ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ปราบโกงที่จีน-ลูกหลงมาถึงไทย!! รัฐบาลจีนเด็ดหัว “2 นายพลใหญ่” ฐานทุจริตติดสินบน โดนโยงซี้ปึ้ก “บิ๊ก คสช.” ที่ไปมาหาสู่กันบ่อย เบื้องหลังดีลซื้อรถถัง-เรือดำน้ำ-รถหุ้มเกราะ ร่วม 2 หมื่นล้านบาท คล้ายกับ “รัฐวิสาหกิจเกาหลีใต้” ที่ขายเครื่องบินฝึกให้ไทย 9 พันล้าน แล้วโดนสอบทุจริต เหมือนคราวซวย “คสช.” ที่ดันไปซื้อของจาก “คนโกง-ติดสินบน”
เลื่อนลั่นไปทั้งแผ่นดินใหญ่ .. สัปดาห์ก่อน สื่อเมืองจีนรายงานว่า 2 นายทหารระดับสูงในกองทัพจีน “ฝัง เฟิงฮุย” และ “จาง หยาง” ถูกปลดออกจากสมาชิกภาพพรรคคอมมิวนิสต์จีน และตำแหน่งในกองทัพ .. ด้วยข้อหาติดสินบน-รับสินบน สร้างความเสื่อมเสียต่อพรรคและกองทัพอย่างร้ายแรง .. รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า “พล.อ.จาง หยาง” เป็นอดีตหัวหน้าในหน่วยงานทางการเมืองของกองทัพจีน ถูกคณะกรรมาธิการทหารกลางฯไต่สวน เมื่อ ส.ค.2560 ในข้อหาฝ่าฝืนวินัยพรรคฯอย่างร้ายแรง และรับสินบน .. โดย “นายพลจาง” ได้เลือกที่จะปลิดชีวิตตัวเอง เมื่อเดือน พ.ย.2560 และถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว .. แต่ก็ยังถูกแถลงการณ์ล่าสุดปลดออกจากตำแหน่ง ถอดยศ และปลดออกจากสมาชิกภาพพรรคฯตามมาอีก เรียกกว่าตายไปแล้วก็ยังหนีความผิดไม่พ้น ..
ขณะที่ “พล.อ.ฝัง เฟิงฮุย” นับเป็นผู้บัญชาการทหารอายุน้อยที่สุด เป็นผู้บัญชาการเขตทหารปักกิ่ง ประธานกรมเสนาธิการทหาร ก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงไล่เลี่ยกัน แต่เพิ่งมีการเปิดเผยออกมา .. โดย “นายพลฝัง” ถูกเชื่อมโยงกับ “รัฐบาล คสช.” พอสมควร เมื่อ “สำนักข่าวต่างประเทศ” รายงานว่า “มีความสนิทสนมกับทหารใหญ่ในคณะรัฐประหารคสช.” .. อ้างตรงกันว่า ก่อนสิ้นอำนาจไม่นาน “นายพลฝัง” ได้ต้อนรับ “คณะนายทหารจากกองทัพไทย” เป็น “อาคันตุกะชุดสุดท้าย” ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือน ส.ค.2560 ..
