xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"ลั่นทำหนังต้องขออนุญาต-ทีมหมูป่าโพสต์‘ขอบคุณ’ทุกฮีโร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - นายกฯ แถลงการณ์ปลาบปลื้มพระเมตตาในหลวง-พระบรมวงศานุวงศ์ สร้างขวัญกำลังใจทำคนไทยทุกฝ่าย พร้อมไมตรีจากมิตรประเทศ มุมานะจนช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า ออกจากถ้ำหลวงอย่างปลอดภัย ยกความเสียสละ "จ่าแซม" เป็นต้นแบบแห่งความกล้าหาญ พร้อมวิงวอนอย่างยุ่งกับเด็ก ปล่อยให้เรียน ใครจะนำไปทำหนังต้องขออนุญาต แถลงปิด ศอร. ภารกิจมิสชั่น พอสซิเบิล "ณรงค์ศักดิ์" เผยในหลวงทรงติดตามห่วงใย พระราชทานของหาไม่ได้ในตลาด แพทย์ยืนยันแข็งแรงทุกคน 8 คนแรก ไร้โรคอุบัติใหม่-ให้ญาติเยี่ยมห่าง 2 เมตร ขณะที่กลุ่มหลังสัญญาณชีพ-ความดันดี พบปอดอักเสบเล็กน้อย 1 ราย “หน่วยซีล” ขอบคุณทุกทีมจากทั่วโลก ถือเป็นปฏิบัติการที่โลกต้องจดจำ ด้านทีมหมูป่าโพสต์ขอบคุณทุกฮีโร่ บุญคุณนี้ไม่มีลืม สัญญาจะเป็นเด็กดี

วานนี้ (11 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ผ่านรวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่ร่วมสนับสนุนภารกิจค้นหาและกู้ภัยนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ช่วยโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คน ที่ประสบภัยติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 ที่นักฟุตบอลและผู้ช่วยโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย รวม 13 คน ได้ประสบอันตราย ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย รัฐบาลได้รวบรวมสรรพกำลังเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ ด้วยการบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ได้ร่วมมือกันเสียสละ อดทน ปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มขีดความสามารถ ด้วยสติปัญญาและความกล้าหาญ ประกอบกับกำลังใจจากทั่วทุกมุมโลก ทุกชาติ ศาสนา ที่ส่งมายังประเทศไทยจนบัดนี้ ภารกิจการค้นหาและกู้ภัยได้สำเร็จลุล่วงลงแล้ว รวมใช้เวลาทั้งสิ้น 17 วัน ส่งผลให้ผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน และหน่วยกู้ภัย ประสบความสำเร็จ ออกจากวนอุทยานถ้ำหลวงได้อย่างปลอดภัย

ในยามที่ประชาชนประสบทุกข์ภัย เราได้รับพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงติดตามข่าวสารการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด พระราชทานความช่วยเหลือต่างๆ ตลอดจนพระราชทานขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตลอดเวลา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อปวงชนชาวไทย ขอจงทรงพระเจริญ

"พี่น้องที่เคารพครับ ผมในนามของรัฐบาลไทย ต้องขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งในความเสียสละ และความมุมานะในการปฏิบัติงานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ทุกองค์กร ประชาชน จิตอาสา และสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่สนับสนุนทั้งองค์ความรู้ กำลังคน เครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนกำลังใจและไมตรีจิตจากมิตรประเทศทั่วโลก จนทำให้ภารกิจในครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยดี เหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ให้พวกเราได้เรียนรู้ว่า แม้ภารกิจจะยากลำบากและมีอุปสรรคกีดขวางมากมายเพียงใด แต่หากเรามีสติ มีความมุ่งมั่น มีความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ พร้อมที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวม อุปสรรคทุกอย่างจะสามารถคลี่คลายได้"

