"ทักษิณ" โผล่ฮ่องกงตั้งวอร์รูมสู้เลือกตั้ง วางเป้า 250 เสียง ส่ง 3 ประสาน “เพื่อไทย-เพื่อธรรม-เพื่อชาติ” สั่ง “ยงยุทธ” แตกไลน์ “เพื่อชาติ” เพิ่มอีก หึ่ง “นายใหญ่” บินด่วนเคลียร์ปัญหา “เจ๊หน่อย - เจ๊แดง” หลัง “แกนนำเพื่อธรรม-เพื่อไทย” เห็นแย้งขนลูกพรรคไป “เพื่อธรรม” ทิ้ง “เพื่อไทย” ร้าง เชื่อเป็นแผนดัดหลัง “สุดารัตน์” ที่กำลังจะได้เป็น หน.เพื่อไทย
วานนี้ (4 ต.ค.) รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย จะได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในการประชุมใหญ่ของพรรคที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ และจะเป็นแม่ทัพรวมทั้งผู้เสนอตัวเป็นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า เนื่องจากแกนนำพรรคเพื่อไทยได้มีการหารือในทางลับถึงรายชื่อแคนดิเดททั้งหมดแล้วว่า เมื่อคนในตระกูลชินวัตรจะไม่ลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้ชื่อของ คุณหญิงสุดารัตน์ โดดเด่นกว่าแคนดิเดทรายอื่นๆ เนื่องจากมีฐานเสียง ส.ส.กทม.คอยสนับสนุน ขณะที่แคนดิเดทคนอื่นๆ อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายโภคิน พลกุล และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แม้มีความสามรรถ แต่ไร้ฐานเสียงสนับสนุน อีกทั้งบางรายยังมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเกินไปด้วย
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ที่อดีต ส.ส.ให้ความเคารพและสนับสนุนเนื่องจากเป็นนายทุนใหญ่ของพรรคมาตลอด ก็ไม่เคยแสดงความจำนงว่าอยากจะเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากมีภาระทางธุรกิจที่ต้องดูแล ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นั้น ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่นายสมชายจะถูกเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 ของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ในส่วนของพรรคเพื่อธรรม ที่ตั้งไว้เป็นพรรคสำรองมากกว่า จึงทำให้การประชุมนัดสำคัญของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมาหลายครั้งนายสมชายไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ พรรคเพื่อชาติ ที่เป็นพรรคของสายคนเสื้อแดง โดยมี นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นแกนนำในการควบคุมทิศทาง ยุทธศาสตร์ของพรรคดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เป็นที่ทราบกันดีภายในพรรคขณะนี้ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับแรงสนับสนุนจาก คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จึงยิ่งทำให้เสียงคัดค้านลดน้อยลงไปอีก ขณะที่ปัญหาเรื่องอดีตส.ส.หลายกลุ่มโดยเฉพาะในภาคอีสานคัดค้านคุณหญิงสุดารัตน์นั้น เวลานี้ถือว่าจบลงด้วยดี เนื่องจากมีการปรับความเข้าใจและกระจายบทบาทให้ทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ไม่เพียงแต่กลุ่ม กทม.เหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งการส่งเสริมคนรุ่นใหม่จากกลุ่มต่างๆอย่างเต็มที่ด้วย ทำให้อดีต ส.ส.หลายกลุ่มให้การยอมรับมากขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีการปรับความเข้าใจกัน โดยมีแนวทางยึดหลักประชาธิปไตยร่วมกัน
ในส่วนของการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคขณะนี้ค่อนข้างมีปัญหาพอสมควร เนื่องจากกติกาต่างไปจากเดิม ในการคำนวน ส.ส.ระบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ทำให้โอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลงจากเดิม และประเมินกันว่าอาจจะได้ไม่ถึง 20 ที่นั่ง เนื่องจากชนะในส่วน ส.ส.เขตเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ขณะนี้บรรดาอดีตรัฐมนตรี และผู้ใหญ่ภายในพรรค ต่างแย่งชิงขอลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้ง โดยใน กทม. ย่านฝั่งพระนคร ปรากฎชื่อทั้ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่เขตคลองเตย และนายสุธรรม แสงประทุม ที่กำลังพิจารณาพื้นที่อยู่ รวมถึง นายวัฒนา เมืองสุข ก็ขอลงสมัครที่เขตบางแคด้วย
รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า สำหรับพรรคเพื่อธรรมที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้า มีการตั้งขึ้นมาทั้งเตรียมพร้อมหากพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบ หากยังไม่เข้าช่วงเวลา 90 วันก่อนเลือกตั้ง จะให้สมาชิกพรรคทั้งหมดย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อธรรม แต่หากสถานการณ์การเมืองปกติ จะมีการส่งผู้สมัคร ส.ส.ที่พลาดหวัง ไม่ได้ลงสมัครจากพรรคเดิม ลงแข่งขัน เป็นทั้งการแก้ปัญหาพื้นที่เต็ม และยังเป็นการดึงคนที่มีแนวร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ให้ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่นๆ
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บินเข้าเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. ซึ่งล่าสุดบรรดาแกนนำพรรค และอดีต ส.ส. หลายพื้นที่นัดแนะเดินทางไปพบ เนื่องจากตอนนี้เกิดปัญหาภายในพรรค ในวันประชุมพรรคเมื่อวันที่ 3 ต.ค. หลังการประชุมยังมีการหารือนอกรอบของแกนนำพรรค อดีตส.ส.ของพรรคถึง 2 วง โดยชั้น 4 ที่ทำการพรรค เป็นวงของพรรคเพื่อธรรม มี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคพร้อมกับสมาชิกพรรคที่จะเดินไปในแนวทางพรรคเพื่อธรรม ได้ร่วมหารือร่วมกันในยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง ที่ตั้งเป้าว่าพรรคในเครือข่าย ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม และพรรคเพื่อชาติ ที่นายทักษิณวางไว้จะต้องได้รวมกันอย่างน้อย 250 ที่นั่ง
โดยปัญหาเกิดขากยุทธศาสตร์ที่เคยตกลงจะให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อธรรมให้หมด ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยร้าง เพราะมีการประเมินกันไปในทิศทางเดียว พรรคเพื่อไทยมีโอกาสถูกยุบพรรคค่อนข้างสูง แต่ต่อมาปรับเปลี่ยน เมื่อมีแนวโน้มว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์กับนางเยาวภาไม่ดีนัก โดยในวงหารือชั้น 8 ที่ทำการพรรค เป็นวงของพรรคเพื่อไทย นำโดยแกนนำพรรคชุดปัจจุบัน ซึ่งได้วางยุทธศาสตร์การเมือง รวมถึงนโยบายไปไกลมากแล้ว ไม่อยากให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความสับสน จะยังชูพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคหลักเหมือนเดิม นอกจากนี้ที่ไม่ลงตัวอีกประการคือ ในส่วนของอดีตส.ส.เขตหลายคน จากที่ตกลงว่าจะไปอยู่กับพรรคเพื่อธรรม แต่ภายหลังเกิดเปลี่ยนใจ เมื่อเห็นแนวทางที่ชัดเจนของพรรคหลัก ขอปักหลักกับพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคจะถูกยุบหรือไม่ถูกยุบ ทำให้ นายทักษิณ ที่รับรู้ปัญหาต้องเดินทางมายังฮ่องกง เพื่อหาข้อยุติ.
วานนี้ (4 ต.ค.) รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย จะได้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในการประชุมใหญ่ของพรรคที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 ต.ค.นี้ และจะเป็นแม่ทัพรวมทั้งผู้เสนอตัวเป็นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า เนื่องจากแกนนำพรรคเพื่อไทยได้มีการหารือในทางลับถึงรายชื่อแคนดิเดททั้งหมดแล้วว่า เมื่อคนในตระกูลชินวัตรจะไม่ลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้ชื่อของ คุณหญิงสุดารัตน์ โดดเด่นกว่าแคนดิเดทรายอื่นๆ เนื่องจากมีฐานเสียง ส.ส.กทม.คอยสนับสนุน ขณะที่แคนดิเดทคนอื่นๆ อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายโภคิน พลกุล และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แม้มีความสามรรถ แต่ไร้ฐานเสียงสนับสนุน อีกทั้งบางรายยังมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเกินไปด้วย
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล ที่อดีต ส.ส.ให้ความเคารพและสนับสนุนเนื่องจากเป็นนายทุนใหญ่ของพรรคมาตลอด ก็ไม่เคยแสดงความจำนงว่าอยากจะเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากมีภาระทางธุรกิจที่ต้องดูแล ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นั้น ขณะนี้มีความเป็นไปได้สูงที่นายสมชายจะถูกเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 ของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ในส่วนของพรรคเพื่อธรรม ที่ตั้งไว้เป็นพรรคสำรองมากกว่า จึงทำให้การประชุมนัดสำคัญของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมาหลายครั้งนายสมชายไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ พรรคเพื่อชาติ ที่เป็นพรรคของสายคนเสื้อแดง โดยมี นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นแกนนำในการควบคุมทิศทาง ยุทธศาสตร์ของพรรคดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เป็นที่ทราบกันดีภายในพรรคขณะนี้ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับแรงสนับสนุนจาก คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จึงยิ่งทำให้เสียงคัดค้านลดน้อยลงไปอีก ขณะที่ปัญหาเรื่องอดีตส.