"พปชร." เดินสายลงใต้ที่ สงขลา ประกาศเข็น 2 เมกะโปรเจกต์ "ไทยแลนด์ ริเวียร่า-ด้ามขวาน 4.0" พลิกฟื้นชีวิตชาวใต้ พัฒนาเศรษฐกิจ โตเป็น 2 เท่าใน 4 ปี "กอบศักดิ์" ลุยพัทลุง ขอโอกาสเลือดใหม่ ก้าวข้ามขัดแย้ง ผลักดันนโยบาย "ประชาชนคิด พลังประชารัฐลงมือทำ" แก้ปัญหาราคายางพารา สร้างธนาคารต้นไม้
เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (16ธ.ค.) ที่ตลาดพ่อพรหม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้นำคณะทำงานพรรคฯ อาทิ นายศาตรา ศรีปาน และนายพยม พรหมเพชร เข้าพบปะและแนะนำตัวกับ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนในพื้นที่ ที่ออกมาจับจ่ายซื้อของในตลาดพ่อพรหม ซึ่งเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ ที่มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายซื้อของสดอย่างหนาแน่น โดยทีมงานพรรค พปชร. ได้เข้าแนะนำตัว และนโยบายพรรค ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยมีพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนเข้ามารุมขอถ่ายภาพกับดร.สุวิทย์ กันอย่างคึกคัก พร้อมกันนี้ยังได้ให้ดร.สุวิทย์ ชิมอาหาร และขนมพื้นถิ่น อย่างเป็นกันเอง
จากนั้นคณะนายสุวิทย์ ได้เดินทางไปยัง อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อร่วมงานเมาลิด และพบปะกับประชาชนในพื้นที่ โดยได้พบกับผู้นำศาสนา ประชาชน และกลุ่มวิชาชีพประมงชายฝั่ง โดยมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 1 พันคน ดร.สุวิทย์ กล่าวกับประชาชนในพื้นที่โดยได้เน้นถึงความสำคัญของพื้นที่ภาคใต้ ที่เป็นจุดสำคัญในการเชื่อมโยงประเทศในอาเซียน ทั้งเหนือ และใต้ นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายทางชีวภาพ และวัฒนธรรมที่เป็นจุดเด่น ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อีกมาก โดยพรรคพลังประชารัฐ ตั้งใจที่จะพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ให้โตขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า ใน 4 ปีข้างหน้า โดยเริ่มจาก"โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า" ในภาคใต้ตอนบน และ"โครงการด้ามขวาน 4.0" ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง พร้อมทั้งสร้างอัตลักษณ์ของจังหวัด เพื่อดึงดูดธุรกิจและการท่องเที่ยว โดยใช้จุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ให้มีศักยภาพทางการศึกษาและเรียนรู้ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ห่างไกลยาเสพติด
ดร.สุวิทย์ กล่าวด้วยว่า จ.สงขลา และจังหวัดภาคใต้ โดยรวมเป็นเมืองที่มีบรรยากาศน่ารัก เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก การเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และความหลากหลายของสินค้าเกษตร ควรที่จะได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยสะท้อนได้จากสินค้าที่มีขายในตลาดนั้น มีทั้งสินค้าฮาลาล และเขียงเนื้อหมู รวมถึงพืชท้องถิ่น ที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมี ติ่มซำมุสลิม สะท้อนให้เห็นถึงการหลอมรวมวัฒนธรรมที่น่าสนใจและควรสนับสนุน สามารถนำมาสร้างเป็นอัตลักษณ์เฉพาะพื้นที่ได้
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ลงพื้นที่ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กลุ่มทอผ้านิคมลานข้อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง รับฟังข้อเสนอพี่น้องประชาชน เรื่อง กลุ่มออมทรัพย์ ยางพารา และกลุ่มทอผ้า โดยกลุ่มออมทรัพย์ อยากให้มีกฏหมายรองรับเป็นนิติบุคคลเพราะจะได้ช่วยชุมชนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งนายกอบศักดิ์ ได้แจ้งว่าได้ผลักดันกฎหมายฉบับนี้มาใกล้ถึงฝั่งมากแล้ว กฎหมายจะเข้าสู่สภา ในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งจะช่วยให้ชาวบ้านสามารถมีธนาคารของชุมชน สวัสดิการของชุมชน ที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
นายกอบศักดิ์ ยังได้หารือร่วมกับกลุ่มสวนยางพารา และเห็นตรงกันว่าการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้ายางสำคัญมาก ในอนาคตต้องมีกระบวนการให้อุตสาหกรรมและนักวิจัยทำงานใกล้ชิดกับชุมชนเพิ่มขึ้นอีก เพื่อลดต้นทุน ยกระดับการกรีด เก็บยางพารา รวมทั้งการแปรรูปและยกระดับมูลค่าสินค้าส่งออกยาง เช่น การผลิตยางรถยนต์ในประเทศไทย การผลิตหมอนยางพารา ที่นอนยางพารา ผลิตภัณฑ์จากยางพารา
นอกจากนี้ ยังได้แนะนำชุมชนเรื่องธนาคารต้นไม้ และ การแก้ไขกฏหมาย ให้ตัดไม้มีค่าในพื้นที่กรรมสิทธิ์ของเราได้ ที่เป็นโอกาสของชุมชนในการออมและปลูกต้นไม้ยืนต้นมีค่า เช่น พยุง สัก ยางนา ยางป่า เทพทาโร แซมต้นยาง อีกทั้งยังรับทราบข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะของผู้กรีดยางและชาวสวนยางที่มีพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ที่ยังมีอุปสรรคในการรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล