ผู้จัดการรายวัน 360- "พุทธิพงษ์" เผยรอมติพรรค ส่งเทียบเชิญ "บิ๊กตู่" เข้าบัญชีนายกฯ ของพรรคพปชร. ยันรัฐบาลต้องแจกเงิน เพราะไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ต้องดูแลผู้มีพระคุณ ไม่ได้หวังผลเรื่องการเมือง "บิ๊กป้อม" ปัดไม่ได้หาเสียง ทำมานานแล้วแต่เพิ่งเสร็จช่วงปลายรัฐบาล จวก "พล.อ.ยศนันท์" จิ้งจกเปลี่ยนสี ลืมข้าวแดงแกงร้อน ไปซุก "ทษช." แล้วมาโจมตี คสช. "แม้ว" ทวีตสวนทันที "ทหารที่อาสาเข้ามาทำงานการเมือง น่าชื่นชมกว่าทหารที่เข้ามาโดยยึดอำนาจ "ด้าน"ทายาทปุ้มปุ้ย" นำทีมคนรุ่นใหม่ เข้า พปชร. "หลานป๋าเหนาะ" ก็มาด้วย "เทือก"โวยคนกระพือข่าวเลิกเล่นการเมือง แถแค่บอกไม่ลงส.ส.-ไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดทางให้พรรคการเมืองเข้ามาเจรจาพูดคุย หากต้องการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรคนั้น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พรรค พปชร.เป็นพรรคใหม่ ต้องคอยเวลาผู้บริหารและสมาชิกของพรรคได้เริ่มทำงาน และพูดคุยกันก่อนว่า แนวการเมืองจะเป็นแบบใด และใครเหมาะสมนำพาประเทศไปในอนาคต ทั้งหมด ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรค สมาชิก และเป็นมติพรรค
นายพุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณี ครม. มีมติ อนุมัติงบ 86,994 ล้านบาท เพิ่มมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ถ้ามองในฐานะที่เป็นประชาชน หลายๆเรื่องเป็นเรื่องที่จำเป็น ยกตัวอย่างผู้สูงอายุที่ต้องมีงบลงไปดูแล เพราะสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การที่เราดูแลผู้สูงอายุตั้งแต่วันนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดี
"เราเป็นคนรุ่นใหม่ แต่เราอย่าทิ้งคนที่มีพระคุณกับเรา ที่ช่วยปกป้องดูแล เลี้ยงดูพวกเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คิดว่าสังคมไทยไม่มีใครทิ้งผู้สูงอายุที่มีพระคุณ ถ้าเราไม่ดูแลผู้มีพระคุณ หรือผู้สูงอายุก่อน เราคงทำอะไรลำบาก คิดว่าเป็นจุดที่เหมาะสมควรทำ และรัฐบาลต่อไปก็น่านำไปสานต่อให้ได้"
ทั้งนี้ กระบวนการทั้งหมด ต้องใช้เวลาดำเนินการ เราดำเนินการมาร่วมปีกว่า จะถึงวันนี้ ไม่ใช่ว่าคิดนโยบายเมื่อวาน แล้วออกวันนี้ มันเป็นไปไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย และอีกส่วนต้องชื่นชมรัฐบาลคิดมานาน จนพร้อมส่งถึงมือประชาชนได้ และพอดีมาออกช่วงเวลานี้ ถือว่าเหมาะสมในช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน และต้องยอมรับอีกเรื่องใกล้สิ้นปี ขึ้นปีใหม่ ต้องมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นทุกครอบครัว รัฐบาลจึงพยายามช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ให้ประชาชน
