ข่าวปนคน คนปนข่าว
**กระชากเรตติ้ง!! “สนธิรัตน์”ปลุก“ปีทองชาวนาไทย”ดันราคาข้าวกระฉูด 1.8 หมื่นบาท/ตัน ยิงนโยบายโดนจุด ลดต้นทุนราคาปุ๋ย ดั๊มราคาค่าเช่ารถเกี่ยว-รถนวด เปิดตลาดใหม่ ดันตัวเลขส่งออก พร้อมอ้อน“บิ๊กมหาดไทย”ปิด“ด่านคลองหลอด”ลด-เว้นค่าธรรมเนียมผ่านทาง รถเกี่ยว-รถไถ ตัด“ต้นทุนนอกระบบ”เอาใจ “ชาวนา”ครบวงจร
ยิ้มร่าหน้าบาน .. ถึงขนาดยกกันเป็น “ปีทองชาวนาไทย”กับ “ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ”ที่ดีดขึ้นไปตันละ 1.6-1.7 หมื่นบาท บางแห่งหระฉูดไปถึง 1.8 หมื่นบาท/ตัน .. อานิสงส์ ก็มาจากนโยบายที่จี้ลงไปโดนจุด สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ทั้งมาตรการลดต้นทุนราคาปุ๋ย ดั๊มราคาค่าเช่ารถเกี่ยว-รถนวด .. จนมา “ผลิดอกออกผล”ช่วงปีนี้พอดิบพอดี ไม่ต้องไปสุ่มเสี่ยง “จำนำข้าว”เปิดรูรั่วให้ “เหลือบไร”มาชอนไชสวาปามข้าวเมื่อสมัยก่อน .. เหมือนยังไม่หนำใจ “สนธิรัตน์”จัดหนัก คิกออฟโปรเจกต์ “จับคู่ธุรกิจ”ที่เน้นๆไปที่ ข้าวเม็ด-ผลิตภัณฑ์จากข้าว เร่งรัดเสริมเป้า“เอกซ์ปอร์ต” ขาสำคัญของเศรษฐกิจไทย .. ตั้งเป้าไม่มากมาย คัดผู้นำเข้าจาก 28 ประเทศทั่วโลก มาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย .. เห็นว่าคุยกันถูกคอ ไม่คิดมาก กดออเดอร์ ทันทีไปเบาะๆ 1.5 พันล้านบาท วางทาร์เกต ปีนึงได้ซัก 3 หมื่นล้านบาท ชิลล์ๆ .. เป็นการเปิดตลาดใหม่ รองรับผลผลิตข้าวช่วงต้นฤดู ดันให้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้น ไม่ปล่อยให้ราคาขึ้นลง “โยโย่”จนต้องมาเย้วๆ ให้รัฐบาลช่วยกันอีก ..
ส่วนกลไกสนับสนุนภายใน ก็ยังให้ความสำคัญ “ต้นทุนชาวนา”เป็นหลัก .. เลยขอ“ไฟเขียว”ไปทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ผู้ประกอบการรถบรรทุก ขนย้ายรถเกี่ยว-รถนวดข้าว ไปจนถึงเดือนก.พ.ปีหน้า .. ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ก็เอากันให้แบบ“ครบวงจร”ยกหูต่อสายไปที่ “มหาดไทย”ขอ “ตั๋วเด็ก”เว้น หรือลดค่าธรรมเนียมผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวนอกสถานที่ .. โชว์ฝีมือ “บูรณาการ”ความร่วมมือ ช่วยเหลือชาวนาจากทุกภาคส่วน แจกจ่ายเครดิตให้ “สตช.-มหาดไทย”อย่างถ้วนทั่ว .. ตามประสา “นักบริหารมืออาชีพ”พูดน้อย ต่อยหนัก ไม่ยักจะมาเคลมว่าเป็นฝีมือ “เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ”แต่อย่างใด .. เกากันแบบถูกที่คัน รู้ว่าที่ผ่านมา“พี่น้องชาวนา”เจ็บปวดกับราคาข้าวตกต่ำไม่พอ ยังต้องมาแบก“ต้นทุนนอกระบบ”ที่ผู้ประกอบการ รถเกี่ยว-รถนวด ต้องเสีย .. หนักๆ ก็เป็น “ด่านคลองหลอด”ที่เก็บค่าธรรมเนียมไม่พอ ยังมีประเภทไปยืนดักถือ “เตารีด”เก็บ “ค่าผ่านทาง”แล้วต้องมาบวกเอากับ “ชาวนา”อย่างช่วยไม่ได้ .. ถ้าราคาข้าวไม่ผงกหัวลง แล้วยังปิด “ด่านคลองหลอด”ได้ซักระยะ รับรองคะแนนเสียงชาวนา-ชาวรากหญ้า เทใจให้ “พรรคลุงตู่”ตรึม.