ย้อนไปไม่ถึงเดือน ช่วง พ.ค.2560 “นายพลฝัง” ที่ตอนนั้นเป็น ประธานกรมเสนาธิการร่วม คณะกรรมาธิการทหารกลาง ได้มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ .. ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ทั้ง “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ด้วย .. เป็นช่วงไล่เลี่ยกับที่ “รัฐบาลไทย” ลงนามซื้อ “รถถัง VT-4” จากจีน วงเงินราว 5 พันล้านบาท รวมทั้งเซ็นสัญญาจ้างสร้างเรือดำน้ำอีก 13.5 หมื่นล้านบาท .. หลังจากนั้น ยังมีการอนุมัติให้จัดซื้อรถเกราะล้อยางจากจีนอีก 34 คัน เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท .. โดยว่ากันว่า อดีตพล.อ.ฝัง เฟิงฮุย และ อดีต พล.อ.จาง หยาง มีส่วนในการร่วมเจรจาในทุกรายการซื้อของรัฐบาลไทย .. ปฏิบัติการเด็ดหัว 2 นายพลใหญ่ของจีน จึงมี “ลูกหลง” มาถึงเมืองไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. โดย “บิ๊กป้อม” ยืนยันว่า “ไม่ทราบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว” และย้ำว่า กระทรวงกลาโหมจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากจีนแบบ “รัฐต่อรัฐ” ซึ่งเป็นไปอย่างถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายทุกขั้นตอน .. จะไปกล่าวหาว่า การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของไทย พัวพันกับ 2 นายพลใหญ่ ก็คงไม่เป็นธรรม ต้องรอผลการสอบสวนของทางการจีนออกมาเสียก่อน .. แต่ก็ “บังเอิญอย่างเหลือเชื่อ” ที่ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ที่ “เกาหลีใต้” เมื่ออดีตผู้บริหาร ของ บริษัท โคเรีย แอโรสเปช อินดัสตรีส์ (KAI) รัฐวิสาหกิจผลิตเครื่องบินและอากาศยานทหาร ถูกตั้งข้อหาว่าพัวพันกับการทุจริต ตกแต่งบัญชี ติดสินบน กำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์ในราคาสูงเกินจริง .. เป็นบริษัทเดียวกับที่รัฐบาล คสช.ไปขอซื้อเครื่องบินฝึก T-50TH วงเงิน 9 พันล้านบาท .. แน่นอนว่าคงต้องรอผลการสืบสวนจาก “เกาหลีใต้” เสียก่อนว่า รายการซื้อเครื่องบินของรัฐบาลไทย รวมอยู่ในรายการที่ “ทุจริต-ติดสินบน-ตั้งราคาแพง” หรือไม่ .. อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน อาจจะเป็นคราวซวยของ รัฐบาล คสช. ที่ดันไปเลือกซื้อกับคนขายที่ “ทุจริตคอร์รัปชั่น” ก็เป็นได้.
**ตัวจริงชัดเจน!! “หญิงหน่อย” นำทัพเพื่อไทยเปิดสาขาที่ “สันกำแพง” ถิ่นกำเนิดตระกูล “ชินวัตร” แต่ดันไร้เงา “เจ๊แดง-สามี” ที่คงหันหลังให้ เพื่อไทยยุค “สุดารัตน์” แน่นอนแล้ว รอบทสรุป 28 ต.ค. ประชุมใหญ่แล้วเกลี่ยตัวผู้สมัครไปลง “เพื่อธรรม” อีกด้าน “ชัชชาติ” มาแล้วจ้าาา ปล่อยเฟซบุ๊กร้างเป็นปี เริ่มกลับมาโพสต์รัวๆ รับเลือกตั้ง
เรื่อยๆ มาเรียงๆ .. ความเคลื่อนไหวของ “พรรคเพื่อไทย” เต็งหนึ่งในการเลือกตั้งสมัยหน้า ที่ดูจะยังถนอมแรง ไม่รุกหนักเท่าไร .. เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีการไปเปิด “สาขาพรรค” ใน 2 จังหวัด เลือกประเดิมปักหมุดที่ “เมืองหลวงเพื่อไทย” ทั้งคู่ หนึ่งที่ อุดรธานี และ สอง ที่ เชียงใหม่ .. วันเสาร์ไปเปิดที่ อุดรธานี ก่อนเป็น สาขาที่ 1 มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเป็นประธาน .. ที่น่าสนใจกว่าคืองานอีกวันที่ เชียงใหม่ ที่แม้ “วิโรจน์” จะเดินทางไปด้วย และเป็นประธานตามตำแหน่ง .. แต่ดูว่า “ลำดับความสำคัญ” จะเทไปที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค และแคนดิเดตหัวหน้าพรรค มากกว่า ขนาด “หัวหน้าวิโรจน์” ยังต้องมาเดินตามต้อยๆ .. น่าสนใจไปกว่านั้น “สาขาพรรค” ที่เปิดกันนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่ “สันกำแพง” ถิ่นฐานบ้านเกิดของ “ตระกูลชินวัตร” แท้ๆ .. ทว่าในงานกลับไร้เงาทั้ง “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นสามี .. ในทำนอง สองเสืออยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เสือนางหนึ่ง “เจ๊แดง” ที่ข่าวว่าไปเป็นแบ๊กอัพให้ “พรรคเพื่อธรรม” สาขาของระบอบทักษิณ .. ด้วยไม่พอใจการขึ้นนำพรรคของอีกเสือ “เจ๊หน่อย” ที่ดูเหมือนได้อนุมัติจาก “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว .. ก็อยู่ที่ว่า 28 ต.ค.นี้ ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย นอกจากจะรู้แน่ว่าใครจะเป็นหัวหน้า-กรรมการบริหารพรรค แล้ว .. ก็ยังจะเกลี่ยตัวผู้สมัครทั้งในนามพรรค และที่เหลือที่จะถูกส่งไปอยู่ “พรรคสำรอง-พรรคนอมินี” ด้วย ..