ส่วนที่มีการมองว่าในทางการเมือง พรรคพลังประชารัฐ ได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ เนื่องจากมีรัฐมนตรีร่วมพรรค นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การทำโครงการต่างๆ อย่าไปมองว่าพรรคไหนได้ประโยชน์ แต่มองว่าประชาชนทุกคนได้ประโยชน์ คือคนที่ใช้สิทธิได้ประโยชน์ เพราะไม่ได้หมายความว่าการได้ประโยชน์แล้วจะไปเลือกพรรคไหน มันเป็นการช่วยเหลือประชาชน สุดท้ายเขาก็ต้องมาตัดสินใจอีกที ใครคือคนที่ให้ประโยชน์ และให้โอกาสกับเขา และคิดว่าในอนาคต จะให้ความมั่นใจบริหารประเทศต่อไปในทุกนโยบาย ไม่ใช่นโยบายเรื่องนี้เรื่องเดียว การนำพาไปสู่พรรคการเมือง และการเลือกตั้ง ไม่ได้หมายความว่า จะดูแลใน 1-2 เรื่อง ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายประชาชนจะไปดูในภาพรวมการบริหารประเทศ ว่าใครควรได้บริหารประเทศต่อไป
**'บิ๊กป้อม'อ้างแจกเงินให้ปชช.เข้มแข็ง
พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ความจริงเรื่องนี้ทำมานานแล้ว ซึ่งเราดำเนินการมาหลายปีกว่า จะสำรวจได้อย่างชัดเจน เพราะต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน รัฐบาลชุดนี้ต้องการให้คนที่มีรายได้น้อยได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจึงได้เข้าไปช่วยเหลือ
"เราทำมานานแล้ว แล้วก็คิดมานานแล้ว แล้วก็ให้เขาสำรวจมานานแล้วด้วย เพราะมีคนจนเป็น 10 ล้านคน”พล.อ.ประวิตรกล่าว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการเตรียมการเลือกตั้งพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราเตรียมการมานานแล้วไม่ใช่ว่าเพื่อเตรียมการเพื่อรับการเลือกตั้ง แต่เราต้องการสร้างความเข้มแข็ง ให้กับประชาชน ตนถามว่าไม่ดีหรือ แต่เพิ่งจะมาสำเร็จในช่วงปลายรัฐบาล เพราะเราต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จ ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะไป และจะเป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับคนไทยด้วยทั้งคนแก่และคนที่มีรายได้น้อย เราให้ทุกอย่าง
**จวก'พล.อ.ยศนันท์' จิ้งจกเปลี่ยนสี
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีตรอง ผบ.ทสส. ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)ว่า เป็นความคิดของเขา แต่ก็แปลกดี อยู่กับเรามาโดยตลอด และไปด่าคสช. ไม่คิดถึงข้าวแดงแกงร้อน
เมื่อถามว่า ในคสช.มีความคิดหลากหลาย ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี มีคนเดียวนี่แหละ ที่เป็นผู้ใหญ่ ขนาดเกษียณแล้ว มีวุฒิภาวะมาก อยู่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของตนมาโดยตลอด แต่มาว่า คสช. ทั้งที่ คสช.ก็ทำทุกอย่าง เป็นเพราะเหตุใดตอนที่อยู่ถึงไม่พูด ไปโดนอะไรมาหรือไม่ ก็มันวิ่งเต้นมาตลอด ถือว่าไม่เหมาะสมที่ทำแบบนี้
"ผมผิดหวังมาก เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาผมมา ส่วนที่มองว่าจะมีการนำเรื่องของคสช.ไปแฉอีกนั้นผมไม่กลัว จะไปแฉอะไร เพราะไม่มีอะไรให้แฉ คสช. มีแต่ข้อมูลที่ดีๆ ทั้งนั้น จะมาแฉเรื่องอะไร ไม่เคยทำอะไรผิด"