**พรรคนักโทษชาย!! “โอ๊ค”เอาไงดี เล่นหรือเผ่น ตั้งแต่มีคดีหนักปักหลัง ดูฝ่อๆ กระเตง “นายแม่”เป็นกำลังใจข้างกายตลอด อุตส่าห์ปูทางเปิดตัว ร่วมทัพ “ไทยรักษาชาติ”โหวกเหวกว่า พร้อมตั้งแต่เป็น“ลูกนายใหญ่” แต่ก็ไม่ไปตามนัด สงสัยรอสานตำนาน“นักโทษชาย”ถ่ายทอดพันธุกรรมจาก“รุ่นพ่อ” ถึง“รุ่นลูก”เหมือนตัวย่อ “ทษช.”ที่ซ่อนนัยร้ายกาจ เจตนาสื่อเป็นพรรค“นักโ(ทษช)าย”นี่เอง
เปิดตัวฮือฮา .. พรรคไทยรักษาชาติ หรือ “ทษช.”ที่ดัน “คนนอกไส้”อย่าง “เสี่ยป๋อม”ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ดีกรี ส.ส. 2 สมัย ลูก“เจ๊เบียบ”ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรค .. ทั้งที่ความจริง จะเล่นเทรนด์ “คนรุ่นใหม่”ผู้ที่เหมาะสมที่สุด น่าจะเป็น“ยอดชายนายโอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดี .. ก็อูตส่าห์ปูเรื่องไว้น่าติดตาม ประกาศ“พร้อมตั้งแต่เกิดเป็นลูกของทักษิณ ชินวัตร แล้ว”หลังนักข่าวถามถึงโอกาสเข้าสู่สนามการเมือง .. หวังใจว่า วันเปิดตัว“พรรค ทษช.”ที่สื่อตัวย่อตรงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”นั้น “พานทองแท้”จะโผล่ไปเป็น “บิ๊กเซอร์ไพร์ส”ถือธงนำ “พรรคลูกท่าน หลานทักษิณ”เอง .. พอ “ลูกโอ๊ค”ที่มักจะเก่งกล้าเฉพาะ “หลังคีย์บอร์ด”โพสต์ข้อความ รัวคอมเมนต์ แซะคนอื่นล่ะถนัดนัก .. พอหน้าฉาก ดูจะฝ่อๆ ยิ่งมีคดีโทษหนักปักหลัง ถึงขั้นต้องกระเตง“นายแม่”คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ไปเป็นกำลังใจทุกที่ .. ก็เลยมีคำถามไปว่า ไอ้ที่ “พร้อมๆ”ตั้งแต่เกิดมันแง่ไหน พร้อมจะ “เล่น”หรือพร้อมจะ “เผ่น”กันแน่ ..
