“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
รัฐบาลที่ดีอย่างแท้จริง..ต้องชาญฉลาดและกล้าหาญ ในการดูแลผลประโยชน์ให้ชาติกับประชาชน!
นักวิทยาศาสตร์-ไม่เคยหยุดนิ่ง! วิทยาการ-จึงไม่มีวันหยุดนิ่ง! เวลา-จึงเดินหน้าไปกับ“วิทยาการ”ที่มีทั้งดีและเลว..ฯลฯ
“แต่ก่อนคนเรายังโง่อยู่”! แต่วิทยาการสมัยใหม่ทำให้“ผู้คนฉลาดมากขึ้น” และรู้ทันทั้งสิ่งดีกับสิ่งเลวมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นรู้ว่า...
ชาติไทยเต็มไปด้วย“กลุ่มทุนสามานย์การเมือง” ที่สวมเสื้อคลุม“นักบุญจอมปลอม” เพื่อปกปิดความเป็น“ซาตาน”ทางการเมือง ใช้ช่องโหว่การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ของระบอบประชาธิปไตยจอมปลอม จากการทุ่มเงินซื้อเสียงมหาศาล ผสานไปกับการหลอกล่อด้วยนโยบายประชานิยม รวมทั้งการโกงเลือกตั้งสารพัดวิธี ฯลฯ
ทำให้สิบกว่าปีที่ผ่านมา เกิดการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ขับไล่รัฐบาลจากการเลือกตั้งที่โกงชาติ ก่อนจะเกิดการ“รัฐประหาร”ถึง 2 ครั้ง แต่รัฐบาลรัฐประหารก็ไม่ได้ปฏิรูปชาติทั้ง 2 ครา
การเมืองภายใต้อำนาจรัฐกว่า 4 ปี ของรัฐบาลรัฐประหาร“บิ๊กตู่” ได้ทำเรื่องมากมายให้ชาติมาโดยตลอด ทว่าหลายเรื่องสำคัญที่ต่อ“ความเป็นตายของชาติ” ต้องยอมรับความจริงว่า..“นายกฯบิ๊กตู่”ไม่ได้ทำ!
“ความสงบ”ในสังคมไทยที่ไร้การปฏิรูปของ“บิ๊กตู่” จึงเป็น“ความสงบ”ที่ไม่จีรังมั่นคง กับการบริหารชาติแบบ“ซุกขยะไว้ใต้พรม”! ชาติไทยในปัจจุบันยันอนาคต จึงยัง“จมปลักในการเมืองทุนสามานย์” ที่ยังคงทำให้สังคมไทยเกิดความเหลื่อมล้ำแทบทุกมิติ! ยังคงเกิดการคอร์รัปชั่นโกงชาติแทบทุกมิติ! อีกทั้งชาติที่ไร้การปฏิรูปการเมือง..กำลังถูก“นายกฯบิ๊กตู่”ผลักดัน ให้เกิดการ“เลือกตั้งไม่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม”ซ้ำซากอีกแล้ว!..
อย่างไรก็ตาม..วันนี้มีบางเรื่องที่“นายกฯบิ๊กตู่” จะใช้“อำนาจรัฐเผด็จการ” ทำให้ชีวิตคนไทยมีทางเลือก-มีโอกาสเข้าถึงยาดี-มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น รวมทั้งจะทำให้ชาติไทยได้ประโยชน์มหาศาลทางเศรษฐกิจอีกด้วย กับสิ่งที่ผู้คนเรียกกันว่า“กัญชา”ไงล่ะ..
แต่ก่อนอื่น ต้องยอมรับความจริงนะว่า ชีวิตมนุษย์ในยุควิทยาการล้ำยุค มักมีเรื่องราวของ“สิ่งดีมากมายในอดีตกลายเป็นสิ่งเลวในปัจจุบันและวันหน้า! อีกทั้งมี“สิ่งเลวในอดีตที่ผันแปรกลายเป็นสิ่งดีในปัจจุบันและอนาคต! ฯลฯ
นั่นเป็นสิ่งที่เกิดกับชีวิตมนุษย์อยู่ทุกนาที ตามปรัชญา“พุทธธรรม”ที่สอนว่า ความไม่แน่นอน-คือ- ความแน่นอน และความแน่นอน-คือ-ความไม่แน่นอน นั่นเอง
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในมิติต่างๆ ทำให้มนุษย์เกิดความรู้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังตำนาน“กัญชา”ที่ถูกประณามเป็น“ยาเสพติดคร่าชีวิตมนุษย์” จน“กัญชาเป็นผู้ร้าย” ที่รัฐต่างๆทั่วโลกมีการทำลายกัญชาพันธุ์ต่างๆไปแล้วมากมาย แถมใครปลูกใครมีใครเสพ”กัญชา” ล้วน“ผิดกฎหมาย”ถูกจับติดคุกตะรางมาโดยตลอด..