แม้วันนี้ภารกิจจะเสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ภาพของความร่วมแรงร่วมใจโดยไม่แบ่งเชื่อชาติ ศาสนา จะยังคงอยู่ตลอดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของเจ้าหน้าที่ผู้กล้าหาญ จ.อ.สมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจมแห่งกองทัพเรือ อาสาสมัครผู้สละชีพในการปฏิบัติการครั้งนี้อย่างสมเกียรติ ความเสียสละของ จ.อ.สมาน จะเป็นต้นแบบของความกล้าหาญ และประทับในจิตใจของพวกเราตลอดไป

ในโอกาสนี้ ผมขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก อีกทั้งพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดดลบันดาลประทานพรให้คณะเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ตลอดจนชาวต่างประเทศทุกประเทศ ประสบแต่ความสุขความเจริญ สมบูรณ์พร้อมด้วยกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญา และเดินทางกลับสู่มาตุภูมิโดยสวัสดิภาพโดยทั่วกัน

*** 'บิ๊กตู่'สั่งอย่ายุ่งกับทีมหมูป่าปล่อยให้เรียน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจใกล้สำเร็จ 100% แล้ว เหลือเพียงการฟื้นฟูสถานที่และดูแลทั้ง 13 ชีวิตให้แข็งแรงปลอดภัย ก่อนส่งกลับบ้าน แต่เรื่องที่ต้องระมัดระวังคือ ความเป็นส่วนตัวของเด็ก การตอบคำถามต่างๆ ที่ไม่ควรนำคำพูดของเด็กไปขยายความต่อ ทางที่ดี ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเด็ก และปล่อยให้เรียนหนังสือจะดีกว่า เพราะเมื่อรอดชีวิตออกมาแล้ว ก็เป็นชะตาชีวิตของเด็กที่จะต้องเป็นคนดีต่อไปในสังคม

ส่วนประเด็นดราม่า นายอีลอน มัสก์ ประธานบริษัท เทสลาสเปซ เอ็กซ์ และ บริษัท บอริงคอมพะนี ได้ทวิตเตอร์ ตอบโต้กับ นายณรงศักดิ์ โอสถธนาธร ผวจ.พะเยา ที่ระบุว่า แคปซูลดำน้ำ ที่นายอีลอน มัสก์ เสนอมาไม่สามารถใช้งานได้จริง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายอีลอน ให้ตนดูอุปกรณ์ที่นำมาช่วยเหลือ ที่สนามบินเชียงราย พร้อมให้คนทดสอบ ซึ่งตนได้ขอบคุณที่นำมา แต่ก็จะไปพิจารณาที่ถ้ำด้วยว่า สามารถใช้ได้มากน้อยเพียงใด หากใช้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ต้องดูสถานการณ์ ซึ่งเขาเคยใช้ในสถานการณ์อื่นมาแล้ว แต่ในประเทศไทย อาจไม่สามารถทะลุผ่านช่องที่แคบได้ นายอีลอน เองก็ระบุว่า จะไปหาวิธีการอื่นมาอีกครั้ง จึงขออย่าเป็นเรื่องดราม่าไปหมด และอย่าพูดอะไรเสียหาย และเชื่อว่า ผอ.ศอร. ไม่ได้มีเจตนารมณ์เช่นนั้น

สำหรับใครที่จะนำเหตุการณ์ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงไปทำเป็นภาพยนต์นั้น จะต้องของอนุญาตตามขั้นตอน ผ่านคณะกรรมการภาพยนตร์และวิดีทัศน์แห่งชาติ เพื่อพิจารณาว่า เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม จะเข้าไปถ่ายทำในพื้นที่ใดก็ต้องของอนุญาต ไม่ใช่จะนำไปทำได้เลย ต้องอนุญาตก่อน

*** "ณรงค์ศักดิ์" ปิด ศอร.จบภารกิจมิสชั่นพอสซิเบิล
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) พร้อมด้วย พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมแถลงปิด ศอร. ในการปฏิบัติช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชน และโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี รวม 13 คนที่ติดในถ้ำหลวง