แล้วที่เที่ยวโหวกเหวกว่าเป็น “ลูกนายใหญ่”ได้ดีเอ็นเอ มาเต็มๆ ก็อย่าลืมเชียว “ปะป๋าษิณ”มี 2 สถานะเด่นๆ ที่โลกจดจำ .. หนึ่งไม่มีใครเถียง นักการเมืองระดับตำนาน อดีตนายกฯประเทศไทย 2 สมัย ด้วยคะแนนถล่มทลายแลนด์สไลด์ .. แต่อีกสถานะ คนจำแม่นกว่า เป็น “นักโทษชาย”รหัส “นช.ทักษิณ”เตลิดเปิดเปิง หนีโทษจำคุก คดีที่ดินรัชดาฯ ไปกระทั่งคดีหมดอายุความ แล้วยังมีคดีเรียงคิวรอพิพากษาอยู่เป็นกระตั๊ก .. จะเจริญรอยตาม “คุณพ่อ”ก็เลือกให้ถูก จะสานต่อตำนานนักการเมือง ก็ยึกยักไม่ยอมลงสนามตามแรงยุ ของ“กองเชียร์-กองแช่ง”สักที .. กลัวก็แต่จะเป็นอย่างหลัง กรรมเก่าย้อนศร กลายเป็น “นักโทษชาย”ตามกันนี่สิ ด้วยมีคดีฟอกเงิน โทษแรง เข้าแท่นรออยู่แล้ว .. ที่สุดอาจต้องกลายร่างเป็น “สัมภเวสี”ตามรอย “คุณพ่อ”หรือกระทั่ง “คุณอาคนสวย”ไปใช้ชีวิตดี๊ดีย์ อยู่เมืองนอกเมืองนา .. จะว่าไปมันก็มี “เค้าลาง”จากชื่อ สาขาแห่งใหม่ “พรรคไทยรักษาชาติ”ที่เลี่ยง “ทรช.”กลัวโดนตีความ“ทรชน-ทรราชย์”..เจาะจงใช้ตัวย่อ“ทษช.”สื่อไปถึงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”ก็ไม่วายถูกเรียก “พรรคทักษิณชัวร์”แล้วก็คนอุตริ ไปเติม “ไม้เอก” ผันวรรณยุกต์ตรงคำท้าย อยู่เรื่อย .. แต่ดูไปดูมามันซ่อนนัยลึกซึ้งร้ายกาจ เจตนาสื่อว่า“นักโ(ทษช)าย”ที่ไม่รู้จะถ่ายทอดพันธุกรรม จาก “รุ่นพ่อ”ถึง “รุ่นลูก”หรือเปล่า
**สลัดคราบปลาไหล!! “บ้านเฮียตือ”เนื้อหอมฟุ้ง ประกาศทิ้งรัง “ชาติไทยพัฒนา”พวกโทรขายขนมจีบ จ้าละหวั่น “เสี่ยหนู”มือไว จีบติดชวนเข้า“ภูมิใจไทย”ได้ก่อน ทำเอา “เจ๊หน่อย”ต้องซดน้ำแห้ว แล้วยังมี “เสี่ยเน”ตามตื๊อให้มาอยู่ “มุ้งบุรีรัมย์”ด้วย “อนาคตใหม่”ยังมีลุ้นเล็กๆ แนวทาง“ไม่เอาทหาร” ถูกจริต “พ่อ-ลูก”แต่ยังกลัวแค่กระแสมา-เสียงไม่มี
น่าจับตามองไม่น้อย .. “ค่ายปลาไหล”พรรคชาติไทยพัฒนา ยุคที่ไม่มี “ป๋าเติ้ง”บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ผู้ล่วงลับ มานำทัพเหมือนเดิม .. ปรับโหมดจูนกันใหม่จากธีม “เลือดเก่า-จอมเก๋า”เปลี่ยนไปชู “คนรุ่นใหม่”ดูท่าไม่ค่อยเวิร์ก เลยรีเทิร์น กลับมาป้ายเดิม .. เปลี่ยนคนนำจาก “เสี่ยท๊อป”วราวุธ ศิลปอาชา มาเป็น “หนูนา”กัญจนา ศิลปอาชา คุมทัพเป็นหัวหน้าพรรคแทน .. พร้อมหนีบ ประภัตร โพธสุธน คู่พลคู่ใจ “ป๋าเติ้ง”กลับมานั่งแท่นเลขาธิการพรรค อดีตเลขาฯ สมัยพรรคชาติไทย กลับมาประคองพรรคเหมือนเคย .. พลิกไป พลิกมา 2-3 ตลบ ทำเอา “แก๊งวัยรุ่น”ในพรรคตามไม่ทัน น้อยอก น้อยใจ ทิ้งทุ่นไปเลยอย่าง "เสี่ยโต้ง" สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ แห่งเมืองศรีสะเกษ ที่หลั่งน้ำตา จำใจจาก .. ทั้งที่อุ่นก้นรอนั่งเลขาฯ พรรคชาติไทยพัฒนา อยู่รอมร่อ สุดท้ายได้เป็นแค่ “ว่าที่เลขาฯ”เลยโผไปซบอกออุ่นๆ ของ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ค่ายภูมิใจไทย .. เหมือนจะจบแต่ก็ไม่จบ เมื่อ “เสี่ยแบต”ภราดร ปริศนานันทกุล ทายาท “เฮียตือ”สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล คนโตแห่งอ่างทอง ที่คร่ำครวญไม่เลิก ถึงขนาดงัดวรรคทอง “กูพูดไม่ได้” มาเปรียบเรื่องราวของ “เสี่ยโต้ง”ที่ต้องจำลาพรรคไป ..
