xs
xsm
sm
md
lg

คุก-ไม่คุกไม่รู้ !! แต่ขบวนแห่กำลังใจ "ลูกโอ๊ค" มาเต็มพิกัด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่พอสังเกตได้ว่าคนไหนมีความสำคัญระดับไหน สำหรับคนที่เกี่ยวข้องกับ "ครอบครัวชินวัตร" ก็ต้องพิจารณาในคราวที่เกิด"วิกฤติ" หรือไม่ก็เวลามีคดีต้องเดินขึ้นโรงขึ้นศาล
ล่าสุดก็ได้เห็น "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ที่ถูกฟ้องในคดีร่วมกันฟอกเงิน จากกรณีเช็คจำนวน 10 ล้านบาท ที่ต่อเนื่องจากคดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยของกลุ่มทุนกฤษดามหานคร ที่กลายเป็นคดีมหากาพย์ และเกี่ยวพันกับคนในครอบครัวชินวัตร รวมทั้งคนใกล้ชิดอีกหลายคน
แน่นอนว่าสำหรับ พานทองแท้ ชินวัตร เป็นลูกชายคนโต และลูกชายคนเดียวของทักษิณ ชินวัตร กับคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ ซึ่งโดยพฤตินัยที่เข้าใจกันของสังคมภายนอกก็คือ เจ้าของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากลำดับชั้นดังกล่าวในครอบครัว มองอีกมุมหนึ่งมันก็ย่อมมีผลกระทบต่อเนื่องมาถึงสถานะทางการเมืองในเวลาต่อมา โดยเฉพาะ อาจมีผลต่อการเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคในอนาคตด้วยหรือไม่
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การเดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสอบคำให้การจำเลยคดีดำ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายพานทองแท้ หรือ โอ๊ค ชินวัตร อายุ 38 ปี บุตรชายคนโต นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันสมคบกันฟอกเงิน
โดยเมื่อวานนี้ นายพานทองแท้ จำเลย ซึ่งได้รับการประกันตัวจากศาล วงเงินประกัน 1 ล้านบาท เดินทางมาศาล นอกจากมีผู้ติดตามแล้ว ยังมีบุคคลในครอบครัวประกอบด้วย คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (มารดา ) น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (น้องสาวทั้งสอง) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ สำหรับการให้กำลังใจสำหรับคนในครอบครัวใกล้ชิด
** แต่ที่น่าจับตามากเป็นพิเศษก็คือ มีเเกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ส.จำนวนมากได้เดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย อาทิ เช่น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวัฒนา เมืองสุข นายนพดล ปัทมะ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายชัยเกษม นิติศิริ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายวรชัย เหมมะ น.ส.ขัตติยา สวัสดิ์ผล ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต เเละ อดีต ส.ส.เพื่อไทยอีก เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี สำหรับความคืบหน้าของคดีดังกล่าว แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มในกระบวนการขั้นต้นในชั้นศาล แต่สำหรับศาลอาญาคดีทุจริตฯแล้ว ถือว่า "พิเศษ" และผิดไปจากศาลอาญาทั่วไป นั่นคือ การไต่สวนสืบหาความจริงได้ที่สำคัญกระบวนการพิจารณาไม่นานจนเกินไป
โดยสรุปของคดีนี้ในเวลานี้คือ ศาลได้กำหนดวันนัดให้ตรวจสอบเเละรวบรวมพยานหลักฐาน กำหนดให้คู่ความหรือผู้มีอำนาจกระทำการเเทนของคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายมาศาล เพื่อส่งให้เจ้าพนักงานคดี 4 นัด คือในวันที่ 22 มกราคม , 26 กุมภาพันธ์ , 20 มีนาคม เเละ 29 เมษายน 2562
นอกจากนี้ ในวันที่ 22 มกราคม 2562 ศาลจะมีคำสั่งกรณีการรวมพิจารณาคดีนี้กับคดีหมายเลขดำ อท. 214/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิชัย กฤษดาธานนท์ ซึ่งคดีมีมูลเหตุเดียวกันในคดีนี้ ที่เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คจำนวน 10 ล้านบาท ให้นายพานทองแท้ ด้วยพร้อมกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 25 มิถุนายน 2562
แม้ว่าจะเป็นช่วงเริ่มต้น แต่ถือว่าคดีได้เข้าสู่ระบบในชั้นศาลสมบูรณ์แล้ว มีสถานะเป็นจำเลยในคดีอาญาเต็มขั้นแล้วด้วยเหตุนี้ หรือเปล่าที่เขาต้องการกำลังใจมากเป็นพิเศษ ลักษณะจึงถูกมองว่าไม่ต่างจาก"ลูกชายคนโตของเจ้าของบริษัท"มาขึ้นศาล จึงต้องมา อย่างน้อย"เจ้าของ"เขาเฝ้ามองอยู่ได้เห็น
ทั้งที่จะว่าไปแล้วคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการถูกกล่าวหาถูกกระทำการอันทุจริตมิชอบ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีทางการเมือง หรือผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่แต่อย่างใด เป็นเพียงข้อหาทุจริตของกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ถูกระบุว่ากระทำการฉ้อฉล จนถูกฟ้องเป็นจำเลยเท่านั้น แต่การที่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลขาธิการพรรค รวมทั้งอดีต ส.ส.ของพรรค ยกโขยงกันมาเต็มศาลนั้น ศาลมองได้หลายมุม นอกเหนือจากมาแค่ให้กำลังใจแล้ว และให้ "เจ้าของพรรค"ได้เห็นเท่านั้น
**ขณะเดียวกันสำหรับ พานทองแท้ ชินวัตร แน่นอนว่าต้องการกำลังใจจำนวนมาก เพราะผลของคดีนี้มันเสี่ยงคุก แต่แม้ว่ายังมีเวลาอีกสักพักใหญ่ แต่เมื่อดูตารางเวลาของศาลอาญาคดีทุจริตฯ ดังกล่าวแล้วเพียงแค่กลางปี ค่อนไปทางปลายๆปี ก็รู้ผลแล้ว ถึงตอนนั้นก็คงต้องมาลุ้นร่วมกันว่า จะมีบทสรุปอย่างไรกันแน่ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น