xs
xsm
sm
md
lg

อัดรัฐกลับลำ"ภาษีลาภลอย" จับตาเอื้อกลุ่มทุนใหญ่อสังหาฯ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"อลงกรณ์" ข้องใจ ถามจุดยืน ครม. จะปฏิรูปภาษีเพื่อความเป็นธรรมหรือเอื้อกลุ่มทุนใหญ่อสังหาริมทรัพย์ หลัง ก.คลัง กลับลำกลางคัน ร่าง ภาษีลาภลอย

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวถึงกรณี ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยืนยัน จะไม่ผลักดันกม.ภาษีลาภลอย (windfall gain tax)ในชั้นการพิจารณาของ คณะกรรมการกฤษฎีกา ทำให้แปลกใจว่า เหตุใด สศค.จึงกลับลำกลางคัน เหมือนโดนยาสั่ง ทั้งที่ครม. มีมติ เมื่อวันที่ 10ก.ค.61 อนุมัติในหลักการ ร่างพ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ... หรือ "ภาษีลาภลอย" โดยให้เหตุผลว่า ต้องการสร้างความเป็นธรรมระหว่างผู้ได้รับประโยชน์กับรัฐที่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรายได้จากภาษีตรงนี้ ทำให้รัฐสามารถนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมได้ จึงขอถามรัฐบาลว่า จะเดินหน้าออกกม.ภาษีลาภลอยต่อไปหรือไม่ และถ้ากลับลำ ด้วยเหตุผลอะไร

"การยกเลิกการตรากฎหมายภาษีลาภลอยกลางคัน จะถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับทุนใหญ่ ด้านอสังหาริมทรัพย์และนักการเมือง หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่กว้านซื้อที่ดินล่วงหน้าในราคาถูก และขายต่อในราคาแพง หรือทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ขายได้ราคาสูง และได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่น เพราะต้นทุนต่ำกว่า และยังได้เปรียบประเทศ คือไม่ต้องเสียภาษีลาภลอยทั้งที่รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด"

ทั้งนี้ "ภาษีลาภลอย" เป็นการจัดเก็บภาษีจากเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการลงทุนของรัฐ เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้า รถไฟ ทางหลวง ท่าเรือ สนามบิน และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้ที่ดินหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่รอบข้างมีมูลค่าสูงขึ้น เปรียบเสมือน "ลาภลอย" จากการลงทุนของรัฐ ที่ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน

การจัดเก็บภาษีลาภลอย มีบังคับใช้ในต่างประเทศนานแล้ว ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส โปแลนด์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา เพื่อนำเงินส่วนนี้มาพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ที่ต้องใช้เงินในการลงทุนเป็นจำนวนมาก เป็นการขยายฐานภาษีที่เป็นธรรมต่อคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการปฏิรูประบบภาษีให้ทันสมัย

สำหรับร่างกม.ภาษีลาภลอย ที่ผ่านครม.กำหนดให้ผู้ที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีได้แก่ ผู้ขายที่ดิน หรือห้องชุดที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินเชิงพาณิชย์ มูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของห้องชุดรอจำหน่าย ซึ่งอยู่รอบพื้นที่ที่มีโครงการพัฒนาของรัฐโดยมีการจัดเก็บภาษีลาภลอย 3 รูปแบบ คือ

1. เก็บระหว่างดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยกรมที่ดินจัดเก็บจากการขาย หรือเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรือห้องชุดทุกครั้ง ทั้งนี้ การเปลี่ยนมือไม่ใช่เป็นลักษณะการโอนมรดก ซึ่งกรณีการโอนมรดกนั้น จะเข้าข่ายการเสียภาษีมรดกแทน

2. เก็บเมื่อดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จแล้ว ซึ่งจะเก็บจากที่ดินหรือห้องชุดที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ส่วนนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เจ้าของพื้นที่เป็นผู้จัดเก็บ

3. การจัดเก็บภาษีจะมีผลเฉพาะกับโครงการที่เกิดขึ้นใหม่เท่านั้น

ทั้งนี้ ยกเว้นให้กับที่ดินที่ใช้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และที่ดินทำเกษตรกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น