โอดโอยได้ไม่นาน “ป๋าตือ”ก็มา “ทิ้งบอมบ์”โครมใหญ่ แจ้งลาออกจากพรรรคชาติไทยพัฒนา อ้างว่า ตัวเองไม่มีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง กลัวจะก่อปัญหาให้พรรค .. ทั้งที่ลึกๆ รู้กันทั่วว่า “เฮียตือ”กับ “เฮียประภัตร”นี่ “น้ำกับน้ำมัน”เข้ากันไม่ได้ แต่ก่อนยังมี “บรรหาร”คอยอยู่ตรงกลาง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ .. “ฟางเส้นสุดท้าย”ขาดผึงเมื่อ “เจ๊หนูนา”กรี๊งกร๊างสายตรง ขอ “พี่ตือ”ทื่อๆ ให้ลดโทนด่าทอ คสช. ซะนิด เพื่อความอยู่รอดของพรรค .. ประกอบกับ“ลูกๆ” ภราดร-กรวีร์-ภคิน ใจไม่อยากเป็น “ปลาไหล”กันแล้ว ก็เลย “คอนเวิร์ส”ไปคนละทางทันที .. ไม่ทันสิ้นเสียง “เฮียตือ”ก็มี “ขนมจีบ”ว่อนไปทั่ว เสียง โทรศัพท์ดังไม่ขาด สายแรก “เสี่ยหนู”ชวนไปเสริมทัพ ค่ายสีน้ำเงิน พูดคุยไม่นาน“เซย์เยส”กันลงตัว .. สายสองเป็น “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม่ทัพหญิงเพื่อไทย มาช้าไปนิดเดียว ก็เลยต้อง“เซย์โน”ไป .. ที่ทำเอางง กลับเป็นสายที่ 3 ที่ปลายสายเป็นเสียง “เสี่ยเป็ด”เนวิน ชิดชอบ ตัวจริง เสียงจริง ภูมิใจไทย .. ทำเอา “เฮียตือ”เซอร์ไพร์ส แจ้งไปว่า คุยกับ“เสี่ยหนู”ลงตัวแล้ว แต่ “พี่เน”ก็ยังไม่จบ พูดเป็นนัย “อยู่พรรคเดียวกัน แต่คนละสาย” แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจ “ปริศนานันทกุล ผู้พ่อ”ได้ ด้วยรับปากสายแรกไว้แล้ว .. แต่ที่มีลุ้นเล็กๆ ก็ “อนาคตใหม่”ของ “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่แนวทาง ถูกจริต “พ่อ-ลูกปริศนานันทกุล”ที่พากันแอนตี้ “ทอปบูต” .. จังหวะดี มีคนเห็น “ลูกแบต”ไปนั่งหม่ำข้าวกับทั้ง “เสี่ยเอก”และ“จารย์ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯ พรรค ที่ “เคมีตรงกัน”.. หากแต่ “พ่อตือ”ร้องทัก กระแสดูโดดเด้ง แต่วัดไม่ได้ในสนามเลือกตั้ง เกรงว่าจะพากันไปไม่รอด ก็เลยขอรอเคาะกันอีกที .. สรุป “บ้านเฮียตือ”สลัดคราบ “ปลาไหล”ไปแน่ๆ ส่วนจะอยู่ไหน อีกแป๊บ ก็รู้
ช.ชฎา
+++++++++++++
รูป -
-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
-พานทองแท้ ชินวัตร
-สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล -อนุทิน ชาญวีรกูล - เนวิน ชิดชอบ - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
