"ตอนนี้ถ้าถึงเวลา ถ้าผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการเมืองก็ค่อยว่ากันอีกที อย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก อยากให้ดูว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรมากกว่า และไปดูว่า รัฐบาลต่อไปจะทำอะไรอีกบ้าง ได้มากกว่าที่ผมทำหรือไม่ "
**"ยืนยันว่า ไม่ว่าเสียงสะท้อนเชิงลบจะมีมากหรือน้อย ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของผม ไม่ว่าจะเป็นบวก เป็นลบ เหตุผลที่จะทำให้ผมตัดสินใจก็อยู่ที่ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การดำเนินการการบริหารประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท เป็นสิ่งที่ผมติดตามอยู่ตลอดเวลา ก็หวังว่าประชาชน และข้าราชการจะเข้าใจ ว่าวันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่"
นั่นเป็นคำพูดของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาควมมสงบแห่งชาติ กล่าวตอบคำถามสื่อที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ถึงอนาคตทางการเมือง โดยมีการเปรียบเทียบกับบางพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย ที่เริ่มมีการประกาศรายชื่อผู้บริหารพรรค และมองเห็นคนที่จะอยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนธันวาคมนี้
แม้ว่าในคำตอบดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ชัดเจน แบบว่าใช่ หรือไม่ใช่ แต่หากพิจารณากันให้ดี จะเห็นว่าชัดเจนหรือคืบหน้ากว่าคราวก่อนที่บอกว่า "ผมสนใจการเมือง" ไปไกล นั่นคือพยายามแสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจของตัวเขานั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ซึ่งก็ย่อมมีเหตุผล เพราะยังไม่ถึงเวลา ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองตกเป็น "เป้านิ่ง" ก่อนจะถึงวันนั้น ความหมายคือ ไม่ต้อวการให้ถูก "ยำใหญ่ ด่าฟรี" เพราะเวลานี้ฝ่ายตรงข้ามแม้จะพอคาดการณ์ได้ไม่ต่างกัน แต่ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ประกาศออกมาจากปาก ว่าใช่ มันก็ไม่อาจถล่มได้ตรงๆ
อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากคำพูดบางตอนในคำตอบเรื่องเดียวกันก็สามารถคาดเดาเหตุการณ์ ข้างหน้าได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า
"เหตุผลที่จะทำให้ผมตัดสินใจก็อยู่ที่ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การดำเนินการ การบริหารประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท เป็นสิ่งที่ผมติดตามอยู่ตลอดเวลา "
**คำพูดที่ว่านี้ ถือว่าชัดเจน และมีความหมายในตัวเอง ว่าเขาต้อง "ไปต่อ" เพียงแต่รอช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
แน่นอนว่าการพูดแบบนี้มันก็เหมือนกับการแย้มออกมาให้เห็นว่า ภารกิจของเขา "ยังไม่จบ" โดยเฉพาะการ "สานต่อ" ภารกิจสำคัญที่ทำเอาไว้ภายใต้รัฐบาลคสช. หลายโครงการสำคัญกำลังเดินหน้า โดยเฉพาะ "แผนยุทธศาสตร์ชาติ" ที่แม้ว่าจะเป็นแผนระยะยาว 20 ปี แต่ก็สามารถปรับปรุงได้ในทุก 5 ปี และในช่วง 5 ปีแรก ถือว่าสำคัญที่สุด โดยเฉพาะะเมื่อมีหลายพรรคการเมืองได้ประกาศว่าจะ "โละ" ให้หมด ขณะเดียวกัน ภายใต้เงื่อนไขในเรื่อง "การรักษาความสงบ" ในบ้านเมืองที่ต้องใช้เป็นเหตุผลในการที่จะต้องนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ในช่วง 5 ปี ต่อจากนี้
นั่นเป็นเหตุผลและความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องประกาศท่าทีทางการเมืองว่า "ต้องไปต่อ" ในเร็วๆ นี้ โดยที่ยังไม่พิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ที่ออกแบบ หรือกำหนดล่วงหน้าไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกติกาในรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง ที่หลายคนรับรู้กันไปแล้ว รวมไปถึงการมีพรรคการเมืองเตรียมสนับสนุนรองรับ เป็นต้น
สำหรับช่วงจังหวะเวลาที่เชื่อว่า"บิ๊กตู่" จะประกาศท่าทีทางการเมืองอย่างชัดเจนน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกินกลางเดือนธันวาคม เพราะในช่วงนั้นน่าจะเป็นช่วงที่มีการ"ปลดล็อก"ไปแล้วหลังจากกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้แล้ว
** ดังนั้นในระหว่างนี้ ก็จะได้เห็นการเคลื่อนไหว "ปรับขบวน" รุกทางสื่อโซเชียลฯ เต็มกำลัง และคงได้เห็นการเร่งรัดผลงานของรัฐบาลออกมาให้ชาวบ้านได้เห็นมากขึ้น เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะเปิดฟรีกันเต็มที่ อย่างน้อยเพื่อปรับลดภาพลบ ส่วนจะหยุดอาการแผ่วปลายได้หรือเปล่า น่าลุ้นเหมือนกัน !!
**"ยืนยันว่า ไม่ว่าเสียงสะท้อนเชิงลบจะมีมากหรือน้อย ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของผม ไม่ว่าจะเป็นบวก เป็นลบ เหตุผลที่จะทำให้ผมตัดสินใจก็อยู่ที่ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การดำเนินการการบริหารประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท เป็นสิ่งที่ผมติดตามอยู่ตลอดเวลา ก็หวังว่าประชาชน และข้าราชการจะเข้าใจ ว่าวันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่"
นั่นเป็นคำพูดของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาควมมสงบแห่งชาติ กล่าวตอบคำถามสื่อที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ถึงอนาคตทางการเมือง โดยมีการเปรียบเทียบกับบางพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย ที่เริ่มมีการประกาศรายชื่อผู้บริหารพรรค และมองเห็นคนที่จะอยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนธันวาคมนี้
แม้ว่าในคำตอบดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ชัดเจน แบบว่าใช่ หรือไม่ใช่ แต่หากพิจารณากันให้ดี จะเห็นว่าชัดเจนหรือคืบหน้ากว่าคราวก่อนที่บอกว่า "ผมสนใจการเมือง" ไปไกล นั่นคือพยายามแสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจของตัวเขานั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ซึ่งก็ย่อมมีเหตุผล เพราะยังไม่ถึงเวลา ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองตกเป็น "เป้านิ่ง" ก่อนจะถึงวันนั้น ความหมายคือ ไม่ต้อวการให้ถูก "ยำใหญ่ ด่าฟรี" เพราะเวลานี้ฝ่ายตรงข้ามแม้จะพอคาดการณ์ได้ไม่ต่างกัน แต่ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ประกาศออกมาจากปาก ว่าใช่ มันก็ไม่อาจถล่มได้ตรงๆ
อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากคำพูดบางตอนในคำตอบเรื่องเดียวกันก็สามารถคาดเดาเหตุการณ์ ข้างหน้าได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า
"เหตุผลที่จะทำให้ผมตัดสินใจก็อยู่ที่ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การดำเนินการ การบริหารประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท เป็นสิ่งที่ผมติดตามอยู่ตลอดเวลา "
**คำพูดที่ว่านี้ ถือว่าชัดเจน และมีความหมายในตัวเอง ว่าเขาต้อง "ไปต่อ" เพียงแต่รอช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
แน่นอนว่าการพูดแบบนี้มันก็เหมือนกับการแย้มออกมาให้เห็นว่า ภารกิจของเขา "ยังไม่จบ" โดยเฉพาะการ "สานต่อ" ภารกิจสำคัญที่ทำเอาไว้ภายใต้รัฐบาลคสช. หลายโครงการสำคัญกำลังเดินหน้า โดยเฉพาะ "แผนยุทธศาสตร์ชาติ" ที่แม้ว่าจะเป็นแผนระยะยาว 20 ปี แต่ก็สามารถปรับปรุงได้ในทุก 5 ปี และในช่วง 5 ปีแรก ถือว่าสำคัญที่สุด โดยเฉพาะะเมื่อมีหลายพรรคการเมืองได้ประกาศว่าจะ "โละ" ให้หมด ขณะเดียวกัน ภายใต้เงื่อนไขในเรื่อง "การรักษาความสงบ" ในบ้านเมืองที่ต้องใช้เป็นเหตุผลในการที่จะต้องนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ในช่วง 5 ปี ต่อจากนี้
นั่นเป็นเหตุผลและความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องประกาศท่าทีทางการเมืองว่า "ต้องไปต่อ" ในเร็วๆ นี้ โดยที่ยังไม่พิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ที่ออกแบบ หรือกำหนดล่วงหน้าไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกติกาในรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง ที่หลายคนรับรู้กันไปแล้ว รวมไปถึงการมีพรรคการเมืองเตรียมสนับสนุนรองรับ เป็นต้น
สำหรับช่วงจังหวะเวลาที่เชื่อว่า"บิ๊กตู่" จะประกาศท่าทีทางการเมืองอย่างชัดเจนน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกินกลางเดือนธันวาคม เพราะในช่วงนั้นน่าจะเป็นช่วงที่มีการ"ปลดล็อก"ไปแล้วหลังจากกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้แล้ว
** ดังนั้นในระหว่างนี้ ก็จะได้เห็นการเคลื่อนไหว "ปรับขบวน" รุกทางสื่อโซเชียลฯ เต็มกำลัง และคงได้เห็นการเร่งรัดผลงานของรัฐบาลออกมาให้ชาวบ้านได้เห็นมากขึ้น เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะเปิดฟรีกันเต็มที่ อย่างน้อยเพื่อปรับลดภาพลบ ส่วนจะหยุดอาการแผ่วปลายได้หรือเปล่า น่าลุ้นเหมือนกัน !!