**ภาพที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีระดับแกนนำนปช.กลุ่มหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนคนเสื้อแดงแต่ละภูมิภาคทั้ง อีสาน เหนือ หรือ ผู้นำวิสาหกิจชุมชน เข้าพบกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่สิงคโปร์ เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้มองได้หลายมุม ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาความเคลื่อนไหวภายในองคาพยพของเครือข่ายการเมืองของเขาประกอบด้วย ว่ามันเกี่ยวเนื่องกันอย่างไร หรือไม่
อย่างไรก็ดี จากภาพในข่าวดังกล่าวที่เห็นนั้น บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร หากพิจารณาวัดระดับเกรด ถือว่าอยู่ในระดับ "ปลายแถว" หรือเกรดดี หรือระดับอี กันเลยทีเดียว ในวงกว้างถือว่า "โนเนม" มาก แต่อีกมุมหนึ่งในทางจิตวิทยาทางการเมืองก็ต้องถือว่า คนระดับนี้เป็น "มือไม้" เป็นระดับปฏิบัติที่ "เอาการเอางาน" เลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานใน "หัวคะแนน" ด้วยแล้ว คนพวกนี้แหละถือว่าสำคัญยิ่งในช่วงเทศกาลเลือกตั้ง
แน่นอนว่า บุคคลที่ปรากฏในข่าว คนพวกนี้หากเทียบให้เห็นภาพกับระดับแกนนำคนเสื้อแดงอย่าง "ขวัญชัย สาราคำ" ที่อุดรธานี ก็ยังถือว่า คนละระดับกัน แต่ถึงจะเป็นแบบบ้านๆ แต่เวลานี้คนอย่าง ขวัญชัย ก็ได้ไต่ระดับเข้าไปอยู่ในชั้นผู้ผลักดันผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบ ส.ส.เขต
ล่าสุดที่เห็นก็มีความพยายามผลักดันลูกขายของตัวเองเป็นผู้สมัครในจังหวัดอุดรธานี ของพรรคไทยรักษาชาติ โดยที่ตัวเองก็เป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว หรือที่ผ่านมา ก็เคยส่งภรรยาได้เป็นถึงอดีต ส.ว.มาแล้ว ก็ไม่ธรรมดา เทียบชั้นแบบเหลื่อมๆ กันไม่มากนัก กับพวกแกนนำ นปช.เมืองหลวง อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลยทีเดียว
**แต่สำหรับคณะบุคคลที่ไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่สิงคโปร์คราวนี้ เอ่ยชื่อมา เชื่อว่าในระดับสังคมภายนอกอาจไม่คุ้นหู เพราะยังถือว่าเป็น "ระดับท้องถิ่น" ในหมู่บ้านก็ได้ เช่น นายอานนท์ แสนน่าน ที่ตามข่าวบอกว่า ผู้ริเริ่มก่อตั้ง "หมู่บ้านคนเสื้อแดง" ที่หากใครติดตามการเมืองจริงจัง ก็อาจจะคุ้นหูบ้าง ส่วนคนอื่นยิ่งแทบไม่เคยรู้จักในวงกว้าง
อย่างไรก็ดี หากพิจารรณากันในทางการเมือง เมื่อคนระดับล่างๆ แบบนี้ในความหมายที่ว่า "ระดับโนเนม" แต่คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร เปิดโรงแรม ลงมาต้อนรับขับสู้อย่างดี และยังเชื่อว่าในเรื่องอื่นๆ ในระหว่างการเดินทางมาทั้งไปและกลับ ก็จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีเช่นเดียวกัน แต่ขณะเดียวกันมันก็ย่อมมีคำถามเกิดขึ้นเช่นเดียวกันมันเป็นแค่ปรากฏการณ์ และความเคลื่อนไหวที่แสดงออกในช่วงการเลือกตั้ง ที่ต้อง "ใช้ประโยชน์" หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้หากยังจำกันได้ว่าเคยได้ยินบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนในต่างจังหวัด ที่ต้องติดคุกอย่างโดดเดี่ยว ไร้การเหลียวแล ทั้งที่พวกเขามีคดีจาการชุมนุมทางการเมือง สนับสนุนอำนาจทางการเมือง ของครอบครัวทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ
แน่นอนว่าบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มนี้ จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีความภาคภูมิใจ ที่ได้พบกับคนระดับอดีตนายกฯ เป็นมหาเศรษฐีที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้พบ แต่อีกมุมหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นเช่นเดียวกันว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้พบกับ ทักษิณ นั่นก็หมายความว่าต้อง "มีความสำคัญ" ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เหมือนกับตัวอย่างที่เห็นในตอนนี้ ที่แกนนำเสื้อแดงระดับหมู่บ้าน ถูกเลื่อนชั้นได้เข้าพบ "นายใหญ่" ซึ่งแน่นอนว่า นี่คือการสื่อสารเพื่อทำความเข้าใจกันโดย ตรงกับ "หัวคะแนน" ในช่วงเลือกตั้ง
เพราะต้องไม่ลืมว่า เวลานี้ความเคลื่อนไหวที่ปิดกันไม่มิดก็คือ พรรคการเมืองในเครือข่ายทั้งพรรคหลัก อย่างพรรคเพื่อไทย พรรครอง อย่างพรรคไทยรักษาชาติ พรรคสำรอง พรรคพันธมิตร พรรคลูกน้อง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อธรรม เพื่อไทย สารพัดชื่อ ที่แตกตัวออกมาตามยุทธศาสตร์ "แยกกันเดิน" แต่กลายเป็นว่าทำท่าจะ "แยกกันยาว" กันอีกด้วย เนื่องจากเมื่อถึงเวลาต่างคนต่างก็ต้องการสร้างดาวของตัวเอง จนทำให้เวลานี้ "คนเสื้อแดง" แตกกันเละ แม้จะไม่ใช่ แบบ"ไม่เผาผี" แต่ก็ถือว่า "ต่างคนต่างอยู่" เพื่อความสบายใจ ก็แล้วกัน
ที่สำคัญด้วยบรรยากาศแบบนี้ มันย่อมส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง กระทบต่อแผน "แตกแบงก์พัน" ที่ว่าเข้าอย่างจัง และยิ่งต้องมาเจอกับ"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นทหารที่ "เขี้ยว" ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา มันก็เลยได้เห็นภาพของ "นายใหญ่" ที่ต้องออกมาพูดคุยกับบรรดา "หัวคะแนน" ระดับหมู่บ้านดังกล่าว และมีเจตนา"ปล่อยข่าว" สื่อสารออกไปให้ได้ไกลที่สุด ให้คนเสื้อแดงได้เห็นว่า "อย่าทิ้งกัน" ต้องเดินตามแนวทางที่วางเอาไว้อย่างเคร่งครัด ไม่งั้นเสร็จแน่อะไรประมาณนั้น
**ดังนั้นภาพข่าวดังกล่าว มันถึงเป็นการอธิบายให้เห็นว่า ทักษิณ ชินวัตร ต้องลงมาเคลียร์กับฐานเสียงเสื้อแดง ก่อนจะแตกเละไปคนละทิศละทาง พาพังกันทั้งกระดาน !!
อย่างไรก็ดี จากภาพในข่าวดังกล่าวที่เห็นนั้น บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงที่ไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร หากพิจารณาวัดระดับเกรด ถือว่าอยู่ในระดับ "ปลายแถว" หรือเกรดดี หรือระดับอี กันเลยทีเดียว ในวงกว้างถือว่า "โนเนม" มาก แต่อีกมุมหนึ่งในทางจิตวิทยาทางการเมืองก็ต้องถือว่า คนระดับนี้เป็น "มือไม้" เป็นระดับปฏิบัติที่ "เอาการเอางาน" เลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานใน "หัวคะแนน" ด้วยแล้ว คนพวกนี้แหละถือว่าสำคัญยิ่งในช่วงเทศกาลเลือกตั้ง
แน่นอนว่า บุคคลที่ปรากฏในข่าว คนพวกนี้หากเทียบให้เห็นภาพกับระดับแกนนำคนเสื้อแดงอย่าง "ขวัญชัย สาราคำ" ที่อุดรธานี ก็ยังถือว่า คนละระดับกัน แต่ถึงจะเป็นแบบบ้านๆ แต่เวลานี้คนอย่าง ขวัญชัย ก็ได้ไต่ระดับเข้าไปอยู่ในชั้นผู้ผลักดันผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบ ส.ส.เขต
ล่าสุดที่เห็นก็มีความพยายามผลักดันลูกขายของตัวเองเป็นผู้สมัครในจังหวัดอุดรธานี ของพรรคไทยรักษาชาติ โดยที่ตัวเองก็เป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว หรือที่ผ่านมา ก็เคยส่งภรรยาได้เป็นถึงอดีต ส.ว.มาแล้ว ก็ไม่ธรรมดา เทียบชั้นแบบเหลื่อมๆ กันไม่มากนัก กับพวกแกนนำ นปช.เมืองหลวง อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลยทีเดียว
**แต่สำหรับคณะบุคคลที่ไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่สิงคโปร์คราวนี้ เอ่ยชื่อมา เชื่อว่าในระดับสังคมภายนอกอาจไม่คุ้นหู เพราะยังถือว่าเป็น "ระดับท้องถิ่น" ในหมู่บ้านก็ได้ เช่น นายอานนท์ แสนน่าน ที่ตามข่าวบอกว่า ผู้ริเริ่มก่อตั้ง "หมู่บ้านคนเสื้อแดง" ที่หากใครติดตามการเมืองจริงจัง ก็อาจจะคุ้นหูบ้าง ส่วนคนอื่นยิ่งแทบไม่เคยรู้จักในวงกว้าง
อย่างไรก็ดี หากพิจารรณากันในทางการเมือง เมื่อคนระดับล่างๆ แบบนี้ในความหมายที่ว่า "ระดับโนเนม" แต่คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร เปิดโรงแรม ลงมาต้อนรับขับสู้อย่างดี และยังเชื่อว่าในเรื่องอื่นๆ ในระหว่างการเดินทางมาทั้งไปและกลับ ก็จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีเช่นเดียวกัน แต่ขณะเดียวกันมันก็ย่อมมีคำถามเกิดขึ้นเช่นเดียวกันมันเป็นแค่ปรากฏการณ์ และความเคลื่อนไหวที่แสดงออกในช่วงการเลือกตั้ง ที่ต้อง "ใช้ประโยชน์" หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้หากยังจำกันได้ว่าเคยได้ยินบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนในต่างจังหวัด ที่ต้องติดคุกอย่างโดดเดี่ยว ไร้การเหลียวแล ทั้งที่พวกเขามีคดีจาการชุมนุมทางการเมือง สนับสนุนอำนาจทางการเมือง ของครอบครัวทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ
แน่นอนว่าบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มนี้ จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีความภาคภูมิใจ ที่ได้พบกับคนระดับอดีตนายกฯ เป็นมหาเศรษฐีที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้พบ แต่อีกมุมหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นเช่นเดียวกันว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้พบกับ ทักษิณ นั่นก็หมายความว่าต้อง "มีความสำคัญ" ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เหมือนกับตัวอย่างที่เห็นในตอนนี้ ที่แกนนำเสื้อแดงระดับหมู่บ้าน ถูกเลื่อนชั้นได้เข้าพบ "นายใหญ่" ซึ่งแน่นอนว่า นี่คือการสื่อสารเพื่อทำความเข้าใจกันโดย ตรงกับ "หัวคะแนน" ในช่วงเลือกตั้ง
เพราะต้องไม่ลืมว่า เวลานี้ความเคลื่อนไหวที่ปิดกันไม่มิดก็คือ พรรคการเมืองในเครือข่ายทั้งพรรคหลัก อย่างพรรคเพื่อไทย พรรครอง อย่างพรรคไทยรักษาชาติ พรรคสำรอง พรรคพันธมิตร พรรคลูกน้อง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อธรรม เพื่อไทย สารพัดชื่อ ที่แตกตัวออกมาตามยุทธศาสตร์ "แยกกันเดิน" แต่กลายเป็นว่าทำท่าจะ "แยกกันยาว" กันอีกด้วย เนื่องจากเมื่อถึงเวลาต่างคนต่างก็ต้องการสร้างดาวของตัวเอง จนทำให้เวลานี้ "คนเสื้อแดง" แตกกันเละ แม้จะไม่ใช่ แบบ"ไม่เผาผี" แต่ก็ถือว่า "ต่างคนต่างอยู่" เพื่อความสบายใจ ก็แล้วกัน
ที่สำคัญด้วยบรรยากาศแบบนี้ มันย่อมส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง กระทบต่อแผน "แตกแบงก์พัน" ที่ว่าเข้าอย่างจัง และยิ่งต้องมาเจอกับ"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นทหารที่ "เขี้ยว" ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา มันก็เลยได้เห็นภาพของ "นายใหญ่" ที่ต้องออกมาพูดคุยกับบรรดา "หัวคะแนน" ระดับหมู่บ้านดังกล่าว และมีเจตนา"ปล่อยข่าว" สื่อสารออกไปให้ได้ไกลที่สุด ให้คนเสื้อแดงได้เห็นว่า "อย่าทิ้งกัน" ต้องเดินตามแนวทางที่วางเอาไว้อย่างเคร่งครัด ไม่งั้นเสร็จแน่อะไรประมาณนั้น
**ดังนั้นภาพข่าวดังกล่าว มันถึงเป็นการอธิบายให้เห็นว่า ทักษิณ ชินวัตร ต้องลงมาเคลียร์กับฐานเสียงเสื้อแดง ก่อนจะแตกเละไปคนละทิศละทาง พาพังกันทั้งกระดาน !!