ความเคลื่อนไหวของพรรคยังไม่เท่าการขยับตัวของ “อดีตรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” .. รายของ “ดร.ทริป” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ .. ก่อนหน้านี้แว่วว่า หน่ายการเมืองไม่น้อย แถมประสบการณ์ไม่ค่อยดี ด้วยตกอยู่ในเหตุการณ์วันยึดอำนาจ 22 พ.ค. 57 ที่มีมาเมาต์ว่าถึงกับทรุดไปเลย .. แต่ดูท่าเสียงปี่กลองเริ่มบรรเลง “ชัชชาติ” ที่เฟดไปรับจ็อบผู้บริหารอสังหาฯใหญ่ คงอดใจไม่ไหว เริ่มมีมูฟเมนต์ เรียกกระแสผ่านโซเชี่ยลแบบถี่ๆ .. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่ได้โพสต์เฟสบุ๊ก มานานร่วมปี แต่ช่วง 2 สัปดาห์นี้ โพสต์นู่นนี่ “ใส่บาตร-เดินตลาด-นั่งตุ๊กตุ๊ก” มาโหม้ดดด.
** ทับซ้อน-ซ่อนเงื่อน!! “ผู้ใหญ่” สั่งทบทวน“ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์” แทบไม่ทัน ยัดอำนาจให้ “คณะกรรมการไซเบอร์” ล้นประเทศ ขนาด “หน่วยงานความมั่นคง” ยังไม่รอด เจอ “ติดหนวด” ยึดคอมพิวเตอร์-มือถือ-อุปกรณ์-ดักฟัง - แอบอ่านข้อความ ปูด ETDA ทำการแทนในช่วงต้น ทับซ้อนอำนาจในตัวเอง ขนาด “บิ๊กตู่” ยังต้องสะดุ้ง
ไปไม่รอดอีกละมั้ง .. ความพยายามการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. ... ที่มีนิคเนมว่า “พ.ร.บ.ไซเบอร์” ของรัฐบาล คสช. .. ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 11 ต.ค. และคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ก็มี “มือดี” ชักออกจากวาระไป .. โดยให้ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กฎหมาย ออกมาแก้ต่างว่า ยังอีกหลายขั้นตอนถึงเอาเข้า ครม. .. เชื่อว่า เหตุที่มีการชักออกไปกระทันหันนั้น ก็เพราะสัมผัสได้ถึงกระแสต่อต้านที่รุนแรง ด้วยถูกมองว่ามีเนื้อหา “ติดหนวด” .. มีเจตนาเพื่อล้วงข้อมูล ยึดคอมพิวเตอร์-มือถือ-อุปกรณ์ รวมไปถึง “ดักฟัง - แอบอ่านข้อความ” โดยไม่ต้องใช้หมายศาล .. ถึงขนาดผู้พิพากษาที่สงวนท่าทีต่อการออกกฎหมายของ “ฝ่ายบริหาร” มาตลอด ยังอดไม่ไหว .. ตามคิวที่ ศรีอัมพร ศาลิคุปต์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ชี้ว่า กฎหมายฉบับนี้ละเมิดสิทธิประชาชนอย่างรุนแรง และเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย .. เป็นที่มาของข้อสั่งการ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ไปศึกษาทบทวนก่อนแล้วค่อยเสนอให้ ครม.พิจารณาใหม่ .. ร้อนถึง พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ต้องมาตั้งต้นใหม่ ตั้งคณะทำงาน 3 ฝ่าย รัฐ-เอกชน-ประชาชน ร่วมหารือ ..