เมื่อถามว่ารธน.เปิดกว้างให้ทหารเข้ามาเล่นการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นสิทธิ และขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อยากไปอยู่พรรคไหน ก็ไป แต่ไม่ควรนำเรื่องภายในต่างๆไปพูดในทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี และไม่ควรทำ ตอนอยู่ก็สนับสนุนอย่างดี ทำตัวเป็นคนอีกคนหนึ่ง เมื่อถามย้ำว่าทำตัวเหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสี หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่ เป็น จิ้งจก
"ไม่ควรนำเรื่องของ คสช.ไปพูด ตอนที่ตัวเองยังอยู่ ก็ไปวิ่งเต้น ทั้งนี้ไม่ทราบว่าจะมีอดีตทหารไปเข้าพรรคไทยรักษาชาติ อีกหรือไม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะมี ทหารไม่เล่นการเมือง ส่วนผมก็ไม่เล่นหรอก ส่วนจะอยู่เบื้องหลังช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไปหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ"
เมื่อถามว่า ในรัฐบาลหน้าจะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เราอยู่เฉยๆ ตอนขึ้นเป็นรมว.กลาโหม ก็มาเชิญเราไปเป็น ไปร่วมงาน ตนก็ทำงานอย่างเดียว ไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุที่พล.อ.ประวิตร ไม่พอใจนั้น มาจากกรณีที่ พล.อ.ยศนันท์ เปิดตัวไป เข้าพรรคทษช. และให้สัมภาษณ์ ว่า "วันนี้อยากเรียกร้องทหารทุกคน ยืนเคียงข้างประชาชน บทเรียนของการยึดอำนาจตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ประเทศชาติไม่เจริญ ประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจไม่เติบโต ถึงเวลาแล้ว ที่วันนี้ทหารทุกคนต้องหันมาหาประชาชน"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า " ทหารที่อาสาเข้ามาทำงานการเมืองแบบตรงไปตรงมา น่าชื่นชมกว่าทหารที่เข้ามาโดยการยึดอำนาจไหมครับป้อม"
**"ทายาทปุ้มปุ้ย"นำทีมคนรุ่นใหม่เข้า พปชร.
วานนี้ ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ กรรมการบริหารพรรค ได้ต้อนรับทีมแกนนำคนรุ่นใหม่ กว่า 30 คน เข้าสมัครสมาชิกพรรค โดยชูจุดเด่น สด ใหม่ ไร้นามสกุลทายาท ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ มีทักษะและประสบการณ์การบริหารจัดการ เข้าถึงเทคโนโลยี มีความมุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมนำความรู้ความสามารถมาเป็นประโยชน์พัฒนาประเทศชาติ
อาทิ ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง ทายาทปลาประป๋อง ปุ้มปุ้ย, นายนรุตม์ สียางฟู ผู้เชี่ยวชาญการเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ , นายชวนันท์ สุรเดชะ นักการตลาดและนักพัฒนาธุรกิจ , นายรัฐชยุตม์ รุ่งจารุพันธ์ ผลิตจำหน่ายไม้แปรรูป เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน รับเหมาก่อสร้าง บ้าน ตึก , ภก.คมสัณห์ ฐานะโชติพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องการจัดการ และการบริหารงานและการขาย วิเคราะห์ตลาด และ นายณริช ผลานุรักษา ประธานกรรมการบริหารและเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท SAKAYA Development Co.,Ltd.
