xs
xsm
sm
md
lg

ส่องเส้นทางพันธมิตร"เนวิน-ป๊อก" ขุมพลังใหม่ที่ต้องจับตา !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**นาทีนี้ถือว่าชัดเจนแทบจะเรียกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว สำหรับอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ว่ายังต้องการ"ไปต่อ" เพราะจากคำพูดกับชาวกรุงเทพมหานคร ในย่านฝั่งธนบุรีเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา เปิดเผยว่า "เขาไม่ลงเลือกตั้ง แต่จะอยู่อย่างไร ให้ดูจากรัฐธรรมนูญ"
ชัดเจนก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ลงเลือกตั้งแน่นอน ซึ่งในทางกฎหมายก็ต้องเป็นเช่นนั้นด้วย เนื่องจากหากลงเลือกตั้งมัน ก็มีสถานะที่เปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนนี้คือ จากที่เคยพยายามทำให้เป็นคนกลาง หรือคนที่กำหนดกติกาหรือเป็น "กรรมการ" ก็จะกลายมาเป็น "ผู้เล่น" เป็นคู่กรณีกับพรรคการเมืองต่างๆทันที
ทำให้เหลือเส้นทางข้างหน้าอีก 2 ช่องทาง หากคิดจะ "ไปต่อ" นั่นคือ ยอมรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ของพรรคการเมือง และยอมรับการเสนอชื่อจากสมาชิกรัฐสภา ให้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งคราวหน้า
อย่างไรก็ดี เท่าที่หลายฝ่ายประเมิน เริ่มมีความเห็นตรงกันมากขึ้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะเลือกวิธีการแรก คือยอมรับให้พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และตอนนี้ก็คาดเดากันว่า น่าจะเป็น พรรคพลังประชารัฐ หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า เขาจะประกาศท่าทีให้ทราบภายในเดือนกันยายน โดยน่าจะเป็นราวกลางเดือน ค่อนไปทางปลายๆ เดือน ก็ต้องรอกันไปอีกระยะหนึ่ง
แต่อีกด้านหนึ่งก็น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ เมื่อมาพิจารณากันถึงฐานสนับสนุนจากกลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมือง ที่จะมารองรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในอนาคตแล้ว นอกเหนือจากเวลานี้ที่มี พรรคพลังประชารัฐ (บวกกลุ่มสามมิตร) และพรรครวมพลังประชาชาติไทย ดังกล่าวแล้ว ที่น่าจับตาก็คือ พรรคภูมิใจไทย ที่มี นายเนวิน ชิดชอบ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นแกนนำหลัก และหากย้อนกลับไปเมื่อครั้งการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือครม.สัญจร ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็ได้เห็นภาพชัดเจนแบบไม่ต้องอธิบายให้มากความว่าพวกเขาแสดงท่าทีชัดเจนขนาดไหนสำหรับการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในคราวหน้า
ขณะเดียวกัน เมื่อได้เห็นภาพของ เนวิน ชิดชอบ และพรรคภูมิใจไทย ที่ว่ากันว่า เวลานี้กำลังเดินสาย "เพิ่มพลังดูด" ในภาคอีสานไม่เบาเหมือนกัน โดยเฉพาะในเขตอีสานใต้ ที่เป็นฐานเดิมอยู่แล้ว ก็กำลังขยับขยายออกไปเรื่อยๆ เป้าหมายรุกคืบเข้าไปในกลุ่มอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเดิม ซึ่งต้อง "ตีให้แตก"
** อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณากันที่พรรคภูมิใจไทยแล้วก็ต้องมาโฟกัสให้เห็นถึงการ "เชื่อมโยง" กันบางอย่าง ระหว่าง เนวิน ชิดชอบ กับ "บิ๊กคลองหลอด" คนปัจจุบัน อย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จนทำให้ต้องจับตามองว่า นี่อาจเป็น "ขั้วอำนาจ" ที่พยายามจับกลุ่ม "ซ้อน" กันขึ้นมา เพื่อสร้างพลังต่อรองในอนาคต หรือไม่
แม้ว่าที่ผ่านมายังไม่ค่อยได้เห็นความสัมพันธ์ที่แนบแน่น ระหว่างคนสองคนอย่างเปิดเผย แต่เมื่อพิจารณาจากผลการโยกย้าย ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดของกระทรวงมหาดไทย ที่นำเสนอโดยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทุกอย่างก็ผ่านสะดวก โดยเฉพาะในบางตำแหน่งที่มีการ "ขุดออกมาจากกรุ" ให้ได้ออกมาโลดแล่นในยุทธจักรอีกครั้ง อย่างเช่น กรณีของ นายระพี ผ่องบุพกิจ ที่ในอดีตเคยเป็น "ดาว" พุ่งแรงเมื่อครั้งที่พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้คุมกระทรวงมหาดไทย และในฐานะคนบุรีรัมย์ บ้านเดียวกันเนวิน ชินชอบ ก็ได้เป็นผู้ว่าฯโคราช จังหวัดใหญ่บิ๊กเบิ้ม แต่เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือ ระพี ก็กระเด็นกระดอนจนมาเป็นผู้ตรวจฯ ในกระทรวงมหาดไทย
** แต่มาวันนี้ ระพี ก็ผงาดมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดเกรดเอบวก เพราะเป็นหนึ่งในจังหวัดปริมณฑล ติดอยู่ในกลุ่มพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกด้วย ไม่ธรรมดาเลย
และไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งนี้เพียงตำแหน่งเดียว แต่แว่วมาว่า มีอีกหลายเก้าอี้ ที่ "ขาใหญ่" แห่งอีสานใต้คนนี้ ผลักดันจนสมหวังในตำแหน่งพ่อเมือง เพราะถึงขนาดมีเสียงพูดกันว่า วันที่รู้ผลการโยกย้ายก็ได้ยินเสียงเฮกันลั่นบ้านที่บุรีรัมย์เลยทีเดียว เนื่องจากหลายคนไปรอลุ้นกันที่นั่น
ภาพที่ปรากฏออกมาแบบนี้ มันก็ทำให้มองออกได้ไม่ยากแล้วว่า ทั้งสองฝ่าย คือทั้ง เนวิน ชิดชอบ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้จับมือเป็นพันธมิตรทางการเมือง เป็น "ขุมพลังใหม่" ที่ซ้อนกันภายในอีกชั้นหนึ่ง อย่างน้อยสำหรับพล.อ.อนุพงษ์ ก็ย่อมถือว่าเพื่อเป็น "หลักประกัน"ไม่ให้ "ขาลอย" ในวันหน้า แม้ว่าเขาจะมีฐานะเป็น"พี่รอง" กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ในอนาคตเมื่อต้องเปลี่ยนโหมดการเมืองใหม่ มันก็ต้องมีฐานทางการเมืองหนุนหลังไว้บ้าง
**ดังนั้น นาทีนี้หากมองให้เชื่อมโยง มันก็เหมือนกับการ "แตะมือ" ซื้อใจแลกเปลี่ยนตอบแทนให้ลากยาวกันไปจนถึงวันข้างหน้า ในเมื่อตัวเองยังมีพลังอำนาจ ก็ต้องเค้นออกมาใช้ให้มากที่สุด นอกเหนือจากเรื่อง "กระสุน" ที่กำลังเร่งสะสมกันแบบไม่บันยะบันยัง เลยทีเดียว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น