**กระชากเรตติ้ง!! “สนธิรัตน์”ปลุก“ปีทองชาวนาไทย”ดันราคาข้าวกระฉูด 1.8 หมื่นบาท/ตัน ยิงนโยบายโดนจุด ลดต้นทุนราคาปุ๋ย ดั๊มราคาค่าเช่ารถเกี่ยว-รถนวด เปิดตลาดใหม่ ดันตัวเลขส่งออก พร้อมอ้อน“บิ๊กมหาดไทย”ปิด“ด่านคลองหลอด”ลด-เว้นค่าธรรมเนียมผ่านทาง รถเกี่ยว-รถไถ ตัด“ต้นทุนนอกระบบ”เอาใจ “ชาวนา”ครบวงจร
ยิ้มร่าหน้าบาน .. ถึงขนาดยกกันเป็น “ปีทองชาวนาไทย”กับ “ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ”ที่ดีดขึ้นไปตันละ 1.6-1.7 หมื่นบาท บางแห่งหระฉูดไปถึง 1.8 หมื่นบาท/ตัน .. อานิสงส์ ก็มาจากนโยบายที่จี้ลงไปโดนจุด สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ทั้งมาตรการลดต้นทุนราคาปุ๋ย ดั๊มราคาค่าเช่ารถเกี่ยว-รถนวด .. จนมา “ผลิดอกออกผล”ช่วงปีนี้พอดิบพอดี ไม่ต้องไปสุ่มเสี่ยง “จำนำข้าว”เปิดรูรั่วให้ “เหลือบไร”มาชอนไชสวาปามข้าวเมื่อสมัยก่อน .. เหมือนยังไม่หนำใจ “สนธิรัตน์”จัดหนัก คิกออฟโปรเจกต์ “จับคู่ธุรกิจ”ที่เน้นๆไปที่ ข้าวเม็ด-ผลิตภัณฑ์จากข้าว เร่งรัดเสริมเป้า“เอกซ์ปอร์ต” ขาสำคัญของเศรษฐกิจไทย .. ตั้งเป้าไม่มากมาย คัดผู้นำเข้าจาก 28 ประเทศทั่วโลก มาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย .. เห็นว่าคุยกันถูกคอ ไม่คิดมาก กดออเดอร์ ทันทีไปเบาะๆ 1.5 พันล้านบาท วางทาร์เกต ปีนึงได้ซัก 3 หมื่นล้านบาท ชิลล์ๆ .. เป็นการเปิดตลาดใหม่ รองรับผลผลิตข้าวช่วงต้นฤดู ดันให้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้น ไม่ปล่อยให้ราคาขึ้นลง “โยโย่”จนต้องมาเย้วๆ ให้รัฐบาลช่วยกันอีก ..
ส่วนกลไกสนับสนุนภายใน ก็ยังให้ความสำคัญ “ต้นทุนชาวนา”เป็นหลัก .. เลยขอ“ไฟเขียว”ไปทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ผู้ประกอบการรถบรรทุก ขนย้ายรถเกี่ยว-รถนวดข้าว ไปจนถึงเดือนก.พ.ปีหน้า .. ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ก็เอากันให้แบบ“ครบวงจร”ยกหูต่อสายไปที่ “มหาดไทย”ขอ “ตั๋วเด็ก”เว้น หรือลดค่าธรรมเนียมผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าวนอกสถานที่ .. โชว์ฝีมือ “บูรณาการ”ความร่วมมือ ช่วยเหลือชาวนาจากทุกภาคส่วน แจกจ่ายเครดิตให้ “สตช.-มหาดไทย”อย่างถ้วนทั่ว .. ตามประสา “นักบริหารมืออาชีพ”พูดน้อย ต่อยหนัก ไม่ยักจะมาเคลมว่าเป็นฝีมือ “เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ”แต่อย่างใด .. เกากันแบบถูกที่คัน รู้ว่าที่ผ่านมา“พี่น้องชาวนา”เจ็บปวดกับราคาข้าวตกต่ำไม่พอ ยังต้องมาแบก“ต้นทุนนอกระบบ”ที่ผู้ประกอบการ รถเกี่ยว-รถนวด ต้องเสีย .. หนักๆ ก็เป็น “ด่านคลองหลอด”ที่เก็บค่าธรรมเนียมไม่พอ ยังมีประเภทไปยืนดักถือ “เตารีด”เก็บ “ค่าผ่านทาง”แล้วต้องมาบวกเอากับ “ชาวนา”อย่างช่วยไม่ได้ .. ถ้าราคาข้าวไม่ผงกหัวลง แล้วยังปิด “ด่านคลองหลอด”ได้ซักระยะ รับรองคะแนนเสียงชาวนา-ชาวรากหญ้า เทใจให้ “พรรคลุงตู่”ตรึม.