ทั้งนี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้า พปชร.กล่าวว่า คนรุ่นใหม่เหล่านี้สนใจลงสมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ส่วนจะได้ลงทุกคนหรือไม่ ขึ้นอยู่คณะกรรมการบริหาร และคาดว่าหากได้ ส.ส. 5-6 คน ก็ถือว่า ประสบความสำเร็จ โดยพรรคจะส่งสมัครครบ 30 เขตในกรุงเทพฯ ส่วนตัวเองไม่ลง ขอเป็นแค่พี่เลี้ยง
**หลานป๋าเหนาะ"ฐานิสร์-ตรีนุช"ก็มา
นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ จะนำอดีต ส.ส.และสมาชิกในกลุ่ม ทั้ง จ.ยโสธร มุกดาหาร นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 23 พ.ย.นี้
สำหรับ นางตรีนุช เทียนทอง และ นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย หลานสองคนของ นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว โดยนางตรีนุช เปิดเผยว่า ตนเองกับนายฐานิสร์ จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร. ภายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่สามารถกำหนดวันที่ชัดเจนได้ เนื่องจากติดภารกิจในพื้นที่
ทั้งนี้ ตนและนายฐานิสร์ แสดงเจตจำนงค์ ลงสมัคร ส.ส.สระแก้ว ในนามพรรค พปชร. จึงต้องดำเนินการสมัครสมาชิกให้เรียบร้อยภาย ในวันที่ 26 พ.ย.นี้
**"เทือก"โวยถูกกระพือข่าวเลิกเล่นการเมือง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า ขณะนี้มีคนที่พยายามกระพือข่าวว่า ตนผิดคำพูด ว่าไม่เล่นการเมือง แล้วมาเล่นอีก เพราะฉะนั้น ถ้าพี่น้องประชาชนคนไหนสงสัย จะอธิบายให้ฟังว่า ตนได้พูดไว้ว่า จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว จะไม่รับตำแหน่งใดๆในทางการเมืองแล้ว ซึ่งตนก็ยังรักษาคำพูดนั้นอยู่ ในพรรครปช. ตนไม่รับตำแหน่งใดๆ เลย ที่จะเลือกตั้งกันเร็วๆ นี้ ก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะแบบบัญชีรายชื่อ หรือแบบเขตเลือกตั้ง และถ้าพรรคได้ไปเป็นรัฐบาล ก็จะไม่รับตำแหน่งใดๆในครม. ตนทำหน้าที่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เมื่อเห็นว่าประชาชนต้องการพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคการเมืองของตัวเองจริงๆ ที่สามารถจะพึ่งพาได้ ตนมีประสบการณ์ทางการเมือง จึงมาช่วยประชาชนตั้งพรรคการเมืองช่วยทำงานให้เขาเท่านั้น
"การทำงานการเมือง เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน เพราะการเมืองมีผลต่อทุกชีวิตในประเทศไทย มีผลต่อประเทศทั้งประเทศ ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ประชาชนก็ติดตามข่าวสารการเมือง วิเคราะห์ พิจารณาแยกแยะ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ข่าวสารก็จะยิ่งสับสนมากขึ้น" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณี นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคปชป. ให้ตนใช้สถานที่ในบริเวณบ้าน เป็นที่ตั้งค่ายพักแรม ให้ยืมสถานที่รับสมัครสมาชิก พรรครปช. นั้น เป็นความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนเท่านั้นเอง ไปจังหวัดไหน ถ้ามีเพื่อน เพื่อนก็จะเอื้อเฟื้อ แม้ว่าเขาจะอยู่พรรคการเมืองก็ตาม ตนไปใน จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ก็ให้ความเอื้อเฟื้อ เป็นธรรมดา
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดทางให้พรรคการเมืองเข้ามาเจรจาพูดคุย หากต้องการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรคนั้น นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พรรค พปชร.เป็นพรรคใหม่ ต้องคอยเวลาผู้บริหารและสมาชิกของพรรคได้เริ่มทำงาน และพูดคุยกันก่อนว่า แนวการเมืองจะเป็นแบบใด และใครเหมาะสมนำพาประเทศไปในอนาคต ทั้งหมด ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรค สมาชิก และเป็นมติพรรค
นายพุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณี ครม. มีมติ อนุมัติงบ 86,994 ล้านบาท เพิ่มมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า ถ้ามองในฐานะที่เป็นประชาชน หลายๆเรื่องเป็นเรื่องที่จำเป็น ยกตัวอย่างผู้สูงอายุที่ต้องมีงบลงไปดูแล เพราะสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การที่เราดูแลผู้สูงอายุตั้งแต่วันนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดี
"เราเป็นคนรุ่นใหม่ แต่เราอย่าทิ้งคนที่มีพระคุณกับเรา ที่ช่วยปกป้องดูแล เลี้ยงดูพวกเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คิดว่าสังคมไทยไม่มีใครทิ้งผู้สูงอายุที่มีพระคุณ ถ้าเราไม่ดูแลผู้มีพระคุณ หรือผู้สูงอายุก่อน เราคงทำอะไรลำบาก คิดว่าเป็นจุดที่เหมาะสมควรทำ และรัฐบาลต่อไปก็น่านำไปสานต่อให้ได้"
ทั้งนี้ กระบวนการทั้งหมด ต้องใช้เวลาดำเนินการ เราดำเนินการมาร่วมปีกว่า จะถึงวันนี้ ไม่ใช่ว่าคิดนโยบายเมื่อวาน แล้วออกวันนี้ มันเป็นไปไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย และอีกส่วนต้องชื่นชมรัฐบาลคิดมานาน จนพร้อมส่งถึงมือประชาชนได้ และพอดีมาออกช่วงเวลานี้ ถือว่าเหมาะสมในช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน และต้องยอมรับอีกเรื่องใกล้สิ้นปี ขึ้นปีใหม่ ต้องมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นทุกครอบครัว รัฐบาลจึงพยายามช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ให้ประชาชน
ส่วนที่มีการมองว่าในทางการเมือง พรรคพลังประชารัฐ ได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ เนื่องจากมีรัฐมนตรีร่วมพรรค นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การทำโครงการต่างๆ อย่าไปมองว่าพรรคไหนได้ประโยชน์ แต่มองว่าประชาชนทุกคนได้ประโยชน์ คือคนที่ใช้สิทธิได้ประโยชน์ เพราะไม่ได้หมายความว่าการได้ประโยชน์แล้วจะไปเลือกพรรคไหน มันเป็นการช่วยเหลือประชาชน สุดท้ายเขาก็ต้องมาตัดสินใจอีกที ใครคือคนที่ให้ประโยชน์ และให้โอกาสกับเขา และคิดว่าในอนาคต จะให้ความมั่นใจบริหารประเทศต่อไปในทุกนโยบาย ไม่ใช่นโยบายเรื่องนี้เรื่องเดียว การนำพาไปสู่พรรคการเมือง และการเลือกตั้ง ไม่ได้หมายความว่า จะดูแลใน 1-2 เรื่อง ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายประชาชนจะไปดูในภาพรวมการบริหารประเทศ ว่าใครควรได้บริหารประเทศต่อไป
**'บิ๊กป้อม'อ้างแจกเงินให้ปชช.เข้มแข็ง
พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ความจริงเรื่องนี้ทำมานานแล้ว ซึ่งเราดำเนินการมาหลายปีกว่า จะสำรวจได้อย่างชัดเจน เพราะต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน รัฐบาลชุดนี้ต้องการให้คนที่มีรายได้น้อยได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจึงได้เข้าไปช่วยเหลือ
"เราทำมานานแล้ว แล้วก็คิดมานานแล้ว แล้วก็ให้เขาสำรวจมานานแล้วด้วย เพราะมีคนจนเป็น 10 ล้านคน”พล.อ.ประวิตรกล่าว
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการเตรียมการเลือกตั้งพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราเตรียมการมานานแล้วไม่ใช่ว่าเพื่อเตรียมการเพื่อรับการเลือกตั้ง แต่เราต้องการสร้างความเข้มแข็ง ให้กับประชาชน ตนถามว่าไม่ดีหรือ แต่เพิ่งจะมาสำเร็จในช่วงปลายรัฐบาล เพราะเราต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จ ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะไป และจะเป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับคนไทยด้วยทั้งคนแก่และคนที่มีรายได้น้อย เราให้ทุกอย่าง
**จวก'พล.อ.ยศนันท์' จิ้งจกเปลี่ยนสี
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีตรอง ผบ.ทสส. ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)ว่า เป็นความคิดของเขา แต่ก็แปลกดี อยู่กับเรามาโดยตลอด และไปด่าคสช. ไม่คิดถึงข้าวแดงแกงร้อน
