xs
xsm
sm
md
lg

จับตา”ชทพ.”พรรคขนาดกลาง ทยอยเก็บตก รอเสียบทุกขั้ว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ทำไปทำมากลายเป็นว่า เวลานี้พรรคที่กำลังน่าจับตามองอยู่ใน"ระดับสายตา" ก็ต้องมีพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เพิ่ง"เขย่าขวด" ให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง โดยการผลักดันให้ "หนูนา" น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา พี่สาวคนโตของบ้าน ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค จากเดิมที่เคยคาดหมายว่า "ท็อป" นายวราวุธ ศิลปอาชา น้องชายคนเล็ก จะถูกวางตัวเอาไว้ก่อนหน้านี้ แล้วให้นายประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค
ขณะเดียวกัน มีการปรับโครงสร้างการบริหารภายในพรรคใหม่ โดยพยายามให้ผสมผสานกลมกลืนกันไประหว่างรุ่นเก่า กับรุ่นใหม่ และที่น่าสนใจก็คือสำหรับพรรคนี้ นาทีนี้ แล้วถือว่าเรื่อง"ทุน"นั้น"หนาปึ้ก" ทั้งทุนใหญ่ที่เคยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่สมัย "หลงจู๊" บรรหาร ศิลปอาชา ที่เคยเป็นทุกอย่างของพรรคนี้ ผู้ล่วงลับ ทุกคนยังอยู่ครบ
แม้ว่าล่าสุด "ทีมอ่างทอง" ของ"เสี่ยตือ" สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล จะอำลาขอยุติบทบาท ส่งผลให้ลูกชายทั้งสองคนที่เคยเป็นอดีต ส.ส.อ่างทอง อย่าง นายภราดร และนาย กรวีร์ ปริศนานันทกุล ที่บ่นว่าอึดอัดกับโครงสร้างพรรคใหม่ และมีแนวโน้มว่าจะอำลาพรรคชาติไทยพัฒนา ตามออกไป
อย่างไรก็ดี หากโฟกัสที่พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ก่อนหน้านี้ถือว่า มีความเงียบเชียบมาก แต่เวลานี้ เมื่อเปิดตัวออกมากลายเป็นว่ามี "พลังดูดเงียบ" ที่แรงไม่เบา เพราะมีบรรดาอดีต ส.ส.เข้ามาสมทบจำนวนไม่น้อย เรียกได้ว่า ดูดเข้ามาได้เกือบทุกพรรค ที่น่าจับตาก็คือ มีอดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย เข้ามาร่วมหลายคน
**ล่าสุด ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ปรากฏว่า มีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคหลายคน เช่น นายสมคิด บาลไธสง อดีต ส.ส.หนองคาย นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ สมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นต้น
ที่ต้องจับตาไปยังอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยที่ย้ายเข้ามา มุมหนึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศภายในพรรคเพื่อไทย ยามนี้เบียดเสียดยัดเยียด และที่สำคัญอนาคตไม่มีความมั่นคง หาที่ยืนได้ลำบาก และสำหรับพวกนักเลือกตั้งเหล่านี้ เขาย่อม "จับสัญญาณ" การเมืองในวันหน้าได้ทะลุ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็น ส.ส.ต่างจังหวัดแล้ว รับรองว่าคงไม่มีใครอยากอยู่ พรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคที่เสี่ยงจะถูกยุบ ได้ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันไม่ต้องบอก ก็ย่อมเข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า สำหรับอดีต ส.ส. ย่อมต้องมี "พลังดึงดูด" ที่แรงพอถึงจะย้ายค่ายเข้ามาแบบนี้ได้ ทุกอย่างมันก็ต้องสมน้ำ สมเนื้อ ย่อมมีความหมายในตัวเองอยู่แล้ว
**สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา นาทีนี้ยังถือว่าเป็น "พรรคตัวแปร" สำคัญอีกพรรคหนึ่ง และยังอยู่ในสถานะได้เปรียบสำหรับกลไก หรือกติกาใหม่สำหรับรองรับรัฐบาลผสมในอนาคต ด้วยสถานะเป็นพรรค "ขนาดกลาง" ที่ค่อนไปทางใหญ่ ด้วยกำลังทุนที่ยังแน่นปึ้กแบบนี้ มันถึงทำให้พรรคนี้มีแรงดึงดูดให้บรรดาอดีต ส.ส. และนักการเมืองไหลเข้ามาอีก เพราะเมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวด์ เมื่อครั้งที่ "หลงจู๊" บรรหาร ศิลปอาชา ได้วางเอาไว้ มาถึงวันนี้ ก็ยังใช้ได้ดี นั่นคือ "พลิกไปได้ทุกขั้ว" รับประกัน เป็นรัฐบาลแน่นอน
แบบนี้แหละถึงได้เรียกว่า สำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงได้มีเสน่ห์ดึงดูดใจนัก ตอนแรกหลายคนยังนึกว่า พรรคนี้น่าจบไปหลังจากสิ้นนายบรรหาร ศิลปอาชา แต่มาวันนี้ ยังพิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อคนเก่าส่วนใหญ่ยังอยู่ และกลุ่มทุนที่ยังยืนหยัด สนับสนุน และด้วยบุคลิกที่สามารถประสานได้สิบทิศ มันก็รับประกันอนาคตได้อีกทางหนึ่ง
แน่นอนว่า สำหรับการเมืองไทยต้องว่ากันหลังเลือกตั้งอีกทีหนึ่ง แต่ก่อนหน้านี้ หากจำกันได้เมื่อครั้งที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อหลายเดือนก่อน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่ง ในทางการเมืองมันก็เหมือนกับการ "มัดจำ"ไว้ล่วงหน้า
** ดังนั้นสำหรับพรรคชาติไทยพัฒนา สามารถฟันธงอนาคตได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นขั้วไหนขึ้นมาก็ต้องได้เป็นรัฐบาลแน่นอน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น