"สมคิด" ควง"อุตตม" ตรวจงาน ธพว. วางเป้าหมายร่วมก.อุตฯปี 2562 หนุน “เอสเอ็มอี”ให้เข้าถึงระบบการค้าออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซ 6 แสนราย พร้อมเตรียมเสนอครม.18 ธ.ค.นี้มอบเป็นของขวัญปีใหม่จาก ธพว. 2 โครงการอัดสินเชื่อรวม 1.18 หมื่นลบ. "อุตตม" ถกวันนี้(6ธ.ค.)หามาตรการกระทรวงอุตฯเป็นของขวัญมอบให้ภาคอุตสาหกรรมทุกขนาด
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมการทำงานของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (ธพว.) พร้อมด้วย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า ได้มอบหมายให้ ธพว.ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายปี 2562 ที่จะพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) จำนวน 600,000 แสนรายจากเอสเอ็มอีที่มีทั่วประเทศ 3 ล้านรายให้เข้าถึงการค้าขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ตหรือออนไลน์(อีคอมเมิร์ซ) เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลควบคู่ไปกับการดูแลในเรื่องของสินเชื่อให้เข้าถึงเอสเอ็มอีและคนตัวเล็กมากขึ้นซึ่ง ธพว.จะนำเสนอเข้าสู่ครม. 18 ธ.ค.ให้พิจารณา 2 โครงการ
"ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก ตัวอย่างการส่งพัสดุของเคอร์รี่(Kerry) ที่เคยส่งพัสดุสินค้าวันละ 70,000-80,000 ชิ้น แต่ปัจจุบันสามารถส่งได้วันละ 1 ล้านชิ้น เอสเอ็มอีเราต้องปรับตัวยิ่งร้านโชว์ห่วย ร้านค้าทั่วไปที่กำลังซบเซา ไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบจะลำบาก ต้องทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมนำเอาสินค้าจากโรงงานต้นทุนต่ำไปช่วยด้วย ธพว.จะต้องมองในเรื่องนี้เพื่อปรับกระบวนการทำงานที่จะทำให้เอสเอ็มอีของไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลให้ได้ "นายสมคิดกล่าว
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่า วันนี้( 7 ธ.ค.)กระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงฯรวมถึงการหารือถึงการมอบของขวัญปีใหม่ 2562 ให้กับผู้ประกอบการทุกขนาดเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจรวันที่13 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมครม.วันที่ 18 ธ.ค.กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอครม.เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเอสเอ็มอีและคนตัวเล็กที่เป็นมาตรการของธพว.เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการประชารัฐเสริมแกร่งการค้าชุมชนหรือโชว์ห่วยประชารัฐวงเงิน 10,000ล้านบาท และ 2. โครงการประชารัฐสร้างโอกาสคนตัวเล็ก ล้มแล้วลุก กรอบวงเงิน 1,800 ล้านบาท
" การทำงานร่วมกับธพว.เรามองใน 2 มิติ โดยมิติแรกคือเชิงพื้นที่ที่วันนี้ธพว.มีรถม้าเติมทุนบริการสินเชื่อถึงที่ ซึ่งขณะนี้มี 600 คัน ในช่วงปีใหม่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2562 จะเพิ่มเป็น 1,000 คัน เพื่อเข้าถึงเอสเอ็มอีมากขึ้นและจะทำงานใกล้ชิดกับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต(ITC)ที่จะมีครบ 77 จังหวัดในเดือนก.พ. 62 มิติที่ 2 บทบาทของธพว.ที่จะมุ่งสูงดิจิทัลด้วยการสร้างให้เกิดคนตัวเล็ก เสริมให้เก่ง เช่น ร้านโชว์ห่วยประชารัฐและซ่อมให้แกร่ง"นายอุตตมกล่าว
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว.หรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า โครงการโชว์ห่วยประชารัฐวงเงิน 10,000 ล้านบาทเป็นแหล่งทุนจากโครงการเดิมที่มีอยู่มีเป้าหมายที่เป็นเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการค้าปลีก บริการและผลิตภัณฑ์เกษตร ที่ไม่เป็นเอ็นพีแอล กลุ่มเป้าหมาย 10,000 ราย วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาให้เงินกู้ 7 ปีปลอดเงินต้นไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย0.25-0.42% เมื่อผ่านครม.แล้วโครงการนี้จะเดินหน้าได้ทันที
ส่วนโครงการประชารัฐสร้างโอกาสคนตัวเล็ก ล้มแล้วลุก กรอบวงเงิน 1,800 ล้านบาทเป็นเงินส่วนที่เหลือจากงบประมาณเดิมของโครงการพลิกฟื้นลาตรการฟื้นฟูเอสเอ็มอีของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(สสว.) เป้าหมายช่วยเอสเอ็มอีรายเล็กที่เป็นเอ็นพีแอลโดยเฉพาะหนี้บัตรรูดเงินสดโดยจะปล่อยกู้ไม่เกินรายละ 100,000 บาทไม่คิดดอกเบี้ยและไม่มีหลักประกัน เป้าหมาย 30,000รายซึ่งหลังผ่านครม.อาจจะต้องรอเกณฑ์เงื่อนไขปฏิบัติจากสสว.โดยอาจจะเริ่มได้ม.ค.62
