xs
xsm
sm
md
lg

ภาพชัด"บิ๊กตู่"นายกฯลูกอีสาน พลัง"ก๊อกสอง"หนุนเข้าวิน !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สำหรับกลยุทธิ์ของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่จะใช้การ "สร้างกระแส" หลัก เพื่อผลักดันให้กลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีกรอบหลังการเลือกตั้งในปีหน้า
หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ รวมไปถึงลีลาท่าทางก่อนหน้า ก็ทำให้เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่า น่าจะมีการใช้แนวทาง "นายกฯลูกอีสาน" เป็นจุดขาย หรือสร้างกระแสให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ค่อนข้างแน่
สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นมีพื้นเพเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา โดยตามประวัติพบว่า บิดาเป็นคนโคราช จากนั้นเขาย้ายตามบิดาที่ไปรับราชการทหารที่จังหวัดลพบุรี โดยเรียนชั้นประถมที่นั่น ซึ่งขณะที่ไปตรวจราชการ และลงพื้นที่จังหวัดลพบุรีก่อนหน้านี้ เขาก็ได้พบกับเพื่อนๆ ในชั้นเรียนที่ยังมีชีวิตอยู่หลายคน จากนั้นก็ย้ายตามบิดามาเรียนหนังสือชั้นมัธยมฯ ในกรุงเทพฯ ที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ และโรงเรียนนายร้อย จปร. ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี นั่นเป็นพื้นเพ "คนอีสาน"ในสายของพ่อที่เป็นคนโคราชโดยกำเนิด แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่จังหวัดชัยภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เปิดเผยให้ทราบว่า "บ้านเกิดของแม่" อยู่ที่ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เวลานี้ก็ยังมีญาติพี่น้องอยู่ที่นั่นจำนวนมาก ดังนั้น จากข้อมูลดังกล่าวนี้ ทำให้ "บิ๊กตู่" เป็นลูกอีสานเต็มขั้น
ขณะเดียวกัน ในทางการเมืองก็ต้องบอกว่านี่คือผลบวกในการสร้างกระแสได้ไม่ยาก เพราะที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคการเมือง หรือผู้นำทางการเมืองพยายามที่จะผูกมิตรกับพี่น้องชาวอีสานอยู่ตลอดเวลา แต่ส่วนใหญ่มักไม่ใช่สายเลือดขนานแท้ บางคนแค่มาทำธุรกิจจนร่ำรวย แต่ไม่ใช่พื้นเพเดิม
สำหรับพื้นที่ในภาคอีสานในทางการเมืองถือว่าเป็นตัวชี้ขาด เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ มีจำนวน ส.ส.มากที่สุด โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าในการแบ่งเขตใหม่จะมีการลดจำนวนเขตลง ทำให้มีจำนวน ส.ส.เหลือ 116 ลดลงไปจากเดิม 10 คนก็ตาม แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทุกภาคแล้ว พื้นที่อีสานยังเป็นพื้นที่หลักเช่นเดิม
นั่นคือ หากพรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้งได้จำนวนมากที่สุดก็มีแนวโน้มสูง ที่จะได้ ส.ส.จำนวนมากที่สุดทั้งประเทศด้วย ซึ่งที่ผ่านมา พื้นที่แถบนี้เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคในเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่พรรคไทนรักไทย เรื่อยมาจนถึง พรรคเพื่อไทย และกำลัง "แตกออกเป็นหลายพรรค" ในปัจจุบันตามยุทธศาสตร์ "แยกกันเดิน" เพื่อเก็บทุกคะแนนเสียงตามระบบการเลือกตั้งแบบใหม่
**จะว่าไปแล้ว สำหรับพรรคพลังประชารัฐที่รับรู้กันแล้วว่าจะต้องชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ นั้น สำหรับพื้นที่ภาคอีสานถือว่า "หาเสียงง่าย" กว่าอีกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจากผลงาน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" ที่ได้รับการชื่นชอบของชาวบ้าน รวมไปถึงเรื่องผลงานการปลด "หนี้นอกระบบ" ทวงคืนโฉนดที่ดินจากนายทุนเงินกู้โหดได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งในเรื่องของ "ราคาข้าว" ที่ในช่วงปีสองปีมานี้ มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์ จนไม่ได้ยินเสียงโวยวายจากชาวนาออกมาเลย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าในทางกฎหมายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงไม่สามารถเดินสายขึ้นเวทีปราศรัยกับพรรคการเมืองใดได้ แต่สำหรับพรรคที่ชูเขาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องชูภาพของความเป็น "ลูกอีสาน" มาขอแรงสนับสนุนอย่างแน่นอน และที่ผ่านมา ก็มีการทำทางแบบนั้นมาบ้างแล้ว และน่าจะชัดเจนมากขึ้นหลังจากที่ทุกอย่างเริ่มเดินหน้าเต็มตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องดาหน้ารุมถล่มกันไม่ยั้ง เหมือนกับที่เวลานี้ที่ไม่ว่าใคร ระดับปลายแถวมาจนถึงหัวแถวเกรด เอ หากจะให้ได้รับความสนใจก็ต้อง "อัดบิ๊กตู่" เอาไว้ก่อน เรียกว่าโดนทุกฝีก้าว แต่ก็นั่นแหละในทางการเมืองหากจะสังเกตว่าใครที่กำลังมาแรง หรือได้รับความสนใจมากที่สุดก็ให้พิจารณาดูว่าใครที่กำลังถูกถล่มมากที่สุด
**ดังนั้นหากให้สรุปรวบยอดอีกครั้ง นาทีนี้ยังเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีรายการชู "บิ๊กตู่ลูกอีสาน" สร้างกระแสแรงหนุนเข้าวิน รีเทิร์นเก้าอี้นายกฯ อีกรอบ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น