ทว่า..วันวานและวันนี้! วงการแพทย์หลายแห่งทั่วโลก ได้วิจัย-ทดลอง-ลองใช้กับสัตว์และผู้คนที่เป็นโรคร้าย สรุปผลว่า“กัญชา”เป็น“หนึ่งในยาดีของโลก”ที่จะช่วยชีวิตมนุษย์..
เอ้อ..ตรงนี้ต้องบอกให้ชาวโลกรู้ซะเลยว่า ตำรับยาสมุนไพรไทยโบราณ ใช้“กัญชา”เป็นส่วนประกอบหลักมายาวนานถึง 300 ปี ตั้งแต่ยุค“กรุงศรีอยุธยา” ในรัชสมัย“สมเด็จพระนารายณ์มหาราช”โน่นแน่ะ
แต่วันนี้โลกกำลังฮือฮาปาร์ตี้และยุ่งขิงกันใหญ่ เพราะ“กัญชา”ที่ยังถูกมองว่าเป็น “พระเอกผสมผู้ร้าย”ของหลายชาติที่ยัง“ล้าหลัง”และ“เจริญแล้ว” บ้างอยากเจอะเจอกัญชา-บ้างอยากทดลองกัญชา-บ้างไขว่คว้าหาซื้อ“ยากัญชา”มารักษาโรคร้าย-บ้าง“หัวใส”ค้าขาย “กัญชา”ทำเงินตราเข้าชาติตัวเองเสียเลย ฯลฯ
แต่สำหรับมหาอำนาจมะกันนั้น “กัญชา”ถูกยัดเยียดให้เป็น“ผู้ร้าย”มาตลอด ยิ่งในยุค“ผู้นำมะกัน”ส่งกองทัพบุกไปรุกราน“เวียดนาม” จนหนุ่มสาวมะกันมากมายต้องเสียชีวิตในสนามรบ ขณะที่บรรดาพ่อค้าที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสงคราม พากันร่ำรวยอู้ฟู่มหาศาล ทำให้ชาวมะกันพากันไม่พอใจเกิดการประท้วงทั่วประเทศ
การประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนามยุคนั้น กระหึ่มด้วยเสียงเพลงต่อต้านสงคราม และการ “เสพกัญชา”ของเหล่าผู้ชุมนุมในยุค“บุปผาชน-ฮิปปี้”!
ที่สำคัญทหารมะกันในเวียดนาม เห็นเพื่อนทหารบาดเจ็บล้มตายอยู่ทุกวี่วัน ผสมกับสงครามที่ไม่เห็นวี่แววแห่งชัยชนะ ทำให้ทหารมะกันหันมา“เสพกัญชา”คลายเครียดกันอย่างกว้างขวาง..งานนี้“ยุ่งตายห่าแล้ว”..แม่นบ่..?
เรียกว่า..เป็นยุคที่สังคมมะกันวุ่นไปทุกหย่อมหญ้า จน“ผู้นำรัฐมะกัน”ต้องยอม“ตัดไฟเสียแต่ต้นลม” ยอม“ยกธงขาว”ถอนทหารมะกันออกจากเวียดนาม ในสภาพ“อินทรีเมากัญชาจนปีกหัก”บินตุปัดตุเป๋ รีบเผ่นกลับแดน“ลุงแซม”เลยล่ะ
สงครามเวียดนามที่ยุติลงกลางคันนั้น หนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจาก“ศึกภายในเมืองมะกันเอง” เพราะขืนยังดันทุรังให้คนหนุ่มสาวตายต่อไป สังคม“ลุงแซม”จะต้องลุกเป็นไฟจนดับไม่ได้อย่างแน่นอน ชัดไหมล่ะว่า..ยุคต่อต้านสงครามเวียดนามนั้น “กัญชา”เป็น“ผู้ร้าย”ที่“ผู้นำชาติมะกัน”ไม่แฮปปี้นั่นเอง
แต่ถึงแม้“กัญชา”จะถูกทำให้เป็นยาเสพติด “ห้ามมี-ห้ามพก-ห้ามเสพ-ห้ามขาย” แต่ห้ามผู้คนไม่ให้รับรู้ไม่ได้..จริงไหมล่ะ..