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมการทำงานของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (ธพว.) พร้อมด้วย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า ได้มอบหมายให้ ธพว.ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายปี 2562 ที่จะพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) จำนวน 600,000 แสนรายจากเอสเอ็มอีที่มีทั่วประเทศ 3 ล้านรายให้เข้าถึงการค้าขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ตหรือออนไลน์(อีคอมเมิร์ซ) เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลควบคู่ไปกับการดูแลในเรื่องของสินเชื่อให้เข้าถึงเอสเอ็มอีและคนตัวเล็กมากขึ้นซึ่ง ธพว.จะนำเสนอเข้าสู่ครม. 18 ธ.ค.ให้พิจารณา 2 โครงการ
"ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก ตัวอย่างการส่งพัสดุของเคอร์รี่(Kerry) ที่เคยส่งพัสดุสินค้าวันละ 70,000-80,000 ชิ้น แต่ปัจจุบันสามารถส่งได้วันละ 1 ล้านชิ้น เอสเอ็มอีเราต้องปรับตัวยิ่งร้านโชว์ห่วย ร้านค้าทั่วไปที่กำลังซบเซา ไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบจะลำบาก ต้องทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมนำเอาสินค้าจากโรงงานต้นทุนต่ำไปช่วยด้วย ธพว.จะต้องมองในเรื่องนี้เพื่อปรับกระบวนการทำงานที่จะทำให้เอสเอ็มอีของไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัลให้ได้ "นายสมคิดกล่าว
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่า วันนี้( 7 ธ.ค.)กระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงฯรวมถึงการหารือถึงการมอบของขวัญปีใหม่ 2562 ให้กับผู้ประกอบการทุกขนาดเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจรวันที่13 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมครม.วันที่ 18 ธ.ค.กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอครม.เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเอสเอ็มอีและคนตัวเล็กที่เป็นมาตรการของธพว.เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการประชารัฐเสริมแกร่งการค้าชุมชนหรือโชว์ห่วยประชารัฐวงเงิน 10,000ล้านบาท และ 2. โครงการประชารัฐสร้างโอกาสคนตัวเล็ก ล้มแล้วลุก กรอบวงเงิน 1,800 ล้านบาท
" การทำงานร่วมกับธพว.เรามองใน 2 มิติ โดยมิติแรกคือเชิงพื้นที่ที่วันนี้ธพว.มีรถม้าเติมทุนบริการสินเชื่อถึงที่ ซึ่งขณะนี้มี 600 คัน ในช่วงปีใหม่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2562 จะเพิ่มเป็น 1,000 คัน เพื่อเข้าถึงเอสเอ็มอีมากขึ้นและจะทำงานใกล้ชิดกับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต(ITC)ที่จะมีครบ 77 จังหวัดในเดือนก.พ. 62 มิติที่ 2 บทบาทของธพว.ที่จะมุ่งสูงดิจิทัลด้วยการสร้างให้เกิดคนตัวเล็ก เสริมให้เก่ง เช่น ร้านโชว์ห่วยประชารัฐและซ่อมให้แกร่ง"นายอุตตมกล่าว
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว.หรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า โครงการโชว์ห่วยประชารัฐวงเงิน 10,000 ล้านบาทเป็นแหล่งทุนจากโครงการเดิมที่มีอยู่มีเป้าหมายที่เป็นเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการค้าปลีก บริการและผลิตภัณฑ์เกษตร ที่ไม่เป็นเอ็นพีแอล กลุ่มเป้าหมาย 10,000 ราย วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาให้เงินกู้ 7 ปีปลอดเงินต้นไม่เกิน 1 ปี ดอกเบี้ย0.25-0.42% เมื่อผ่านครม.แล้วโครงการนี้จะเดินหน้าได้ทันที
ส่วนโครงการประชารัฐสร้างโอกาสคนตัวเล็ก ล้มแล้วลุก กรอบวงเงิน 1,800 ล้านบาทเป็นเงินส่วนที่เหลือจากงบประมาณเดิมของโครงการพลิกฟื้นลาตรการฟื้นฟูเอสเอ็มอีของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(สสว.) เป้าหมายช่วยเอสเอ็มอีรายเล็กที่เป็นเอ็นพีแอลโดยเฉพาะหนี้บัตรรูดเงินสดโดยจะปล่อยกู้ไม่เกินรายละ 100,000 บาทไม่คิดดอกเบี้ยและไม่มีหลักประกัน เป้าหมาย 30,000รายซึ่งหลังผ่านครม.อาจจะต้องรอเกณฑ์เงื่อนไขปฏิบัติจากสสว.โดยอาจจะเริ่มได้ม.ค.62