นอกเหนือจากเรื่อง “ติดหนวด” ประเด็นหนึ่งที่ว่ากันว่า “ผู้ใหญ่” ถึงกับสะดุ้ง เมื่อรู้เข้า .. เป็นประเด็นอำนาจของ “สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ” ที่บังคับใช้กฎหมาย โดยเปิดทางให้ “แสวงหารายได้ แต่ไม่ต้องส่งรัฐ” .. ด้วย “อำนาจที่มากเกินไป” อาจเป็นเครื่องมือในการ “ผูกขาดรวบอำนาจ” บริหารจัดการด้านไซเบอร์ของประเทศทั้งหมด มาไว้ที่ “หน่วยงานเดียว” .. ที่สำคัญ “อำนาจติดหนวด” นั้น ยังสามารถสั่งการหน่วยงานราชการ รัฐ เอกชน ประชาชน กระทั่ง “หน่วยงานความมั่นคง” ก็ไม่รอด .. สาระสำคัญข้อหนึ่งที่เขียนไว้ในร่างกฎหมายระบุว่า “ในระหว่างที่ยังไม่มีเลขาธิการของคณะกรรมการไซเบอร์ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA ไปดำรงตำแหน่งเลขาฯ ชั่วคราว” .. อ่านเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ในขณะที่กำลังทำคลอด “ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์” กันอยู่ ก็ทำคู่ขนานกับ “ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองส่วนบุคคลฯ” ด้วย .. ที่ตลกคือในร่า’ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ที่มีเจตนาเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป ก็กำหนดให้ “สำนักงาน ETDA” เป็นสำนักงานเลขาธิการฯ .. แค่อำนาจใน 2 ร่างกฎหมายก็ขัดกัน เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิงของ 3 หน่วยงาน รวมถึง ETDA ด้วย .. ที่ร้ายกว่านั้นผู้ที่อยู่เบื้องหลังร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ มีชื่อ “มาดามแอน” สุรางคณา วายุภาพ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของ ETDA ซะด้วย .. ความทับซ้อน-ซ่อนเงื่อน ตรงนี้ต่างหากที่ทำเอา “ผู้ใหญ่” ถึงขั้นสะดุ้ง สั่งการให้ทบทวนกฎหมายแทบไม่ทัน.
ช.ชฎา
รูป
พล.อ.ฝัง เฟิงฮุย พบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา – พล.อ.ฝัง เฟิงฮุย พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เปิดสาขาพรรคเพื่อไทย ที่ จ.เชียงใหม่ -- ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ศรีอัมพร ศาลิคุปต์, พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์
**ปราบโกงที่จีน-ลูกหลงมาถึงไทย!! รัฐบาลจีนเด็ดหัว “2 นายพลใหญ่” ฐานทุจริตติดสินบน โดนโยงซี้ปึ้ก “บิ๊ก คสช.” ที่ไปมาหาสู่กันบ่อย เบื้องหลังดีลซื้อรถถัง-เรือดำน้ำ-รถหุ้มเกราะ ร่วม 2 หมื่นล้านบาท คล้ายกับ “รัฐวิสาหกิจเกาหลีใต้” ที่ขายเครื่องบินฝึกให้ไทย 9 พันล้าน แล้วโดนสอบทุจริต เหมือนคราวซวย “คสช.” ที่ดันไปซื้อของจาก “คนโกง-ติดสินบน”
เลื่อนลั่นไปทั้งแผ่นดินใหญ่ .. สัปดาห์ก่อน สื่อเมืองจีนรายงานว่า 2 นายทหารระดับสูงในกองทัพจีน “ฝัง เฟิงฮุย” และ “จาง หยาง” ถูกปลดออกจากสมาชิกภาพพรรคคอมมิวนิสต์จีน และตำแหน่งในกองทัพ .. ด้วยข้อหาติดสินบน-รับสินบน สร้างความเสื่อมเสียต่อพรรคและกองทัพอย่างร้ายแรง .. รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า “พล.อ.จาง หยาง” เป็นอดีตหัวหน้าในหน่วยงานทางการเมืองของกองทัพจีน ถูกคณะกรรมาธิการทหารกลางฯไต่สวน เมื่อ ส.ค.2560 ในข้อหาฝ่าฝืนวินัยพรรคฯอย่างร้ายแรง และรับสินบน .. โดย “นายพลจาง” ได้เลือกที่จะปลิดชีวิตตัวเอง เมื่อเดือน พ.ย.2560 และถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว .. แต่ก็ยังถูกแถลงการณ์ล่าสุดปลดออกจากตำแหน่ง ถอดยศ และปลดออกจากสมาชิกภาพพรรคฯตามมาอีก เรียกกว่าตายไปแล้วก็ยังหนีความผิดไม่พ้น ..