เมื่อถามว่า ในคสช.มีความคิดหลากหลาย ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี มีคนเดียวนี่แหละ ที่เป็นผู้ใหญ่ ขนาดเกษียณแล้ว มีวุฒิภาวะมาก อยู่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของตนมาโดยตลอด แต่มาว่า คสช. ทั้งที่ คสช.ก็ทำทุกอย่าง เป็นเพราะเหตุใดตอนที่อยู่ถึงไม่พูด ไปโดนอะไรมาหรือไม่ ก็มันวิ่งเต้นมาตลอด ถือว่าไม่เหมาะสมที่ทำแบบนี้
"ผมผิดหวังมาก เพราะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาผมมา ส่วนที่มองว่าจะมีการนำเรื่องของคสช.ไปแฉอีกนั้นผมไม่กลัว จะไปแฉอะไร เพราะไม่มีอะไรให้แฉ คสช. มีแต่ข้อมูลที่ดีๆ ทั้งนั้น จะมาแฉเรื่องอะไร ไม่เคยทำอะไรผิด"
เมื่อถามว่ารธน.เปิดกว้างให้ทหารเข้ามาเล่นการเมือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นสิทธิ และขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อยากไปอยู่พรรคไหน ก็ไป แต่ไม่ควรนำเรื่องภายในต่างๆไปพูดในทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี และไม่ควรทำ ตอนอยู่ก็สนับสนุนอย่างดี ทำตัวเป็นคนอีกคนหนึ่ง เมื่อถามย้ำว่าทำตัวเหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสี หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่ เป็น จิ้งจก
"ไม่ควรนำเรื่องของ คสช.ไปพูด ตอนที่ตัวเองยังอยู่ ก็ไปวิ่งเต้น ทั้งนี้ไม่ทราบว่าจะมีอดีตทหารไปเข้าพรรคไทยรักษาชาติ อีกหรือไม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะมี ทหารไม่เล่นการเมือง ส่วนผมก็ไม่เล่นหรอก ส่วนจะอยู่เบื้องหลังช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อไปหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ"
เมื่อถามว่า ในรัฐบาลหน้าจะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ เพราะไม่ใช่เรื่องของเรา เราอยู่เฉยๆ ตอนขึ้นเป็นรมว.กลาโหม ก็มาเชิญเราไปเป็น ไปร่วมงาน ตนก็ทำงานอย่างเดียว ไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุที่พล.อ.ประวิตร ไม่พอใจนั้น มาจากกรณีที่ พล.อ.ยศนันท์ เปิดตัวไป เข้าพรรคทษช. และให้สัมภาษณ์ ว่า "วันนี้อยากเรียกร้องทหารทุกคน ยืนเคียงข้างประชาชน บทเรียนของการยึดอำนาจตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ประเทศชาติไม่เจริญ ประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจไม่เติบโต ถึงเวลาแล้ว ที่วันนี้ทหารทุกคนต้องหันมาหาประชาชน"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า " ทหารที่อาสาเข้ามาทำงานการเมืองแบบตรงไปตรงมา น่าชื่นชมกว่าทหารที่เข้ามาโดยการยึดอำนาจไหมครับป้อม"
**"ทายาทปุ้มปุ้ย"นำทีมคนรุ่นใหม่เข้า พปชร.
วานนี้ ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ กรรมการบริหารพรรค ได้ต้อนรับทีมแกนนำคนรุ่นใหม่ กว่า 30 คน เข้าสมัครสมาชิกพรรค โดยชูจุดเด่น สด ใหม่ ไร้นามสกุลทายาท ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ มีทักษะและประสบการณ์การบริหารจัดการ เข้าถึงเทคโนโลยี มีความมุ่งมั่นตั้งใจ พร้อมนำความรู้ความสามารถมาเป็นประโยชน์พัฒนาประเทศชาติ
อาทิ ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง ทายาทปลาประป๋อง ปุ้มปุ้ย, นายนรุตม์ สียางฟู ผู้เชี่ยวชาญการเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ , นายชวนันท์ สุรเดชะ นักการตลาดและนักพัฒนาธุรกิจ , นายรัฐชยุตม์ รุ่งจารุพันธ์ ผลิตจำหน่ายไม้แปรรูป เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน รับเหมาก่อสร้าง บ้าน ตึก , ภก.คมสัณห์ ฐานะโชติพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องการจัดการ และการบริหารงานและการขาย วิเคราะห์ตลาด และ นายณริช ผลานุรักษา ประธานกรรมการบริหารและเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท SAKAYA Development Co.,Ltd.
