จากกรณี ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติ ยื่นเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทบทวน ประกาศป.ป.ช. เรื่อง กำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 พ.ศ. 2561 ที่ได้ประกาศในราชกิจจาบุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งมีผลไปถึง นายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย รวมทั้งคู่สมรส และบุตรด้วยนั้น ส่งผลให้นายกสภาฯ -กรรมการสภาฯ หลายแห่ง เริ่มทยอยลาออก เนื่องจากไม่อยากวุ่นวาย เรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนั้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายกฯ ได้มอบหมายให้ตนไปหารือกับป.ป.ช. ซึ่งได้นัดแล้วแต่ยังไม่ได้พบกัน เพราะทางป.ป.ช. ยังไม่สะดวก เนื่องจากต้องเตรียมข้อมูลบางอย่าง ซึ่งตนไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องพูดคุยกับ ประธาน ป.ป.ช. เท่านั้น แล้วแต่ว่าจะมอบหมายใครมา และกรณีนี้ มีคำถามเยอะประมาณ 10 ข้อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และองคมนตรี ที่เข้าไปเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย จำเป็นต้องยื่นบัญชี ตามประกาศ ป.ป.ช.นี้ด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตามกฎหมาย ถ้าดำรงตำแหน่งก็ต้องยื่น เมื่อถามว่าส่วนตัวคิดว่าจะต้องแก้ในส่วนไหนบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ขอตอบ เพราะเป็นอำนาจของป.ป.ช. ซึ่งเรากำลังจะคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน
เมื่อถามว่าส่วนตัวได้หาทางออกไว้แล้ว ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "ได้เตรียมทางเข้า" เมื่อถามอีกว่า มีแนวโน้มที่จะใช้ ม.44 ในการแก้ปัญหานี้ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เคยคิดเรื่องนั้น เพราะอยู่ที่ ป.ป.ช. จะมีวิธีการอย่างไร อำนาจอยู่ที่ ประธานป.ป.ช.จะวินิจฉัย เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้ว จะมีทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่กล้าพูด รู้อย่างเดียวว่าต้องยื่น
ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึง เรื่องนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะได้ข้อยุติอย่างไร ป.ป.ช.อยู่ระหว่างรอฟังความเห็นจาก ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) รวมทั้งรอหารือกับนายวิษณุ เครืองาม ซึ่งกำลังประสานวัน เวลา กันอยู่ จะพยายามให้ได้ข้อยุติภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สิ่งที่ป.ป.ช.ดำเนินการนั้น เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่กำหนดให้ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ที่ใช้อำนาจปกครองทางบริหาร ต้องแสดงความโปร่งใส ป.ป.ช. จึงดำเนินการไปตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช. พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ประกาศที่ออกไป ทำไปตามกฎหมาย เราไม่รู้ว่าไปกระทบกับตำแหน่งอะไรบ้าง เมื่อถามว่า นอกจากตำแหน่ง กรรมการสภามหาวิทยาลัยแล้ว ยังกระทบถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์ ที่มีพระเถระผู้ใหญ่เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย รวมถึง ตำแหน่งคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วย พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ป.ป.ช.กำลังพิจารณาผลกระทบจากประกาศดังกล่าว และพร้อมฟังความเห็นทุกฝ่าย
แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า วานนี้ (8พ.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ชุดใหญ่ ได้หยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมาหารือกัน โดยกรรมการหลาย คนยอมรับว่า ได้เกิดปัญหาขึ้นในวงกว้าง และต้องรีบแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบต่อกรอบเวลาของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ที่ประชุม จึงมีมติให้สำนักกฏหมาย เป็นผู้รวบรวมหนังสือ ข้อเสนอแนะ หรือข้อท้วงติง ที่ทางสภามหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันต่างๆ ที่จะส่งมาถึง ป.ป.ช.ทั้งหมด เอาไว้แล้วดำเนินการประมวลเหตุผล รวบรวมรายละเอียดต่างๆ แล้วให้นำกลับมารายงานต่อที่ประชุมกรรมการป.ป.ช. ในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณา
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.วัชรพล ได้บอกกับที่ประชุมว่า จะโทรศัพท์ ไปหารือกับนายวิษณุ เพื่อสอบถามถึงความเห็นของนายกฯ และครม. ตามที่นายกฯ ได้มอบหมายนายวิษณุมา และในวันนี้ (9 พ.ย.) สำนักงาน ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาเลขาธิการ ป.ป.ช. ไปพบ นายวิษณุ ที่ทำเนียบรัฐบาล หารือถึงเรื่องดังกล่าว เพื่อนำกลับไปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. รับทราบต่อไป
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายกฯ ได้มอบหมายให้ตนไปหารือกับป.ป.ช. ซึ่งได้นัดแล้วแต่ยังไม่ได้พบกัน เพราะทางป.ป.ช. ยังไม่สะดวก เนื่องจากต้องเตรียมข้อมูลบางอย่าง ซึ่งตนไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องพูดคุยกับ ประธาน ป.ป.ช. เท่านั้น แล้วแต่ว่าจะมอบหมายใครมา และกรณีนี้ มีคำถามเยอะประมาณ 10 ข้อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และองคมนตรี ที่เข้าไปเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย จำเป็นต้องยื่นบัญชี ตามประกาศ ป.ป.ช.นี้ด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตามกฎหมาย ถ้าดำรงตำแหน่งก็ต้องยื่น เมื่อถามว่าส่วนตัวคิดว่าจะต้องแก้ในส่วนไหนบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ขอตอบ เพราะเป็นอำนาจของป.ป.ช. ซึ่งเรากำลังจะคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน
เมื่อถามว่าส่วนตัวได้หาทางออกไว้แล้ว ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "ได้เตรียมทางเข้า" เมื่อถามอีกว่า มีแนวโน้มที่จะใช้ ม.44 ในการแก้ปัญหานี้ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เคยคิดเรื่องนั้น เพราะอยู่ที่ ป.ป.ช. จะมีวิธีการอย่างไร อำนาจอยู่ที่ ประธานป.ป.ช.จะวินิจฉัย เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้ว จะมีทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่าย ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่กล้าพูด รู้อย่างเดียวว่าต้องยื่น
ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึง เรื่องนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะได้ข้อยุติอย่างไร ป.ป.ช.อยู่ระหว่างรอฟังความเห็นจาก ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) รวมทั้งรอหารือกับนายวิษณุ เครืองาม ซึ่งกำลังประสานวัน เวลา กันอยู่ จะพยายามให้ได้ข้อยุติภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สิ่งที่ป.ป.ช.ดำเนินการนั้น เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่กำหนดให้ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ที่ใช้อำนาจปกครองทางบริหาร ต้องแสดงความโปร่งใส ป.ป.ช. จึงดำเนินการไปตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช. พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ประกาศที่ออกไป ทำไปตามกฎหมาย เราไม่รู้ว่าไปกระทบกับตำแหน่งอะไรบ้าง เมื่อถามว่า นอกจากตำแหน่ง กรรมการสภามหาวิทยาลัยแล้ว ยังกระทบถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์ ที่มีพระเถระผู้ใหญ่เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย รวมถึง ตำแหน่งคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วย พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ป.ป.ช.กำลังพิจารณาผลกระทบจากประกาศดังกล่าว และพร้อมฟังความเห็นทุกฝ่าย
แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า วานนี้ (8พ.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ชุดใหญ่ ได้หยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมาหารือกัน โดยกรรมการหลาย คนยอมรับว่า ได้เกิดปัญหาขึ้นในวงกว้าง และต้องรีบแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบต่อกรอบเวลาของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ที่ประชุม จึงมีมติให้สำนักกฏหมาย เป็นผู้รวบรวมหนังสือ ข้อเสนอแนะ หรือข้อท้วงติง ที่ทางสภามหาวิทยาลัย รวมถึงสถาบันต่างๆ ที่จะส่งมาถึง ป.ป.ช.ทั้งหมด เอาไว้แล้วดำเนินการประมวลเหตุผล รวบรวมรายละเอียดต่างๆ แล้วให้นำกลับมารายงานต่อที่ประชุมกรรมการป.ป.ช. ในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณา
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.วัชรพล ได้บอกกับที่ประชุมว่า จะโทรศัพท์ ไปหารือกับนายวิษณุ เพื่อสอบถามถึงความเห็นของนายกฯ และครม. ตามที่นายกฯ ได้มอบหมายนายวิษณุมา และในวันนี้ (9 พ.ย.) สำนักงาน ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาเลขาธิการ ป.ป.ช. ไปพบ นายวิษณุ ที่ทำเนียบรัฐบาล หารือถึงเรื่องดังกล่าว เพื่อนำกลับไปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. รับทราบต่อไป