ขณะที่ “พล.อ.ฝัง เฟิงฮุย” นับเป็นผู้บัญชาการทหารอายุน้อยที่สุด เป็นผู้บัญชาการเขตทหารปักกิ่ง ประธานกรมเสนาธิการทหาร ก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในช่วงไล่เลี่ยกัน แต่เพิ่งมีการเปิดเผยออกมา .. โดย “นายพลฝัง” ถูกเชื่อมโยงกับ “รัฐบาล คสช.” พอสมควร เมื่อ “สำนักข่าวต่างประเทศ” รายงานว่า “มีความสนิทสนมกับทหารใหญ่ในคณะรัฐประหารคสช.” .. อ้างตรงกันว่า ก่อนสิ้นอำนาจไม่นาน “นายพลฝัง” ได้ต้อนรับ “คณะนายทหารจากกองทัพไทย” เป็น “อาคันตุกะชุดสุดท้าย” ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือน ส.ค.2560 ..
ย้อนไปไม่ถึงเดือน ช่วง พ.ค.2560 “นายพลฝัง” ที่ตอนนั้นเป็น ประธานกรมเสนาธิการร่วม คณะกรรมาธิการทหารกลาง ได้มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ .. ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ทั้ง “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ด้วย .. เป็นช่วงไล่เลี่ยกับที่ “รัฐบาลไทย” ลงนามซื้อ “รถถัง VT-4” จากจีน วงเงินราว 5 พันล้านบาท รวมทั้งเซ็นสัญญาจ้างสร้างเรือดำน้ำอีก 13.5 หมื่นล้านบาท .. หลังจากนั้น ยังมีการอนุมัติให้จัดซื้อรถเกราะล้อยางจากจีนอีก 34 คัน เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท .. โดยว่ากันว่า อดีตพล.อ.ฝัง เฟิงฮุย และ อดีต พล.อ.จาง หยาง มีส่วนในการร่วมเจรจาในทุกรายการซื้อของรัฐบาลไทย .. ปฏิบัติการเด็ดหัว 2 นายพลใหญ่ของจีน จึงมี “ลูกหลง” มาถึงเมืองไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ .. โดย “บิ๊กป้อม” ยืนยันว่า “ไม่ทราบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว” และย้ำว่า กระทรวงกลาโหมจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากจีนแบบ “รัฐต่อรัฐ” ซึ่งเป็นไปอย่างถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายทุกขั้นตอน .. จะไปกล่าวหาว่า การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของไทย พัวพันกับ 2 นายพลใหญ่ ก็คงไม่เป็นธรรม ต้องรอผลการสอบสวนของทางการจีนออกมาเสียก่อน .. แต่ก็ “บังเอิญอย่างเหลือเชื่อ” ที่ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ที่ “เกาหลีใต้” เมื่ออดีตผู้บริหาร ของ บริษัท โคเรีย แอโรสเปช อินดัสตรีส์ (KAI) รัฐวิสาหกิจผลิตเครื่องบินและอากาศยานทหาร ถูกตั้งข้อหาว่าพัวพันกับการทุจริต ตกแต่งบัญชี ติดสินบน กำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์ในราคาสูงเกินจริง .. เป็นบริษัทเดียวกับที่รัฐบาล คสช.ไปขอซื้อเครื่องบินฝึก T-50TH วงเงิน 9 พันล้านบาท .. แน่นอนว่าคงต้องรอผลการสืบสวนจาก “เกาหลีใต้” เสียก่อนว่า รายการซื้อเครื่องบินของรัฐบาลไทย รวมอยู่ในรายการที่ “ทุจริต-ติดสินบน-ตั้งราคาแพง” หรือไม่ .. อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน อาจจะเป็นคราวซวยของ รัฐบาล คสช. ที่ดันไปเลือกซื้อกับคนขายที่ “ทุจริตคอร์รัปชั่น” ก็เป็นได้.