**พรรคนักโทษชาย!! “โอ๊ค”เอาไงดี เล่นหรือเผ่น ตั้งแต่มีคดีหนักปักหลัง ดูฝ่อๆ กระเตง “นายแม่”เป็นกำลังใจข้างกายตลอด อุตส่าห์ปูทางเปิดตัว ร่วมทัพ “ไทยรักษาชาติ”โหวกเหวกว่า พร้อมตั้งแต่เป็น“ลูกนายใหญ่” แต่ก็ไม่ไปตามนัด สงสัยรอสานตำนาน“นักโทษชาย”ถ่ายทอดพันธุกรรมจาก“รุ่นพ่อ” ถึง“รุ่นลูก”เหมือนตัวย่อ “ทษช.”ที่ซ่อนนัยร้ายกาจ เจตนาสื่อเป็นพรรค“นักโ(ทษช)าย”นี่เอง
เปิดตัวฮือฮา .. พรรคไทยรักษาชาติ หรือ “ทษช.”ที่ดัน “คนนอกไส้”อย่าง “เสี่ยป๋อม”ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ดีกรี ส.ส. 2 สมัย ลูก“เจ๊เบียบ”ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรค .. ทั้งที่ความจริง จะเล่นเทรนด์ “คนรุ่นใหม่”ผู้ที่เหมาะสมที่สุด น่าจะเป็น“ยอดชายนายโอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดี .. ก็อูตส่าห์ปูเรื่องไว้น่าติดตาม ประกาศ“พร้อมตั้งแต่เกิดเป็นลูกของทักษิณ ชินวัตร แล้ว”หลังนักข่าวถามถึงโอกาสเข้าสู่สนามการเมือง .. หวังใจว่า วันเปิดตัว“พรรค ทษช.”ที่สื่อตัวย่อตรงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”นั้น “พานทองแท้”จะโผล่ไปเป็น “บิ๊กเซอร์ไพร์ส”ถือธงนำ “พรรคลูกท่าน หลานทักษิณ”เอง .. พอ “ลูกโอ๊ค”ที่มักจะเก่งกล้าเฉพาะ “หลังคีย์บอร์ด”โพสต์ข้อความ รัวคอมเมนต์ แซะคนอื่นล่ะถนัดนัก .. พอหน้าฉาก ดูจะฝ่อๆ ยิ่งมีคดีโทษหนักปักหลัง ถึงขั้นต้องกระเตง“นายแม่”คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ไปเป็นกำลังใจทุกที่ .. ก็เลยมีคำถามไปว่า ไอ้ที่ “พร้อมๆ”ตั้งแต่เกิดมันแง่ไหน พร้อมจะ “เล่น”หรือพร้อมจะ “เผ่น”กันแน่ ..
