วานนี้ (21 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ว่า ได้นัดพูดคุย ในวันจันทร์ที่ 25 มิ.ย.นี้ ที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดี ช่วงบ่าย คาดว่าจะใช้เวลาในการพูดคุยประมาณ 2 ชม. เมื่อถามว่า ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ ได้ยืนยันแล้วว่า จะไม่มาร่วมด้วย จะส่งผลอะไรต่อการพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ไม่ส่งผลอะไร ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ตามกฎระเบียบต่างๆ ที่รัฐบาลและกกต.ออกไป
เมื่อถามว่า หากมีการตกลงอย่างไร 2 พรรคนี้ ก็ต้องยอมรับด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ถามกลับว่า "ตกลงอย่างไร ไม่มีตกลง" เมื่อถามต่อว่า ข้อตกลงเรื่องการคลายล็อก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็บอกไปว่าจะต้องคลายอย่างไร เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองบางกลุ่มมีการนัดออกรอบตีกอล์ฟ รู้สึกกังวลกับการเคลื่อนไหวเหล่านี้ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่กังวล ก็กำหนดไว้แล้ว ก็อย่าไปทำกิจกรรมทางการเมือง ไปพูดคุยกันก็ธรรมดา เมื่อถามว่าต้องมีการกำชับให้คสช.ดูแล หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่ต้องกำชับหรอก หน้าที่เขา จะไปกำชับเขาทำไม
ผู้สื่อข่าวถามว่าใน การพูดคุย วันที่ 25 มิ.ย.นี้ จะนำร่างสัญญาประชาคมเพื่อสร้างความปรองดองมาทำความเข้าใจด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว นี่เรื่องของการเมืองโดยเฉพาะ เมื่อถามว่าหลังการหารือ จะสามารถเปิดเผยผลการหารือ ได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เปิดเผยอยู่แล้ว ถ้าตกลงกันอย่างไรก็เปิดเผย โดยจะให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นผู้แถลงผลการพูดคุย
ทั้งนี้ การหารือกับพรรคการเมืองจะ มีเพียง 2 รอบเท่านั้น คือรอบที่ตนเป็นประธาน และรอบที่นายกฯ เป็นประธานฯ โดยนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้ในครั้งนี้ ไปให้นายกฯ เพื่อพิจารณาก่อนประชุมหารืออีกรอบหนึ่ง
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ในช่วงนี้ที่ยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ที่พรรคการเมืองมีกิจกรรมหรือ แถลงข่าว สื่อไปทำข่าวได้ แต่ต้องไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ใช่ไปทำข่าว แล้วไปทำแต่เรื่อง
"ก็สื่อไปแล้ว ก็ชอบไปสร้างปัญหาตลอด ทำข่าวให้ตีกันตลอด โอ้โฮ !! ไม่เคยถามในทางที่ดีเลย ถามแต่ด้านลบอย่างเดียวตลอด ก็หากคสช. เตือนสื่อ เรียกสื่อมาชึ้แจง ก็ไปชี้แจงก็แล้วกัน ผมไม่รู้ ไปถามคสช.เอง" พล.อ.ประวิตร กล่าว
** ปชป.ส่ง"จุรินทร์-สุธรรม" ร่วมถกคสช.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรค และ นต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรค ไปร่วมประชุมกับ พล.อ.ประวิตร ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม การที่นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ไปร่วมหารือด้วย เนื่องจากต้องเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ทั้งนี้ เนื้อหาที่ระบุในหนังสือเชิญเกี่ยวข้องกับการจัดการแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากคำสั่ง คสช. กฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายเลือกตั้งส.ส. ที่ยังมีความอ่อนไหวอยู่ เพื่อให้สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายได้อย่างครบถ้วน
นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และอดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระแสข่าว การเดินสายดูดนักการเมืองพื้นที่ภาคอีสาน ว่า การก่อเกิดพรรคการเมือง มีทุกครั้งหลังการรัฐประหาร เหมือนการเอาตะแกรงมาร่อนหาจุดลงตัว ตนเคารพการตัดสินใจ ของเพื่อนนักการเมือง ไม่ควรจะไปตำหนิว่า ใครจะไปอยู่ไหน แต่ขอให้เลือกบนพื้นฐานมีประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ไม่อย่างนั้นอุดมการณ์ของนักการเมืองที่เป็นหัวใจสำคัญ จะจางหายไป
"มีคนมาชวนผมเหมือนกัน พวกสร้างพรรคใหม่ๆ ก็มีมาชวนไม่นานมานี้ เขาคิดว่าการตั้งพรรคของเขา ตอบโจทย์สถานการณ์การเมืองปัจจุบันบลของประเทศ ใครจะไป ก็ไม่ผิด พรรคไหนตรงกับอุดมการณ์คนใดก็ไปได้ แต่อุดมการณ์ผม ไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตรงกับประชาธิปัตย์ อยู่ด้วยกันต่อไปแน่นอน ในพื้นที่อีสานตอนนี้ ก็โดนชวนกันหมด แต่อย่าบอกว่าโดนดูดเลย อยู่ที่แต่ละคน การมาชวนด้วยเงื่อนไขอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นสิทธิเรื่องปติ ทุกคนมีแนวคิดอุดมการณ์ทั้งนั้น การชวนคนไม่เสียายหรอก แต่ผมไม่ไปแน่"