**ตัวจริงชัดเจน!! “หญิงหน่อย” นำทัพเพื่อไทยเปิดสาขาที่ “สันกำแพง” ถิ่นกำเนิดตระกูล “ชินวัตร” แต่ดันไร้เงา “เจ๊แดง-สามี” ที่คงหันหลังให้ เพื่อไทยยุค “สุดารัตน์” แน่นอนแล้ว รอบทสรุป 28 ต.ค. ประชุมใหญ่แล้วเกลี่ยตัวผู้สมัครไปลง “เพื่อธรรม” อีกด้าน “ชัชชาติ” มาแล้วจ้าาา ปล่อยเฟซบุ๊กร้างเป็นปี เริ่มกลับมาโพสต์รัวๆ รับเลือกตั้ง
เรื่อยๆ มาเรียงๆ .. ความเคลื่อนไหวของ “พรรคเพื่อไทย” เต็งหนึ่งในการเลือกตั้งสมัยหน้า ที่ดูจะยังถนอมแรง ไม่รุกหนักเท่าไร .. เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีการไปเปิด “สาขาพรรค” ใน 2 จังหวัด เลือกประเดิมปักหมุดที่ “เมืองหลวงเพื่อไทย” ทั้งคู่ หนึ่งที่ อุดรธานี และ สอง ที่ เชียงใหม่ .. วันเสาร์ไปเปิดที่ อุดรธานี ก่อนเป็น สาขาที่ 1 มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเป็นประธาน .. ที่น่าสนใจกว่าคืองานอีกวันที่ เชียงใหม่ ที่แม้ “วิโรจน์” จะเดินทางไปด้วย และเป็นประธานตามตำแหน่ง .. แต่ดูว่า “ลำดับความสำคัญ” จะเทไปที่ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค และแคนดิเดตหัวหน้าพรรค มากกว่า ขนาด “หัวหน้าวิโรจน์” ยังต้องมาเดินตามต้อยๆ .. น่าสนใจไปกว่านั้น “สาขาพรรค” ที่เปิดกันนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่ “สันกำแพง” ถิ่นฐานบ้านเกิดของ “ตระกูลชินวัตร” แท้ๆ .. ทว่าในงานกลับไร้เงาทั้ง “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นสามี .. ในทำนอง สองเสืออยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เสือนางหนึ่ง “เจ๊แดง” ที่ข่าวว่าไปเป็นแบ๊กอัพให้ “พรรคเพื่อธรรม” สาขาของระบอบทักษิณ .. ด้วยไม่พอใจการขึ้นนำพรรคของอีกเสือ “เจ๊หน่อย” ที่ดูเหมือนได้อนุมัติจาก “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว .. ก็อยู่ที่ว่า 28 ต.ค.นี้ ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย นอกจากจะรู้แน่ว่าใครจะเป็นหัวหน้า-กรรมการบริหารพรรค แล้ว .. ก็ยังจะเกลี่ยตัวผู้สมัครทั้งในนามพรรค และที่เหลือที่จะถูกส่งไปอยู่ “พรรคสำรอง-พรรคนอมินี” ด้วย ..
ความเคลื่อนไหวของพรรคยังไม่เท่าการขยับตัวของ “อดีตรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” .. รายของ “ดร.ทริป” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ .. ก่อนหน้านี้แว่วว่า หน่ายการเมืองไม่น้อย แถมประสบการณ์ไม่ค่อยดี ด้วยตกอยู่ในเหตุการณ์วันยึดอำนาจ 22 พ.ค. 57 ที่มีมาเมาต์ว่าถึงกับทรุดไปเลย .. แต่ดูท่าเสียงปี่กลองเริ่มบรรเลง “ชัชชาติ” ที่เฟดไปรับจ็อบผู้บริหารอสังหาฯใหญ่ คงอดใจไม่ไหว เริ่มมีมูฟเมนต์ เรียกกระแสผ่านโซเชี่ยลแบบถี่ๆ .. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่ได้โพสต์เฟสบุ๊ก มานานร่วมปี แต่ช่วง 2 สัปดาห์นี้ โพสต์นู่นนี่ “ใส่บาตร-เดินตลาด-นั่งตุ๊กตุ๊ก” มาโหม้ดดด.
