xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กแดง" ลั่นปกป้องสถาบัน-ไม่การันตีปฏิวัติ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กแดง" ลั่น ปฏิวัติไม่เกิด หากการเมืองไม่เป็นต้นเหตุจลาจล ขอความเห็นใจ อย่ามองกองทัพไม่เป็นกลาง ชี้ใครเป็นรัฐบาล ต้องหนุน กำชับ ผบ.หน่วยแยกแยะภารกิจ กันข้อครหาช่วงเลือกตั้ง ย้ำในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ คือองค์จอมทัพไทย ลั่นพร้อมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ชี้คนหมิ่นสถาบันฯ ส่วนใหญ่สติไม่สมประกอบ ถ้าเป็นคนจิตปกติ ก็มีความคิดแปลกๆ และอยู่เมืองไทยไม่ได้ ขอให้ทุกคนสำนึกบุญคุณแผ่นดินเกิด 'จาตุรนต์' สวนกองทัพส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อให้ผู้นำกองทัพทำรัฐประหาร

วานนี้ (17 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) กล่าวก่อนการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก วาระพิเศษว่า ถือเป็นโอกาสแรกของตนในฐานะที่รับตำแหน่ง ผบ.ทบ. ได้มีการเชิญผู้บังคับหน่วยมาประชุมระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไป เพื่อรับมอบนโยบาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสานต่อจากพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี และ อดีต ผบ.ทบ. ที่ได้สร้างความเข้มแข็ง แข็งแกร่งให้กับกองทัพไว้ตามแนวทาง Smart Man เมื่อมาถึงตน เป็นผบ.ทบ. ก็มาเป็น smart Soldier และ Strong Army นั่นหมายความว่า 2 ปีข้างหน้า กองทัพบกจะมีความเข้มแข็ง แข็งแกร่งอย่างเป็นรูปธรรม ให้มากยิ่งขึ้น

ในอนาคต ตามปฏิทินการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า กองทัพบกได้เตรียมการทำความเข้าใจกับกำลังพล ผู้บังคับหน่วย จะต้องแยกแยะภารกิจให้ออก ว่า เราป็นทหารของชาติ ของประชาชน มีหน้าที่ ที่จะสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม กองทัพต้องทำงานให้กับรัฐบาล เพราะฉะนั้น ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีเกิดขึ้น ตนได้เน้นย้ำในส่วนที่เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ว่าต้องใช้ความระมัดระวัง

" ผมจึงให้แนวทางของกองทัพ โดยเฉพาะ กกล.รส. เนื่องจากเราสวมหมวก 2 ใบ คือในฐานะกองทัพบก และในฐานะที่เป็นคสช. จากการเดินต่อไปนี้ ต้องระมัดระวัง ไม่ให้การเมืองเข้ามาใช้ประโยชน์ จากการช่วยเหลือประชาชน ยืนยันว่ากองทัพช่วยเหลือประชาชน เราไม่ได้หาเสียง" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่า ทหารสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เราต้องแยกแยะภารกิจให้ออก นี่คือจุดยืนของกองทัพ ซึ่งจะชี้แจงให้ผู้บังคับหน่วยรับทราบ ว่าเราต้องระมัดระวัง

เมื่อถามว่า สถานการณ์ในอนาคต หากเกิดวิกฤติ กองทัพจะปฏิวัติอีกหรือไม่ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงเป็นผบ.ทบ. ยืนยันมาตลอดไม่ปฏิวัติ แต่ก็ปฏิวัติ พล.อ.อภิรัชต์ นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย สื่อได้มีการบันทึกภาพในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่าให้เป็นเพียงแต่ภาพที่เกิดขึ้น ให้บันทึกอยู่ในสมอง ในความทรงจำ เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน ที่เคยเห็นภาพต่างๆที่เคยเกิดขึ้น เมื่อบ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ทำอะไรก็ลำบาก ค้าขายก็ลำบาก ถนนถูกบล็อก คนไทยออกมาตีกัน ยิงกัน ฆ่ากัน วันนั้นทหารยืนอยู่ตรงไหน เราถูกรัฐบาลสั่งการให้ออกมาควบคุมความสงบเรียบร้อย เราทำด้วยหัวใจ ที่ไม่ได้คิดแบบนักการเมืองว่า เราจะเข้ามาบริหารประเทศ

"ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้คิดอย่างมีเช่นเดียวกัน แต่ความที่ท่านต้องเสียสละ ถามว่าในวันนั้น จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจทำรัฐประหาร ยอมรับว่า ผมมีความคุ้นเคยกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่มีเรื่องส่วนตัวกับท่าน เพราะท่านใช้ผมทำงานมาโดยตลอด เดือนหนึ่งได้เจอกัน 5 ถึง 10 นาที ก็เต็มที่แล้ว ผมถึงบอกว่า ความเป็นกลางก่อนผมในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก ผมเจอท่านในเวลาสั้นๆ ถือว่าเก่งแล้วในชีวิตนี้เคยนั่งคุยกับท่านไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ได้เห็นความรัก ความรู้ ความทุ่มเท ในการทำงานของท่าน ซึ่งเป็นแบบอย่างหนึ่งของผม ในการดำเนินงานด้านราชการและถ้าวันนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจ บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อยู่ที่ประชาชน " ผบ.ทบ.กล่าว และว่า

ตนหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุการณ์รุนแรงในบ้านเมืองเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นอีก ที่ผ่านมามีเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ก็ไม่เคยขนาดนี้ เพราะมีการแก่งแย่ง ทางการเมือง การเอาชนะ ไม่รู้จักแพ้ ไม่รู้จักชนะ แล้วคนที่แพ้ก็คือประเทศ ยืนยันว่า กองทัพไม่มีวันชนะประชาชน แต่ประชาชนที่ออกมาสร้างความเดือดร้อน ยั่วยุให้จุดไฟเผา มีการประกอบระเบิด นั่นคือ ท่านแพ้ ท่านเป็นประชาชนที่ทำให้ประเทศแพ้ แทนที่เราจะแข่งขันทางการค้า แล้วต้องใช้เวลากี่ปีฟื้นฟูประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากเกิดเหตุการณ์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีการยกเลิกการนำเข้า ส่งออกของต่างประเทศ เป็นเงินมหาศาลกว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ ใช้เวลาเท่าไร จุดไฟเผาในเมือง เกิดกลียุค ปีเดียวสิ่งปลูกสร้างทำได้ แต่ในทางการค้า ไม่ใช่ ความมั่นใจของต่างชาติในการลงทุนต้องใช้เวลานานกว่านั่น แต่วันนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น อาจจะเห็นผลช้า ไม่ทันใจ ตนเชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำทุกอย่างอย่างรอบคอบ สิ่งที่สื่อถามว่า จะมีปฏิวัติหรือไม่ ตนหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า การเมืองอย่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติอีก

"ผมมั่นใจว่า ถ้าการเมืองไม่เป็นต้นเหตุแห่งการจลาจล ก็ไม่มีอะไร ประเทศไทยเคยมีปฏิวัติ มา 10 กว่าครั้ง แต่ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว เพราะช่วงหลังเกิดจากการเมืองทั้งสิ้น ผมไม่ได้บอกว่า นักการเมืองดี หรือไม่ดี แต่เชื่อว่านักการเมืองที่ดี ก็มี และนักการเมืองที่ไม่ดี ก็มี แต่ปัจจุบันคนไทยเป็นอย่างไร ผมเสียใจในหลายๆ เรื่องที่เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมถูกละเมิด การตัดสินคดีในหลายคดีกับคนทำความผิด บอกว่าไม่เป็นธรรม และประเทศชาติจะอยู่ตรงไหน อะไรเป็นกกลาง อะไรคือจุดยืนของประเทศ ในเมื่อบอกคนนี้ผิด ก็แย้งว่าไม่ผิด ถูกแกล้ง แล้วจะอยู่อย่างไร ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันจะให้คนไทยอยู่กันอย่างไรโดยไม่มีกฎระเบียบวินัย

