xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้ง ส.ส. ส.ว.สหรัฐฯ ชี้ชะตาโดนัลด์ ทรัมป์

เผยแพร่:   โดย: นพ นรนารถ


คืนพรุ่งนี้ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งเป็นวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน ตามเวลาของสหรัฐอเมริกา เป็นวันเลือกตั้งกลางเทอม หรือ Midterm ของอเมริกา

ที่เรียกว่า กลางเทอมก็เพราะเป็นการเลือกตั้งที่มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดี สหรัฐฯ อยู่ในตำแหน่งมาแล้วครึ่งทาง คือ 2 ปีจากวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี

การเลือกตั้งกลางเทอมวันที่ 6 พ.ย.เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน หรือ ส.ส. เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.และเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ

ส.ส.ต้องเลือกใหม่หมดทั้งสภา คือ 435 คนที่ครบวาระสองปี ส.ว.เลือกใหม่ 35ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่งคือ คนที่ครบวาระ 6 ปีต้องเลือกใหม่ และเลือกผู้ว่าการรัฐ 36 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ

ปัจจุบันพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาล่างหรือสภาผู้แทนราษฎร และสภาสูงหรือวุฒิสภา และเป็นผู้ว่าการรัฐมากกว่าพรรคเดโมแครต

พรรคเดโมแครตมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง ส.ส. ปัจจุบันพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก 235 เสียง พรรคเดโมแครตมี 193 ที่นั่งต้องการเพิ่มอีก 25 ที่นั่งเพื่อให้ได้เสียงข้างมาก 218 เสียง (ส.ส.ทั้งหมด 435 คนไม่มีสิทธิออกเสียง 6 คน คือ ส.ส.ที่มาจากเขตปกครองในอาณัติของอเมริกา เช่น เปอร์โตริโก อเมริกันซามัว หรือเขตปกครองพิเศษ คือ ดิสทริค ออฟ โคลัมเบีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงวอชิงตัน ดี.ซี. ประธานสภา และรองอีกสองคนมีสิทธิลงคะแนน แต่ตามธรรมเนียมปฏิบัติจะงดออกเสียง)

ล่าสุดการประเมินก่อนเปิดหีบลงคะแนนพรรครีพับลิกันได้แน่ๆ 140 ที่ มีโอกาสที่จะได้ 55 ก้ำกึ่งสูสี 45 ที่ พรรคเดโมแครตนอนมา 182 เสียงมีโอกาส 10 เสียง แพ้ชนะเท่ากัน 3 เสียง

จากสถิติการเลือกตั้งกลางเทอม 21 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1934 พรรคของประธานาธิบดี ชนะการเลือกตั้งสภาผู้แทนเพียง 3 ครั้ง ชนะสภาสูง 5 ครั้ง

นอกจากนั้น คะแนนนิยมของประธานาธิบดีจะเป็นสัญญาณเตือนว่า พรรคไหนจะแพ้จะชนะ สมัย บารัค โอบามา มีคะแนนนิยม 45% พรรคเดโมแครตต้องสูญเสียที่นั่งทั้งสองสภามากเป็นประวัติการณ์

ตอนนี้คะแนนนิยมของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประมาณ 42% ซึ่งถือว่าต่ำ

การเลือกตั้งกลางเทอม จึงเท่ากับเป็นการลงประชามติต่อตัวประธานาธิบดี ทางอ้อม และผลการเลือกตั้งจะมีผลต่อการทำงานของประธานาธิบดีในอีกสองปีที่เหลือ และมีผลต่อการต่ออายุ สมัครชิงประธานาธิบดีสมัยที่สองด้วย

ถ้พรรคเดโมแครตชนะในสภาล่าง นโยบายของทรัมป์ที่หาเสียงไว้ก็จะทำได้ยาก เพราะว่าจะออกกฎหมายใดๆ ต้องผ่านความเห็นชอบของสภาล่างก่อน กฎหมายสำคัญในช่วงที่ผ่านมาของทรัมป์ คือ การลดภาษีให้ภาคธุรกิจผ่านทั้งสองสภาอย่างสะดวก เพราะพรรครีพับลิกันคุมอยู่