** ทับซ้อน-ซ่อนเงื่อน!! “ผู้ใหญ่” สั่งทบทวน“ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์” แทบไม่ทัน ยัดอำนาจให้ “คณะกรรมการไซเบอร์” ล้นประเทศ ขนาด “หน่วยงานความมั่นคง” ยังไม่รอด เจอ “ติดหนวด” ยึดคอมพิวเตอร์-มือถือ-อุปกรณ์-ดักฟัง - แอบอ่านข้อความ ปูด ETDA ทำการแทนในช่วงต้น ทับซ้อนอำนาจในตัวเอง ขนาด “บิ๊กตู่” ยังต้องสะดุ้ง
ไปไม่รอดอีกละมั้ง .. ความพยายามการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. ... ที่มีนิคเนมว่า “พ.ร.บ.ไซเบอร์” ของรัฐบาล คสช. .. ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 11 ต.ค. และคาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ก็มี “มือดี” ชักออกจากวาระไป .. โดยให้ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กฎหมาย ออกมาแก้ต่างว่า ยังอีกหลายขั้นตอนถึงเอาเข้า ครม. .. เชื่อว่า เหตุที่มีการชักออกไปกระทันหันนั้น ก็เพราะสัมผัสได้ถึงกระแสต่อต้านที่รุนแรง ด้วยถูกมองว่ามีเนื้อหา “ติดหนวด” .. มีเจตนาเพื่อล้วงข้อมูล ยึดคอมพิวเตอร์-มือถือ-อุปกรณ์ รวมไปถึง “ดักฟัง - แอบอ่านข้อความ” โดยไม่ต้องใช้หมายศาล .. ถึงขนาดผู้พิพากษาที่สงวนท่าทีต่อการออกกฎหมายของ “ฝ่ายบริหาร” มาตลอด ยังอดไม่ไหว .. ตามคิวที่ ศรีอัมพร ศาลิคุปต์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ ชี้ว่า กฎหมายฉบับนี้ละเมิดสิทธิประชาชนอย่างรุนแรง และเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย .. เป็นที่มาของข้อสั่งการ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ไปศึกษาทบทวนก่อนแล้วค่อยเสนอให้ ครม.พิจารณาใหม่ .. ร้อนถึง พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ต้องมาตั้งต้นใหม่ ตั้งคณะทำงาน 3 ฝ่าย รัฐ-เอกชน-ประชาชน ร่วมหารือ ..
นอกเหนือจากเรื่อง “ติดหนวด” ประเด็นหนึ่งที่ว่ากันว่า “ผู้ใหญ่” ถึงกับสะดุ้ง เมื่อรู้เข้า .. เป็นประเด็นอำนาจของ “สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ” ที่บังคับใช้กฎหมาย โดยเปิดทางให้ “แสวงหารายได้ แต่ไม่ต้องส่งรัฐ” .. ด้วย “อำนาจที่มากเกินไป” อาจเป็นเครื่องมือในการ “ผูกขาดรวบอำนาจ” บริหารจัดการด้านไซเบอร์ของประเทศทั้งหมด มาไว้ที่ “หน่วยงานเดียว” .. ที่สำคัญ “อำนาจติดหนวด” นั้น ยังสามารถสั่งการหน่วยงานราชการ รัฐ เอกชน ประชาชน กระทั่ง “หน่วยงานความมั่นคง” ก็ไม่รอด .. สาระสำคัญข้อหนึ่งที่เขียนไว้ในร่างกฎหมายระบุว่า “ในระหว่างที่ยังไม่มีเลขาธิการของคณะกรรมการไซเบอร์ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA ไปดำรงตำแหน่งเลขาฯ ชั่วคราว” .. อ่านเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ในขณะที่กำลังทำคลอด “ร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์” กันอยู่ ก็ทำคู่ขนานกับ “ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองส่วนบุคคลฯ” ด้วย .. ที่ตลกคือในร่า’ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ที่มีเจตนาเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป ก็กำหนดให้ “สำนักงาน ETDA” เป็นสำนักงานเลขาธิการฯ .. แค่อำนาจใน 2 ร่างกฎหมายก็ขัดกัน เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิงของ 3 หน่วยงาน รวมถึง ETDA ด้วย .. ที่ร้ายกว่านั้นผู้ที่อยู่เบื้องหลังร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ มีชื่อ “มาดามแอน” สุรางคณา วายุภาพ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของ ETDA ซะด้วย .. ความทับซ้อน-ซ่อนเงื่อน ตรงนี้ต่างหากที่ทำเอา “ผู้ใหญ่” ถึงขั้นสะดุ้ง สั่งการให้ทบทวนกฎหมายแทบไม่ทัน.
ช.ชฎา
รูป
พล.อ.ฝัง เฟิงฮุย พบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา – พล.อ.ฝัง เฟิงฮุย พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เปิดสาขาพรรคเพื่อไทย ที่ จ.เชียงใหม่ -- ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ศรีอัมพร ศาลิคุปต์, พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์