทัน .. ด้วยประชุม ครม.นัดแรกปีหน้า ก็วันเดียวกันเลย ยกเว้น “ลุงตู่”จะบอกว่า มันด่วน แต่บอกบอกเลย “ยาก” ก็เล่น “ลูบๆคลำๆ”มาได้ตั้งเกือบ 5 ปี ด้วยรู้ว่าเป็น“ของร้อน”ใกล้ปรับโหมดเข้าเลือกตั้ง คงไม่นึกคึกขึ้นมากระทันหัน .. ยิ่งบางช่วงบางตอนที่ปล่อยออกมาก่อนหน้า มันขย่ม “อาณาจักรปทุมวัน”พอสมควร ขืนเดินเต็มสูบ ก็สุ่มเสี่ยงปลุกผี “ตำรวจมะเขือเทศ”ขึ้นมา ทีนี้ละก็ยุ่งตาย .. เช่นเดียวกับ ร่างกฎหมายให้ “อัยการ”มาแจมชั้นสอบสวนนั่นแหละ ถึงผ่าน ครม.ไปแล้ว แต่ในชั้นสนช. ก็อย่าเพิ่งหัวเราะดีใจ เพราะการพิจารณาต้องใช้เวลา เผลอๆไม่จบในสภานี้ .. เป็นแผนโยนขี้ให้ “สนช.”รับเคราะห์แทน อย่างน้อยพิจารณาไม่ทัน “ทั่นประยุทธ์”ก็บอก ครม.เห็นชอบไปนานแล้ว ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล ลูบๆ คลำๆ กันจนหมดเวลา
ช.ชฎา
+++++++
รูป
- สมชาย แสวงการ - สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ - ทศพล ทังสุบุตร
- พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ -พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
- พรเพชร วิชิตชลชัย - มีชัย ฤชุพันธุ์