xs
xsm
sm
md
lg

อลงกรณ์แบะท่าชิงหน.ปชป. ชี้จะชนะเลือกตั้งต้องปฏิรูปพรรค4ด้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมแก้ไขระเบียบข้อบังคับพรรค เกี่ยวกับการเลือกหัวหน้าพรรค จากเดิมเลือกโดยที่ประชุมใหญ่พรรค มาเป็นการหยั่งเสียงจากสมาชิกพรรค ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า จะให้สมาชิกพรรคกว่า 2.5 ล้านคน ก่อนที่ คสช.จะมีคำสั่งให้ไปยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค มีสิทธิลงคะแนนหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคได้ โดยผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค จะมาจาก 2 ช่องทาง คือ คนที่เป็นสมาชิกพรรค จะต้องมีส.ส.รับรอง 20 คน หรือ สมาชิกพรรครับรอง 500 คน ส่วนคนนอกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค จะต้องมี ส.ส.รับรอง 40 คน หรือสมาชิกพรรค รับรอง 4 พันคนจากทุกภาค โดยก่อนการหยั่งเสียง ผู้สมัครจะต้องมาตกลงกันในเรื่องการตั้งกรรมการหยั่ง เสียง 5 คน เพื่อดูแลการหยั่งเสียง โดยวิธีการลงคะแนน จะทำผ่านแอพพลิเคชั่น มีสองรูปแบบที่กำลังพิจารณาคือ ให้ลงคะแนนทั้งประเทศ ในระยะเวลาสองสัปดาห์ หรือให้ลงคะแนนทีละภาค คล้ายกับการเลือกประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ มีข้อดีคือ จะทำให้คนสนใจติดตาม ทำให้เกิดความคึกคัก มีบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค รวมถึงการเป็นผู้นำปฏิรูปการมีส่วนร่วมของประชาชนกับพรรคการเมือง ส่วนข้อเสียคือ ยืดเยื้อและอาจมีการขยายผลเรื่องความขัดแย้ง จากการแข่งขันที่ยาวนาน ผู้บริหารพรรค จึงอยู่ในระหว่างตัดสินใจว่า จะเลือกรูปแบบใด หลังการหยั่งเสียงกรรมการหยั่งเสียง จะรายงานผลให้ที่ประชุมใหญ่รับทราบ ซึ่งจะมีการกำหนดระเบียบไว้ว่า การเลือกหัวหน้าพรรคในที่ประชุมใหญ่ จะต้องคำนึงถึงผลการหยั่งเสียงด้วย
ส่วนเรื่องหัวหน้าพรรคคนนอกนั้น แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เป็นความคิดของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ที่ต้องการให้พรรคเปิดกว้างให้โอกาสทั้งคนในและคนนอกพรรค สามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้ ลบภาพพรรคที่ถูกมองว่ากีดกันคนนอก และยังเป็นระบบที่ทำให้พรรค มีทางเลือกมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อคสช.คลายล็อกให้มีการประชุมใหญ่ได้ ก็จะมีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับพรรคทันที โดยคาดว่า หลังแก้ข้อบังคับพรรคแล้ว จะใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 2 เดือน ในการหยั่งเสียงไปจนถึงได้ตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือประมาณเดือนพ.ย.61
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และ อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวถึง กรณีกระแสข่าวถูกทาบทามให้ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ว่า มีการทาบทามให้กลับไปเป็นหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค จริง จากทางสาขาพรรค และอดีต ส.ส.บางส่วน เพราะเห็นว่าตนเคยเป็น อดีต รองหัวหน้าพรรค มาแล้ว 2 สมัย เคยเป็นรัฐมนตรี และ ส.ส.6 สมัย ไม่เคยย้ายพรรค ที่สำคัญคือ ตนเคยเป็นผู้นำในการผลักดันให้มีการปฏิรูปพรรคปชป.
"ผมยังไม่ได้ตอบรับ หรือปฏิเสธ เพียงตอบกลับไปว่า เคยประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว เพื่อสานต่องานปฏิรูปประเทศ ซึ่งต้องไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่พวกเขาก็ขอให้ทบทวนการตัดสินใจอีกครั้ง ซึ่งผมก็รับปาก ที่จะพิจารณาข้อเสนออย่างจริงจัง" นายอลงกรณ์ กล่าว และว่า ในมุมมองของตน เห็นว่าพรรคปชป. มีบุคลากรเก่งๆ มีความพร้อมที่จะกลับมาชนะการเลือกตั้ง ถ้าสามารถเปิดพรรคกว้าง และปฏิรูปพรรคอย่างน้อย 4 ด้าน คือ ปฏิรูปภาวะผู้นำ การบริหารจัดการ ความคิดวิสัยทัศน์ และนโยบาย รวมถึงวัฒนธรรมองค์กร คือความเป็นประชาธิปไตยในพรรค และถ้ามีการปฏิรูปพรรคได้สำเร็จ ก่อนการเลือกตั้งปีหน้า พรรค ปชป. ก็จะเป็นตัวอย่าง ต้นแบบการขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิรูปพรรคการเมือง สู่มิติใหม่ทางการเมืองในภาพรวมต่อไปด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น