แล้วที่เที่ยวโหวกเหวกว่าเป็น “ลูกนายใหญ่”ได้ดีเอ็นเอ มาเต็มๆ ก็อย่าลืมเชียว “ปะป๋าษิณ”มี 2 สถานะเด่นๆ ที่โลกจดจำ .. หนึ่งไม่มีใครเถียง นักการเมืองระดับตำนาน อดีตนายกฯประเทศไทย 2 สมัย ด้วยคะแนนถล่มทลายแลนด์สไลด์ .. แต่อีกสถานะ คนจำแม่นกว่า เป็น “นักโทษชาย”รหัส “นช.ทักษิณ”เตลิดเปิดเปิง หนีโทษจำคุก คดีที่ดินรัชดาฯ ไปกระทั่งคดีหมดอายุความ แล้วยังมีคดีเรียงคิวรอพิพากษาอยู่เป็นกระตั๊ก .. จะเจริญรอยตาม “คุณพ่อ”ก็เลือกให้ถูก จะสานต่อตำนานนักการเมือง ก็ยึกยักไม่ยอมลงสนามตามแรงยุ ของ“กองเชียร์-กองแช่ง”สักที .. กลัวก็แต่จะเป็นอย่างหลัง กรรมเก่าย้อนศร กลายเป็น “นักโทษชาย”ตามกันนี่สิ ด้วยมีคดีฟอกเงิน โทษแรง เข้าแท่นรออยู่แล้ว .. ที่สุดอาจต้องกลายร่างเป็น “สัมภเวสี”ตามรอย “คุณพ่อ”หรือกระทั่ง “คุณอาคนสวย”ไปใช้ชีวิตดี๊ดีย์ อยู่เมืองนอกเมืองนา .. จะว่าไปมันก็มี “เค้าลาง”จากชื่อ สาขาแห่งใหม่ “พรรคไทยรักษาชาติ”ที่เลี่ยง “ทรช.”กลัวโดนตีความ“ทรชน-ทรราชย์”..เจาะจงใช้ตัวย่อ“ทษช.”สื่อไปถึงชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”ก็ไม่วายถูกเรียก “พรรคทักษิณชัวร์”แล้วก็คนอุตริ ไปเติม “ไม้เอก” ผันวรรณยุกต์ตรงคำท้าย อยู่เรื่อย .. แต่ดูไปดูมามันซ่อนนัยลึกซึ้งร้ายกาจ เจตนาสื่อว่า“นักโ(ทษช)าย”ที่ไม่รู้จะถ่ายทอดพันธุกรรม จาก “รุ่นพ่อ”ถึง “รุ่นลูก”หรือเปล่า
**สลัดคราบปลาไหล!! “บ้านเฮียตือ”เนื้อหอมฟุ้ง ประกาศทิ้งรัง “ชาติไทยพัฒนา”พวกโทรขายขนมจีบ จ้าละหวั่น “เสี่ยหนู”มือไว จีบติดชวนเข้า“ภูมิใจไทย”ได้ก่อน ทำเอา “เจ๊หน่อย”ต้องซดน้ำแห้ว แล้วยังมี “เสี่ยเน”ตามตื๊อให้มาอยู่ “มุ้งบุรีรัมย์”ด้วย “อนาคตใหม่”ยังมีลุ้นเล็กๆ แนวทาง“ไม่เอาทหาร” ถูกจริต “พ่อ-ลูก”แต่ยังกลัวแค่กระแสมา-เสียงไม่มี
น่าจับตามองไม่น้อย .. “ค่ายปลาไหล”พรรคชาติไทยพัฒนา ยุคที่ไม่มี “ป๋าเติ้ง”บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ผู้ล่วงลับ มานำทัพเหมือนเดิม .. ปรับโหมดจูนกันใหม่จากธีม “เลือดเก่า-จอมเก๋า”เปลี่ยนไปชู “คนรุ่นใหม่”ดูท่าไม่ค่อยเวิร์ก เลยรีเทิร์น กลับมาป้ายเดิม .. เปลี่ยนคนนำจาก “เสี่ยท๊อป”วราวุธ ศิลปอาชา มาเป็น “หนูนา”กัญจนา ศิลปอาชา คุมทัพเป็นหัวหน้าพรรคแทน .. พร้อมหนีบ ประภัตร โพธสุธน คู่พลคู่ใจ “ป๋าเติ้ง”กลับมานั่งแท่นเลขาธิการพรรค อดีตเลขาฯ สมัยพรรคชาติไทย กลับมาประคองพรรคเหมือนเคย .. พลิกไป พลิกมา 2-3 ตลบ ทำเอา “แก๊งวัยรุ่น”ในพรรคตามไม่ทัน น้อยอก น้อยใจ ทิ้งทุ่นไปเลยอย่าง "เสี่ยโต้ง" สิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ แห่งเมืองศรีสะเกษ ที่หลั่งน้ำตา จำใจจาก .. ทั้งที่อุ่นก้นรอนั่งเลขาฯ พรรคชาติไทยพัฒนา อยู่รอมร่อ สุดท้ายได้เป็นแค่ “ว่าที่เลขาฯ”เลยโผไปซบอกออุ่นๆ ของ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ค่ายภูมิใจไทย .. เหมือนจะจบแต่ก็ไม่จบ เมื่อ “เสี่ยแบต”ภราดร ปริศนานันทกุล ทายาท “เฮียตือ”สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล คนโตแห่งอ่างทอง ที่คร่ำครวญไม่เลิก ถึงขนาดงัดวรรคทอง “กูพูดไม่ได้” มาเปรียบเรื่องราวของ “เสี่ยโต้ง”ที่ต้องจำลาพรรคไป ..