ส.หลายกลุ่มโดยเฉพาะในภาคอีสานคัดค้านคุณหญิงสุดารัตน์นั้น เวลานี้ถือว่าจบลงด้วยดี เนื่องจากมีการปรับความเข้าใจและกระจายบทบาทให้ทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ไม่เพียงแต่กลุ่ม กทม.เหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งการส่งเสริมคนรุ่นใหม่จากกลุ่มต่างๆอย่างเต็มที่ด้วย ทำให้อดีต ส.ส.หลายกลุ่มให้การยอมรับมากขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีการปรับความเข้าใจกัน โดยมีแนวทางยึดหลักประชาธิปไตยร่วมกัน
ในส่วนของการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคขณะนี้ค่อนข้างมีปัญหาพอสมควร เนื่องจากกติกาต่างไปจากเดิม ในการคำนวน ส.ส.ระบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ทำให้โอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลงจากเดิม และประเมินกันว่าอาจจะได้ไม่ถึง 20 ที่นั่ง เนื่องจากชนะในส่วน ส.ส.เขตเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ขณะนี้บรรดาอดีตรัฐมนตรี และผู้ใหญ่ภายในพรรค ต่างแย่งชิงขอลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้ง โดยใน กทม. ย่านฝั่งพระนคร ปรากฎชื่อทั้ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่เขตคลองเตย และนายสุธรรม แสงประทุม ที่กำลังพิจารณาพื้นที่อยู่ รวมถึง นายวัฒนา เมืองสุข ก็ขอลงสมัครที่เขตบางแคด้วย
รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า สำหรับพรรคเพื่อธรรมที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้า มีการตั้งขึ้นมาทั้งเตรียมพร้อมหากพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบ หากยังไม่เข้าช่วงเวลา 90 วันก่อนเลือกตั้ง จะให้สมาชิกพรรคทั้งหมดย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อธรรม แต่หากสถานการณ์การเมืองปกติ จะมีการส่งผู้สมัคร ส.ส.ที่พลาดหวัง ไม่ได้ลงสมัครจากพรรคเดิม ลงแข่งขัน เป็นทั้งการแก้ปัญหาพื้นที่เต็ม และยังเป็นการดึงคนที่มีแนวร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ให้ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่นๆ
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บินเข้าเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. ซึ่งล่าสุดบรรดาแกนนำพรรค และอดีต ส.ส. หลายพื้นที่นัดแนะเดินทางไปพบ เนื่องจากตอนนี้เกิดปัญหาภายในพรรค ในวันประชุมพรรคเมื่อวันที่ 3 ต.ค. หลังการประชุมยังมีการหารือนอกรอบของแกนนำพรรค อดีตส.ส.ของพรรคถึง 2 วง โดยชั้น 4 ที่ทำการพรรค เป็นวงของพรรคเพื่อธรรม มี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคพร้อมกับสมาชิกพรรคที่จะเดินไปในแนวทางพรรคเพื่อธรรม ได้ร่วมหารือร่วมกันในยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง ที่ตั้งเป้าว่าพรรคในเครือข่าย ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม และพรรคเพื่อชาติ ที่นายทักษิณวางไว้จะต้องได้รวมกันอย่างน้อย 250 ที่นั่ง
โดยปัญหาเกิดขากยุทธศาสตร์ที่เคยตกลงจะให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อธรรมให้หมด ปล่อยให้พรรคเพื่อไทยร้าง เพราะมีการประเมินกันไปในทิศทางเดียว พรรคเพื่อไทยมีโอกาสถูกยุบพรรคค่อนข้างสูง แต่ต่อมาปรับเปลี่ยน เมื่อมีแนวโน้มว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์กับนางเยาวภาไม่ดีนัก โดยในวงหารือชั้น 8 ที่ทำการพรรค เป็นวงของพรรคเพื่อไทย นำโดยแกนนำพรรคชุดปัจจุบัน ซึ่งได้วางยุทธศาสตร์การเมือง รวมถึงนโยบายไปไกลมากแล้ว ไม่อยากให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกิดความสับสน จะยังชูพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคหลักเหมือนเดิม นอกจากนี้ที่ไม่ลงตัวอีกประการคือ ในส่วนของอดีตส.ส.เขตหลายคน จากที่ตกลงว่าจะไปอยู่กับพรรคเพื่อธรรม แต่ภายหลังเกิดเปลี่ยนใจ เมื่อเห็นแนวทางที่ชัดเจนของพรรคหลัก ขอปักหลักกับพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคจะถูกยุบหรือไม่ถูกยุบ ทำให้ นายทักษิณ ที่รับรู้ปัญหาต้องเดินทางมายังฮ่องกง เพื่อหาข้อยุติ.