ทั้งนี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้า พปชร.กล่าวว่า คนรุ่นใหม่เหล่านี้สนใจลงสมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ส่วนจะได้ลงทุกคนหรือไม่ ขึ้นอยู่คณะกรรมการบริหาร และคาดว่าหากได้ ส.ส. 5-6 คน ก็ถือว่า ประสบความสำเร็จ โดยพรรคจะส่งสมัครครบ 30 เขตในกรุงเทพฯ ส่วนตัวเองไม่ลง ขอเป็นแค่พี่เลี้ยง
**หลานป๋าเหนาะ"ฐานิสร์-ตรีนุช"ก็มา
นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ จะนำอดีต ส.ส.และสมาชิกในกลุ่ม ทั้ง จ.ยโสธร มุกดาหาร นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 23 พ.ย.นี้
สำหรับ นางตรีนุช เทียนทอง และ นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย หลานสองคนของ นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว โดยนางตรีนุช เปิดเผยว่า ตนเองกับนายฐานิสร์ จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร. ภายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่สามารถกำหนดวันที่ชัดเจนได้ เนื่องจากติดภารกิจในพื้นที่
ทั้งนี้ ตนและนายฐานิสร์ แสดงเจตจำนงค์ ลงสมัคร ส.ส.สระแก้ว ในนามพรรค พปชร. จึงต้องดำเนินการสมัครสมาชิกให้เรียบร้อยภาย ในวันที่ 26 พ.ย.นี้
**"เทือก"โวยถูกกระพือข่าวเลิกเล่นการเมือง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า ขณะนี้มีคนที่พยายามกระพือข่าวว่า ตนผิดคำพูด ว่าไม่เล่นการเมือง แล้วมาเล่นอีก เพราะฉะนั้น ถ้าพี่น้องประชาชนคนไหนสงสัย จะอธิบายให้ฟังว่า ตนได้พูดไว้ว่า จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว จะไม่รับตำแหน่งใดๆในทางการเมืองแล้ว ซึ่งตนก็ยังรักษาคำพูดนั้นอยู่ ในพรรครปช. ตนไม่รับตำแหน่งใดๆ เลย ที่จะเลือกตั้งกันเร็วๆ นี้ ก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะแบบบัญชีรายชื่อ หรือแบบเขตเลือกตั้ง และถ้าพรรคได้ไปเป็นรัฐบาล ก็จะไม่รับตำแหน่งใดๆในครม. ตนทำหน้าที่ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เมื่อเห็นว่าประชาชนต้องการพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคการเมืองของตัวเองจริงๆ ที่สามารถจะพึ่งพาได้ ตนมีประสบการณ์ทางการเมือง จึงมาช่วยประชาชนตั้งพรรคการเมืองช่วยทำงานให้เขาเท่านั้น
"การทำงานการเมือง เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน เพราะการเมืองมีผลต่อทุกชีวิตในประเทศไทย มีผลต่อประเทศทั้งประเทศ ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ประชาชนก็ติดตามข่าวสารการเมือง วิเคราะห์ พิจารณาแยกแยะ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ข่าวสารก็จะยิ่งสับสนมากขึ้น" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณี นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคปชป. ให้ตนใช้สถานที่ในบริเวณบ้าน เป็นที่ตั้งค่ายพักแรม ให้ยืมสถานที่รับสมัครสมาชิก พรรครปช. นั้น เป็นความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนเท่านั้นเอง ไปจังหวัดไหน ถ้ามีเพื่อน เพื่อนก็จะเอื้อเฟื้อ แม้ว่าเขาจะอยู่พรรคการเมืองก็ตาม ตนไปใน จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ก็ให้ความเอื้อเฟื้อ เป็นธรรมดา