เรื่องสำคัญคือ ถ้าพรรคเดโมแครตคุมสภาล่างได้ อาจจะนำไปสู่กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี หรืออีมพีชเมนต์ ซึ่งต้องใช้เสียงข้างมาก แต่ยังต้องผ่านการไต่สวนและลงมติจากสภาสูง ซึ่งต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ในการถอดถอน ยังไม่มีประธานาธิบดีคนไหนถูกทั้งสองสภาถอดถอนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีแอนดรูว์ แจ็กสัน และบิล คลินตัน ถูกสภาล่างลงมติถอดถอน แต่สภาสูงโหวตให้อยู่ในตำแหน่งต่อ

ส่วนประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ยังไม่ทันที่กระบวนการถอดถอนจะเริ่ม ก็ชิงลาออกเสียก่อน ในกรณีวอเตอร์เกต เมื่อปี 1974

สำหรับวุฒิสภา พรรครีพับลิกันครองเสียข้างมาก 51 เสียงต่อ 49 เสียงของพรรคเดโมแครต แต่ละรัฐ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่มีวุฒิสมาชิกได้รัฐละ 2 คน การเลือกตั้งวันที่ 6 พ.ย.นี้ เลือก ส.ว. 35 คนที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี ในจำนวน 35 คนที่ต้องเลือกใหม่นี้ เป็น ส.ว.พรรครีพับลิกันเพียง 9 คน เป็น ส.ว.พรรคเดโมแครตถึง 26 คน

การหยั่งเสียงล่าสุด พรรครีพับลิกันจะรักษาเก้าอี้ได้แน่ๆ เพียง 4 ที่ น่าจะชนะ 1 อีก 4 ที่โอกาสแพ้ชนะเท่ากัน พรรคเดโมแครตได้แน่ๆ 14 ที่ น่าจะได้ 6 ไม่ชัวร์ 6 พรรคไหนจะได้คุมสภาสูง จึงชี้ขาดกันที่ 10 เสียงที่คะแนนยังก้ำกึ่งกัน ถ้าพรรคเดโมแครตชนะ 8 ที่ก็จะได้ครองเสียงข้างมากทันที

เสียงในสภาสูงมีความสำคัญต่อประธานาธิบดีมากกว่าสภาล่าง นอกจากจะเป็นสภาที่พิจารณากฎหมายที่ผ่านมาจากสภาล่าง รวมทั้งเป็นด่านสุดท้ายในการถอดถอนประธานาธิบดีแล้ว วุฒิสมาชิกยังมีอำนาจหน้าที่ลงมติรับรองผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ที่ประธานาธิบดีเสนอชื่อมา เช่น ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้อำนวยการซีไอเอ เอฟบีไอ อัยการสูงสุด และประธานธนาคารกลาง ฯลฯ

ผลการหยั่งเสียงที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตมีคะแนนนำเล็กน้อย ประธานาธิบดี ทรัปม์ มีเรื่องอื้อฉาวมากมาย ทั้งนิสัยส่วนตัวที่ชอบพูดโกหก ข่มขู่ และพฤติกรรมทางเพศ เป็นจุดอ่อนของพรรครีพับลิกัน การเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้ลงสมัครที่เป็นผู้หญิงสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากพรรคเดโมแครต ส่วนหนึ่งเป็นการแก้มือที่ตัวแทนผู้หญิงคือ ฮิลลารี คลินตัน แพ้ให้กับผู้ชายอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสองปีที่แล้ว อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไม่พอใจ ความโกรธต่อพฤติกรรมของทรัมป์ที่ดูถูกสตรีเพศ

อย่างไรก็ตาม จำนวนคนที่ออกมาลงคะแนนเลือกตั้ง มีผลต่อชัยชนะของแต่ละพรรคที่ผ่านมา คนอเมริกันออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกลางเทอมน้อยมาก ไม่ถึง 60% ของผู้มีสิทธิลงคะแนนประมาณ 300 กว่าล้านคน ซึ่งผู้ลงคะแนนที่เป็นพรรครีพับลิกันมีมากกว่าพรรคเดโมแครต ครั้งนี้หากพรรคเดโมแครตไม่สามารถรณรงค์ให้สมาชิกพรรคออกมาลงคะแนนมากขึ้นกว่าครั้งก่อนๆ ก็อาจจะไม่ได้ชัยชนะ แม้ว่า คะแนนนิยมจากการหยั่งเสียงจะดีกว่า

การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ มีความสำคัญกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา สังคมอเมริกัน แบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายอย่างชัดเจนในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงเป็นการลงประชามติทางอ้อมว่า เอาหรือไม่เอาโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่จะมาถึงในอีก 2 ปีข้างหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น