พล.อ.อภิรัชต์ ยังกล่าวถึง จุดยืนการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงดำรงตำแหน่งเป็น องค์จอมทัพไทย บางครั้งทหารบางคนยังลืม ตนจะเตือนสติเขาว่า ผู้บังคับบัญชาสูงสุด คือองค์พระมหากษัตริย์ เนื่องจากพระองค์ท่าน ทรงดำรงพระอิสริยยศและดำรงตำแหน่งเป็นจอมทัพไทย เป็นสิ่งที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด

ในส่วนของกองทัพบก ถือเป็นข้าฯรองบาท มีหน้าที่และหัวใจปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่ง และเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยกองทัพบก จะใช้ศักยภาพและขีดความสามารถทุกอย่างในการปกป้องสถาบันฯ สำหรับการหมิ่นสถาบันฯ และการก้าวล่วงที่เกิดขึ้นในหลายครั้ง ก็เกิดจากคนสติไม่สมประกอบ เช่น เมื่อที่ผ่านมาเร็วๆนี้ มีการไปยื่นถวายฎีกา เมื่อตรวจสอบพบว่า เป็นผู้ป่วยทางจิต และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งรพ.ศรีธัญญา เรียบร้อยแล้ว

"คนที่หมิ่นสถาบันฯ ส่วนใหญ่เป็นคนที่จิตไม่ปกติ ส่วนคนที่จิตปกติ แต่มีความคิดแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้อยู่เมืองไทย มีการหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะอยู่เมืองไทยไม่ได้ ในเมื่อเราอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า ทำไมไม่สำนึกถึงบุญคุณแผ่นดินเกิด ไม่มีใครเขาไม่รักแผ่นดินเกิด รัฐบาลผลัดเปลี่ยนไป แต่องค์พระมหากษัตริย์ ต้องอยู่คู่ฟ้า คู่แผ่นดินไทยไปตลอด นี่คือหน้าที่ของกองทัพบก และผมจะปกป้องสถาบันฯ ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์ ให้ความเห็นว่า ต้นตอของความขัดแย้งทางการเมือง และรัฐประหาร มีสาเหตุจากนักการเมืองว่า การพูดตีขลุมว่าปัญหาความวุ่นวายเกิดจากนักการเมือง เป็นการแสดงความเห็นได้ แต่ถ้านักการเมืองมีความเห็นบ้างว่า ความไม่สงบ หรือความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เกิดจากการสมคบกันของหลายฝ่าย รวมทั้งผู้นำกองทัพ ก็มีส่วนร่วมด้วย ส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวาย และไม่ช่วยรัฐบาลในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ผู้นำกองทัพเอง ทำการรัฐประหาร ถ้าตนมีความเห็นอย่างนี้บ้าง ผบ.ทบ. จะว่าอย่างไร

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวว่า สิ่งที่ ผบ.ทบ.พูด เป็นการรับผิดชอบต่อบ้านเมืองในฐานะที่มีตำแหน่ง ซึ่งตนเชื่อว่าหลังการเลือกตั้ง จะไม่เกิดเหตุวุ่นวาย เพราะประชาชนไม่เอาด้วย

"การที่ ผบ.ทบ.ไม่ปฏิเสธเรื่องการรัฐประหารอีกนั้น คนตั้งคำถาม อาจกังวลเองไปล่วงหน้า ใครมาเป็น ผบ.ทบ. เขาไม่สามารถตอบเรื่องอนาคตได้ ท่านตอบตามหลักการ นั่นถือว่าถูกต้องแล้ว ถ้าไปคาดคั้นให้ปฏิเสธ ถ้าไม่มีเรื่อง แล้วเขาจะออกมาทำไม" นายสุเทพ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น