โอดโอยได้ไม่นาน “ป๋าตือ”ก็มา “ทิ้งบอมบ์”โครมใหญ่ แจ้งลาออกจากพรรรคชาติไทยพัฒนา อ้างว่า ตัวเองไม่มีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง กลัวจะก่อปัญหาให้พรรค .. ทั้งที่ลึกๆ รู้กันทั่วว่า “เฮียตือ”กับ “เฮียประภัตร”นี่ “น้ำกับน้ำมัน”เข้ากันไม่ได้ แต่ก่อนยังมี “บรรหาร”คอยอยู่ตรงกลาง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ .. “ฟางเส้นสุดท้าย”ขาดผึงเมื่อ “เจ๊หนูนา”กรี๊งกร๊างสายตรง ขอ “พี่ตือ”ทื่อๆ ให้ลดโทนด่าทอ คสช. ซะนิด เพื่อความอยู่รอดของพรรค .. ประกอบกับ“ลูกๆ” ภราดร-กรวีร์-ภคิน ใจไม่อยากเป็น “ปลาไหล”กันแล้ว ก็เลย “คอนเวิร์ส”ไปคนละทางทันที .. ไม่ทันสิ้นเสียง “เฮียตือ”ก็มี “ขนมจีบ”ว่อนไปทั่ว เสียง โทรศัพท์ดังไม่ขาด สายแรก “เสี่ยหนู”ชวนไปเสริมทัพ ค่ายสีน้ำเงิน พูดคุยไม่นาน“เซย์เยส”กันลงตัว .. สายสองเป็น “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม่ทัพหญิงเพื่อไทย มาช้าไปนิดเดียว ก็เลยต้อง“เซย์โน”ไป .. ที่ทำเอางง กลับเป็นสายที่ 3 ที่ปลายสายเป็นเสียง “เสี่ยเป็ด”เนวิน ชิดชอบ ตัวจริง เสียงจริง ภูมิใจไทย .. ทำเอา “เฮียตือ”เซอร์ไพร์ส แจ้งไปว่า คุยกับ“เสี่ยหนู”ลงตัวแล้ว แต่ “พี่เน”ก็ยังไม่จบ พูดเป็นนัย “อยู่พรรคเดียวกัน แต่คนละสาย” แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจ “ปริศนานันทกุล ผู้พ่อ”ได้ ด้วยรับปากสายแรกไว้แล้ว .. แต่ที่มีลุ้นเล็กๆ ก็ “อนาคตใหม่”ของ “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่แนวทาง ถูกจริต “พ่อ-ลูกปริศนานันทกุล”ที่พากันแอนตี้ “ทอปบูต” .. จังหวะดี มีคนเห็น “ลูกแบต”ไปนั่งหม่ำข้าวกับทั้ง “เสี่ยเอก”และ“จารย์ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯ พรรค ที่ “เคมีตรงกัน”.. หากแต่ “พ่อตือ”ร้องทัก กระแสดูโดดเด้ง แต่วัดไม่ได้ในสนามเลือกตั้ง เกรงว่าจะพากันไปไม่รอด ก็เลยขอรอเคาะกันอีกที .. สรุป “บ้านเฮียตือ”สลัดคราบ “ปลาไหล”ไปแน่ๆ ส่วนจะอยู่ไหน อีกแป๊บ ก็รู้
ช.ชฎา
+++++++++++++
รูป -
-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
-พานทองแท้ ชินวัตร
-สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล -อนุทิน ชาญวีรกูล - เนวิน ชิดชอบ - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