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ประกาศความสำเร็จ มิสชั่นพอสซิเบิล เป็นภารกิจสำคัญที่ไทยสร้างชื่อเสียงระดับโลก ทำงานครั้งนี้สำเร็จลุกล่วงไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระองค์ทรงติดตามห่วงใย ชื่นชมการทำงานเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พระองค์ทรงพระราชทาน กำลังใจ สิ่งของ พระองค์พระราชทานอุปกรณ์ต่างๆ ที่บางครั้งไม่สามารถหาได้ในท้องตลาดได้ พระองค์พระราชทานมาทันเวลา เพื่อจะช่วยน้อง 13 คนได้ทันเวลา ในการปฏิบัติงานครั้งนี้ พวกเราถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ พวกเราขอเทอดทูนได้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม เพื่อศิริมงคล แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสืบไป การปฏิบัติงานครั้งนี้ เป็นพระกรุณาธิคุณ

"การปฏิติติงานครั้งนี้ เรื่องสำคัญคือความสามัคคี ไม่ใช่เฉพาะเชียงราย ประเทศไทย แต่เป็นความสามัคคีในและต่างประเทศ เหตุการณ์ครั้งนี้เกินคำว่ากู้ภัย กู้ชีพ แสดงให้เห็นว่า ความสามัคคี ไม่ว่าชนชาติใด เชื้อชาติใด ที่มาช่วยชีวิต 13 หมูป่า ออกมาจากถ้ำ เป็นการทลายภาษา เชื้อชาติ เพื่อให้ทุกคนบรรลุเป้าหมายเดียวกัน" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

*** แพทย์ยัน 13 หมูป่าแข็งแรงดี
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 , นพ.ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แถลงความคืบหน้าการรักษาพยาบาลทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน ว่า ผู้ป่วยกลุ่มที่ 1 จำนวน 4 คน อายุ 14-16 ปี เข้ารับการรักษาตั้งแต่ 8 ก.ค. ทั้งหมดสดชื่นดี สามารถลุกนั่ง ทำกิจวัตรประจำวัน รับประทานอาหารปกติได้ และอนุญาตให้ญาติเยี่ยมผู้ป่วยโดยสวมชุดป้องกันตามมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรค ระยะห่าง 2 เมตร และงดการสัมผัสผู้ป่วย

ผู้ป่วยกลุ่มที่ 2 จำนวน 4 คน อายุ 12-14 ปี เข้ารับการรักษาตั้งแต่ 9 ก.ค. ล่าสุดอาการโดยรวมทุกคนสดชื่นดี พูดคุยโต้ตอบได้ดี ไม่มีไข้ รับประทานอาหารปกติแล้ว และไม่ต้องปิดตา สามารถมองสู้แสงได้ดี ผลเอ็กซเรย์ปอดปกติ แต่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ทีมแพทย์อนุญาตให้ญาติสวมชุดป้องกัน เข้าเยี่ยมห่าง 2 เมตร และงดการสัมผัสผู้ป่วยเช่นกัน

ขณะที่ผู้ป่วยกลุ่มที่ 3 จำนวน 5 คน เข้ารับการรักษา 10 ก.ค. อายุระหว่าง 11-25 ปี ผลการตรวจประเมินจากทีมแพทย์ พบว่าแรกรับสัญญาณชีพ ความดันโลหิตดี ไม่มีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ ปอดอักเสบเล็กน้อย 1 คน ผู้ป่วยทุกคนทีมแพทย์ได้ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และพิษสุนัขบ้า ให้วิตามินบี 1 และยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา และวางแผนให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าประเมินร่างกายโดยละเอียดอีกครั้ง พร้อมกันนี้ทีมแพทย์ได้อนุญาตให้ญาติเยี่ยมผู้ป่วยผ่านห้องกระจก ตามเวลาที่กำหนด

สำหรับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ส่งตรวจเพิ่มเติมที่กรุงเทพฯ ในผู้ป่วยกลุ่มแรกตรวจไม่พบเชื้อโรคติดต่อประจำถิ่นที่เป็นอันตราย (โรค Melioidosis, Leptospirosis, Scrub Typhus, Nipah Virus) ส่วนการตรวจอื่นยังอยู่ระหว่างการตรวจเพิ่มเติม

***"หน่วยซีล"ยกเป็น"ปฏิบัติการโลกต้องจำ"
แฟนเพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEALโพสต์ข้อความระบุว่า ปฏิบัติการพาหมูป่ากลับบ้าน เสร็จลงแล้ว Thai Navy SEALs ขอขอบคุณทุกทีม ทั้งนักดำน้ำจากทั่วโลก ทีมแพทย์ ทีมสนับสนุนนานาชาติ ทีมซีลนอกราชการ ทีมครูบา ทีมสนับสนุนทางจิตวิญญาณปลุกขวัญกำลังใจ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงทีมส่งเสบียง ทีมอัดอากาศ ทีมดูดน้ำ ทีมไฟฟ้า ทีมปีนถ้ำ ทีมแม่ครัว ทีมทำความสะอาดห้องน้ำ ทีมเก็บขยะ ชาวแม่สาย และผู้คนจากทั่วโลกที่ส่งกำลังใจมาถึงพวกเราจนปฏิบัติการนี้สำเร็จวันนี้ พลังของพวกเราทั้งโลก ทำให้ปฏิบัติการนี้ .....เป็นปฏิบัติการที่โลกจะต้องจดจำไปอีกนาน

*** ทีมหมูป่าโพสต์บุญคุณนี้ไม่มีลืม-จะเป็นเด็กดี
ด้านแฟนเพจอย่างเป็นทางการของทีม “หมูป่าอะคาเดมี่”ก็ได้มีการโพสต์ข้อความขอบคุณทุกๆ คนที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับบอกว่า จะไม่มีวันลืมน้ำใจที่ทุกคนมีให้กับเด็กๆในทีมอย่างแน่นอน

"เราหมูป่าทุกๆ คนทุกๆ รุ่น ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ ฮีโร่ ที่ช่วยเหลือน้องๆหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตออกมาอย่างปลอดภัย เราจะไม่ลืมในสิ่งที่ทุกท่านได้ช่วยเราอย่างเต็มที่ ตลอดเวลา # น้องๆจะเป็นคนดีของสังคมนะคะ # ทุกคนคือฮีโร่ของพวกเรา # ขอบคุณทีมงานทั้งประเทศไทยและทีมต่างชาติ # ทีมหมูป่าอะคาเดมี่"

สำหรับทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ3 ปีที่แล้ว โดยนายนพรัตน์ กันทะวงค์ หรือ “โค้ชนก”และ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ “โค้ชเอก”ที่ต้องการอยากจะสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมาเพื่อให้เด็กๆในท้องถิ่น โดยเฉพาะเด็กกลุ่มชาติพันธุ์ที่ขาดโอกาส แต่มีใจรักได้มีโอกาสเล่นฟุตบอล โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาฝึกซ้อม และไปแข่งในรายการต่างๆ

เดิมทีทีมหมูป่าฯ ใช้ชื่อว่า “ทีนทอล์คอะคาเดมี่”ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “เอ็นทีแม่สายสปอร์ต”และ “เอฟเอฟอะคาเดมี่”ตามสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน ซึ่งปัจจุบันทีมหมูป่าฯ มีนักฟุตบอลทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน และมีสมาชิกรวมกว่า 70 คน สำหรับรางวัลนั้น ทีมหมูป่าฯ เคยคว้ารองแชมป์ภาคเหนือรายการ“คาเนซ่าคัพ”รวมถึงแชมป์ อบจ.เชียงรายคัพ มาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น