เพราะ“ผู้นำมะกัน”ทั้งยุคก่อนและยุค“ทรัมป์”นี่แหละ มะกันที่เป็นมหาอำนาจโลกทั้งทางด้าน อาวุธ-อาหาร-การแพทย์-วิทยาศาสตร์ล้ำยุคสารพัด ฯลฯ ได้ทำให้“กัญชา”ที่เคยเป็น“ผู้ร้าย”กลายเป็น“พระเอก”ไปแว้ว..
สหรัฐอเมริกาเป็นชาติหนึ่งที่รู้ว่า “กัญชา”ที่เป็น“ยาเสพติด” มีสาร 2 ตัวทางการแพทย์ นั่นคือ
หนึ่ง-มีสาร CDB ที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ลดอาการอักเสบบวมโตของแผลหรือเนื้องอก ระงับเซลล์มะเร็งที่กำลังเติบโต ระงับการเกร็งและชักกระตุก และสร้างภูมิคุ้มกันในระบบประสาทได้ สอง-มีสาร THC ที่มีผลทางประสาท ผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม อีกทั้งทำให้ระบบสัมผัสทำงานดีขึ้น ช่วยให้อยากอาหาร
นั่นทำให้หลายชาติ เร่งปรับแก้กฎหมายเกี่ยวกับ“กัญชา”กันยกใหญ่ เช่น บ้างให้“กัญชา”ใช้ทางการแพทย์ได้! บ้างให้เสพและให้ใช้ทางการแพทย์ได้อย่างเสรี ดังเช่น
อุรุกวัย-ชาติแรกในโลกที่กล้าให้เสพและใช้“กัญชา”ทางการแพทย์ได้! แคนาดา-เพิ่งให้เสพและใช้“กัญชา”ทางการแพทย์ได้ ทั้งยังกลายเป็น“ชาติพ่อค้าขายยากัญชา” วันนี้ทำเงินเข้าประเทศได้อย่างมากมาย! ส่วน“ออสเตรเลีย”ก็ประกาศขึงขังตึงตัง จะเป็น“ชาติที่ขายยากัญชาอันดับหนึ่งของโลก”เลยเว้ยเฮ้ย! แถมอีกหลายชาติในยุโรปก็แก้กฎหมาย ให้“เสพ”และใช้“ยากัญชา”ได้กันอย่างเอิกเกริกแว้ว..
เอ๊ะ..แล้ว“ชะตากรรมกัญชา”ในชาติมะกันล่ะ? เหลือเชื่อที่หลายรัฐในสหรัฐฯ ให้ใช้“กัญชา”ทางการแพทย์ได้แล้ว แต่มี 7 รัฐได้แก่ โคโลราโด วอชิงตัน ออริกอน อลาสก้า เมน แมสซาซูเซตส์ เนวาดา แน่กว่านั้นอีก เพราะนอกจากให้“ใช้กัญชา”ทางการแพทย์แล้ว ยังให้“ขายกัญชา”เพื่อสันทนาการได้อีกด้วย ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 แคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐล่าสุดที่ให้ขายกัญชาเพื่อสันทนาการได้..
งานนี้..คิดง่ายๆก็รู้แล้วล่ะว่า ถ้า“กัญชา”เป็นแค่ยาเสพติดมีโทษมหันต์ต่อมนุษย์ และไร้คุณค่าต่อมนุษยชาติ! “ชาติตัวพ่อมะกัน”รวมถึงชาติอื่นๆ ที่เจริญแล้ว ซึ่งในอดีตเคยต่อต้าน“กัญชา” คงไม่“บ้า”ที่เปลี่ยน“กัญชา”พลิกจาก“ผู้ร้าย”มาเป็น“พระเอก”แน่นอน?
“ยากัญชา”มิใช่“พระเอกเดี่ยว”ทางการแพทย์ ในการรักษาโรคร้ายให้มนุษย์! เพราะในอนาคต “ยาดี”และ“ยาที่ดีกว่า” จะมีออกมาสู่โลกมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน เพราะการค้นคว้า-วิจัย-ทดลอง ฯลฯ โดยนักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ก็จะยังคงเดินหน้าค้นคว้าหา“ยาดีกว่า”หรือสิ่งที่ดีกว่า ในการป้องกันและรักษาโรคร้ายให้มนุษย์อยู่ตลอดเวลา..
ขณะนี้ใครๆเริ่มรู้แล้วว่า “กัญชา”เป็นหนึ่งใน“ยาดี” มีคุณอนันต์ต่อการรักษาหลายโรคร้ายให้มนุษย์
ดังนั้น จึงอยู่ที่“บิ๊กตู่” จะฉลาดและมีฝีมืออ๊ะป่าว ในการบริหารจัดการของดีมีค่ามหาศาลอย่าง “กัญชา”..???
(อ่านต่อเรื่อง“กัญชา”สัปดาห์หน้าครับ)