เมื่อถามว่า หากมีการตกลงอย่างไร 2 พรรคนี้ ก็ต้องยอมรับด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ถามกลับว่า "ตกลงอย่างไร ไม่มีตกลง" เมื่อถามต่อว่า ข้อตกลงเรื่องการคลายล็อก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็บอกไปว่าจะต้องคลายอย่างไร เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองบางกลุ่มมีการนัดออกรอบตีกอล์ฟ รู้สึกกังวลกับการเคลื่อนไหวเหล่านี้ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่กังวล ก็กำหนดไว้แล้ว ก็อย่าไปทำกิจกรรมทางการเมือง ไปพูดคุยกันก็ธรรมดา เมื่อถามว่าต้องมีการกำชับให้คสช.ดูแล หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่ต้องกำชับหรอก หน้าที่เขา จะไปกำชับเขาทำไม
ผู้สื่อข่าวถามว่าใน การพูดคุย วันที่ 25 มิ.ย.นี้ จะนำร่างสัญญาประชาคมเพื่อสร้างความปรองดองมาทำความเข้าใจด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว นี่เรื่องของการเมืองโดยเฉพาะ เมื่อถามว่าหลังการหารือ จะสามารถเปิดเผยผลการหารือ ได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เปิดเผยอยู่แล้ว ถ้าตกลงกันอย่างไรก็เปิดเผย โดยจะให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นผู้แถลงผลการพูดคุย
ทั้งนี้ การหารือกับพรรคการเมืองจะ มีเพียง 2 รอบเท่านั้น คือรอบที่ตนเป็นประธาน และรอบที่นายกฯ เป็นประธานฯ โดยนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้ในครั้งนี้ ไปให้นายกฯ เพื่อพิจารณาก่อนประชุมหารืออีกรอบหนึ่ง
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ในช่วงนี้ที่ยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมืองว่า ที่พรรคการเมืองมีกิจกรรมหรือ แถลงข่าว สื่อไปทำข่าวได้ แต่ต้องไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ใช่ไปทำข่าว แล้วไปทำแต่เรื่อง
"ก็สื่อไปแล้ว ก็ชอบไปสร้างปัญหาตลอด ทำข่าวให้ตีกันตลอด โอ้โฮ !! ไม่เคยถามในทางที่ดีเลย ถามแต่ด้านลบอย่างเดียวตลอด ก็หากคสช. เตือนสื่อ เรียกสื่อมาชึ้แจง ก็ไปชี้แจงก็แล้วกัน ผมไม่รู้ ไปถามคสช.เอง" พล.อ.ประวิตร กล่าว
** ปชป.ส่ง"จุรินทร์-สุธรรม" ร่วมถกคสช.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรค และ นต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรค ไปร่วมประชุมกับ พล.อ.ประวิตร ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม การที่นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้ไปร่วมหารือด้วย เนื่องจากต้องเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ทั้งนี้ เนื้อหาที่ระบุในหนังสือเชิญเกี่ยวข้องกับการจัดการแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากคำสั่ง คสช. กฎหมายพรรคการเมือง และกฎหมายเลือกตั้งส.ส. ที่ยังมีความอ่อนไหวอยู่ เพื่อให้สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายได้อย่างครบถ้วน
นายศุภชัย ศรีหล้า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และอดีตรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระแสข่าว การเดินสายดูดนักการเมืองพื้นที่ภาคอีสาน ว่า การก่อเกิดพรรคการเมือง มีทุกครั้งหลังการรัฐประหาร เหมือนการเอาตะแกรงมาร่อนหาจุดลงตัว ตนเคารพการตัดสินใจ ของเพื่อนนักการเมือง ไม่ควรจะไปตำหนิว่า ใครจะไปอยู่ไหน แต่ขอให้เลือกบนพื้นฐานมีประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ไม่อย่างนั้นอุดมการณ์ของนักการเมืองที่เป็นหัวใจสำคัญ จะจางหายไป
"มีคนมาชวนผมเหมือนกัน พวกสร้างพรรคใหม่ๆ ก็มีมาชวนไม่นานมานี้ เขาคิดว่าการตั้งพรรคของเขา ตอบโจทย์สถานการณ์การเมืองปัจจุบันบลของประเทศ ใครจะไป ก็ไม่ผิด พรรคไหนตรงกับอุดมการณ์คนใดก็ไปได้ แต่อุดมการณ์ผม ไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตรงกับประชาธิปัตย์ อยู่ด้วยกันต่อไปแน่นอน ในพื้นที่อีสานตอนนี้ ก็โดนชวนกันหมด แต่อย่าบอกว่าโดนดูดเลย อยู่ที่แต่ละคน การมาชวนด้วยเงื่อนไขอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นสิทธิเรื่องปติ ทุกคนมีแนวคิดอุดมการณ์ทั้งนั้น การชวนคนไม่เสียายหรอก แต่ผมไม่ไปแน่"